ค่าใช้จ่ายในกรุงเทพฯกับต่างจังหวัดเท่ากันจริงหรือ

กทม ค่าครองชีพเท่าๆกับ ต่างจังหวัดเมืองใหญ่ๅ อย่าง ขอนแก่น เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา ค่ะ ถ้านอกจากนั้นต่างแน่นอน แต่เรื่องประหยัด พอทำได้ค่ะ แต่เรื่องจะให้ขึ้นแต่รถเมล์ ถ้าเรียนใน กทม กลุ่มที่มีรถไฟฟ้า ส่วนใหญ่ รถไฟฟ้าสะดวกกว่าค่ะ และค่ารถไฟฟ้าค่อนข้างแพงเลย

ข้าวไม่เกิด 50 น่าจะกินได้แต่เฉพาะอาหารโรงอาหารในมอ 50 ราคาอาหารตามสั่งทั่วไป อาจไม่พอ ไม่ได้ค่าเครื่องดื่ม ค่าขนมกินเล่นเลยค่ะ

แนะนำ แม่ให้ 6,000 ก็รับไว้เท่านั้นแหละค่ะ แต่หางานพิเศษทำเอา จะได้กินสบายๆ ซื้อของที่ชอบเอง เรื่องหอพัก สี่พัน น่าจะพอหาได้ เป้นผู้หญิงอย่าหาหอถูกเกินไป บรรยากาศมักไม่ปผลอดภัย แต่ค่ากินจะน้อยลง แนะนำหางานพิเศษเพิ่มเท่านั้น อย่าไปลดที่หอพักเด็ดขาด

ก็คือรวมแล้วแม่จะให้เงินเดือนละ 1 หมื่นบาทรวมค่าที่พัก อยู่กทม.พอถ้าไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย คุณอย่าไปยึดติดเรื่องค่าใช้จ่ายเท่ากันไหม ประเด็นอยู่ที่ว่าเงินพอค่าใช้จ่ายไหมซึ่งพอ ถ้าต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายแนะนำให้สมัครหอในแต่ก็จะมีกฎระเบียบและคุณอาจจะไม่ได้อยู่หอในเพราะห้องพักมีจำนวนจำกัด กินข้าวมื้อละไม่เกิน 50 บาทสำหรับนักศึกษาพอสมควรแล้ว ในกทม.อาหารมื้อละ 40 บาทก็มี คุณจะนั่งรถไฟฟ้าก็ได้แต่คุณไม่จำเป็นต้องนั่งรถไฟฟ้าทุกวันที่คุณไปเรียน

นี่มองว่าใช้ให้พอมันก็พอค่ะ แต่จะอยู่ลำบากมากๆแบบมากๆหน่อย เพราะถ้ามาเรียนมันมักจะมีค่าอื่น ๆ เพิ่มเติมแบบที่เราไม่ได้วางแผนไว้ พวกค่ากิจกรรม ค่าชีทเรียน. ค่าหนังสืออุปกรณ์การเรียน. ถ้าค่าพวกนี้รวมอยู่ในค่าใช้จ่าย 6000 ด้วย ก็อาจไม่พอได้ค่ะ ค่ากินมื้อละ 50 นี่ ไม่มีน้ำนะคะ ถ้าซื้อน้ำกิน ต้องมี55 -65 บาท เพราะข้าวจานนึงก็อย่างต่ำ 50 แล้ว. (ข้าวจานละ 40 - 45 มี แต่หากินยากมากกก และอาจหากินได้แค่ในโรงอาหารโรงอาหารมหาวิทยาลัย) จริงๆคิดว่าถ้าได้เพิ่มอีกสักสองพันน่าจะกำลังดีค่ะ เผื่อฉุกเฉินต้องใช้เงิน และยังไงไปเรียนสังคมต้องมี เพื่อนชวนไปกินขนม ไปเที่ยวมันต้องมีบ้าง เพื่อนทำงานกลุ่มค่างานกลุ่มก็ต้องจ่าย จะมาคำนวนแค่ว่าพอดีกินใช้ไม่ได้ ยังไงเราก็อยู่ในสังคมค่ะ ส่วนตัวได้งานทำใน กทม เงินสตาร์ท 15000 หาหอใกล้ที่ทำงานแบบเดินไปได้ไม่เสียค่ารถ (เราตั้งใจไว้ค่ะว่าถ้าต้องเสียค่าหอ จะต้องไม่เสียค่าเดินทางเพิ่ม ดังนั้นต้องหาแบบเดินไปได้) เราสามารถเก็บเงินได้ราวๆ 2000 ต่อเดือนค่ะ ก็คือใช้จ่ายจริง ๆ แบบชิวๆ กินขนม ชากาแฟ ซื้อเสื้อผ้าบ้าง 13000 /เดือน ดังนั้นเลยคิดว่า ถ้าได้เพิ่มอีกสองพันน่าจะดี แต่นั่นแหละถ้าแม่มีให้แค่นั้นมันก็ช่วยไม่ได้ มาอยู่แล้วก็ลองหางานพิเศษทำเพิ่มดูค่ะ อาจช่วยให้เราอยู่ได้สบายขึ้น. หรือถ้า เรากู้ กยศ เราก็จะได้ค่าครองชีพเพิ่ม 2000 ด้วยนะคะ

ปล. ค่าหอรวมน้ำไฟสี่พันนี่ หาหอได้แล้วใช่ไหมคะ. ถ้าไม่รวมน้ำไฟนี่เท่าไหร่เหรอ ถ้าห้องแอร์กลัวว่าน้ำไฟอาจจะเกินอยู่นะคะ. ที่อยู่ตอนนี้ค่าหอ 3000 น้ำไฟเปิดแอร์นอน อยู่ที่พันสองกว่าๆ ค่าไวไฟ 200 จ่ายอยู่ 4400 กว่าๆ ทุกเดือนเลยค่ะ

พอสิ อย่างที่แม่บอก หกพันเหลือสบายๆ

มาอยู่ใหม่ ๆ ค่อยๆเดินสำรวจพื้นที่ใกล้เคียงว่ามีแหล่งของกินที่ไหนบ้าง ตรงไหนถูก

ตรงไหนมีตลาด ซอยเล็กซอยน้อยเดินไปดู บางทีมีของดีของถูกซ่อนอยู่

เดือนแรกอย่ามือเติบ ให้ลองประหยัดสุดๆก่อน ว่าเหลือเท่าไร

แตกต่างแน่นอน และผมว่า 6000/เดือน ไม่น่าพอ ตอนผมเรียน แค่ห้องเก่า ๆ เล็กๆ ห้องเดียว + ห้องน้ำขนาดขนาดแค่พอขยับตัวได้ ค่าห้องก็เดือน 4200 แล้วคับ ไม่รวมค่าน้ำ ไฟ เน็ต (แต่เป็นที่พักกลางกรุงเทพเลย มันก็อาจแพงหน่อย)

ข้าวมื้อนึงไม่เกิน 50 อาจพอทำได้ ถ้าเป็นกับข้าวในมหาลัย ที่อื่นน่าหายากแล้ว และ 50 นี้น้ำคือลืมไปได้เลย อาจต้องกรอกน้ำฟรีที่โรงอาหารเอา

ถ้าเดือนนึงมี 30 วัน คุณกินข้าววัน 3 มื้อ 50*3*30 = 4500 ก็คือครึ่งนึงละ ถ้าค่าน้ำ+ไฟ ตีไป 1000 ค่าเน็ตเดือนละ 300+ ค่าเครื่องซักผ้ารอบละ 40+ เดือนนึงซัก 4-5 รอบ ก็ประมาณ 200 นี่ยังไม่รวมของสิ้นเปลืองระหว่างเดือนพวกแป้ง สบู่ เครื่องสำอางค์ ผ้าอนามัย (สำหรับผู้หญิง) ถุงขยะ ค่าเน็ตฟลิก ค่ายูทูป ค่าคลาว บลาๆ อะไรพวกนั้นอีกนะคับ

สรุปคือเดือนๆ นึง คุณอาจจะไม่เหลือเงินสำหรับใช้จ่ายเรื่องอื่นๆ เลย สมัยผมเรียน ผมได้จากทางบ้าน+ทำงานให้อาจารย์+ทำงานพิเศษ รวมกันแล้วยังแค่พอใช้เลยคับ ที่เหลือเก็บสุดท้ายก็ต้องเอาไปซื้อนั่นนี่อยู่ตลอด ทั้งคอมฯ มือถือ แทบเล็ต และข้าวของสำหรับใช้ชีวิตอื่น ๆ

รถไฟฟ้าในกรุงเทพ ไม่ได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ รถเมล์ไปได้เยอะกว่าถ้าต่อสายเป็น แต่รถเมล์นี้แล้วแต่อารมณ์ บางวันก็คนน้อยนั่งชิวๆ บางวันอัดกันเป็นปลากระป๋อง แล้วแต่ด้วงเอา จริงๆ รถไฟฟ้าเอง ก็มีช่วงที่จะอัดกันเป็นปลากระป๋องเหมือนกันคับไม่ต่างกัน

ไม่ให้ไปเดินห้าง ไปชอปปิ้ง หรือซื้อของฟุ่มเฟือย คุณทำไม่ได้ตลอดไปหรอกคับ คุณอยู่กรุงเทพ ทุกอย่างรอบๆ ตัวมันจะดึงดูดคุณให้ทำแบบนั้น ถ้าไม่คุณเบื่อเองจนต้องออกไป เดี๋ยวเพื่อนคุณก็ชวนไป เดี๋ยวแฟนคุณก็ชวนไป ถ้าจะประหยัดแบบนั้นได้คุณต้องแข็งแกร่งจริงๆ เพื่อนชวนไปไหนไม่ไป หรือไม่ถ้าโชคดีมีแฟนช่วยหารก็ดีไป ถ้าจะให้แนะนำอะไรก็คงเหมือนกับเม้นอื่นๆ คือลองหางานพิเศษทำดูคับ อย่างน้อยก็จะมีเงินมาให้คุณได้ใช้จ่ายเรื่องที่ "อยากทำ" บ้าง ไม่ใช่ต้องใช้สำหรับดำรงชีวิตอย่างเดียว อยู่ให้มีความสุขคับ ไม่ใช้อยู่แบบปากกัดตีนถืบ ยังไงก็ขอให้โชดดีคับ

พอค่ะ อาหารโรงอาหารใน ฬ 45 บาท หอเดินไปกับเพื่อนๆคุยไประหว่างทาง หรือถ้ากลับคนเดียวก็เปิดเพลงฟังไป ถือว่าออกกำลังกาย ค่าหออาจจะเกินถ้าเป็นหอนอก แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆหางานพิเศษทำ ส อา ค่ะ คีย์เวิดงาน PC ได้วันละ 600 ขึ้นไป ส่วนตัวใช้แบบประหยัดไปกลับบ้านที่สมุทรปราการกับที่ ฬ ใช้ประมาณ 8000 ไหวค่ะ

ถ้าใช้ชีวิตแต่ที่มหาลัยกับหอ มันก็็อาจจะพอค่ะ แต่ค่าหอ+น้ำไฟ 4000 ไม่พอค่ะ นอกจากจะอยู่หอในของมหาลัย และอยู่ห้องพัดลม ถ้าพ่อหาเงินคนเดียว ค่าใช้จ่ายก็คงตึงมือค่ะ ไหนจะค่าเทอม ค่าอะไรอีก เป็นไปได้ หาหอก่อนค่ะ เอาที่ไม่ต้องเดินทางไกลจากมหาลัย หรือถ้าทันก็หาข้อมูลหอในไว้ค่ะ รีบสมัครเข้าอยู่ให้ทัน ประหยัดไปได้อีกเยอะ (เข้าใจว่าสอบติดมหาลัยแล้วนะ)

ส่วนค่ากิน เน้นกินข้าวโรงอาหารมหาลัยค่ะ ถูกสุด ถ้ากินข้างนอก มื้อละ 50 ไม่พอค่ะ ส่วนเรื่องเดินห้างช้อปปิ้งตัดทิ้งไปค่ะ นอกจากจะทำงานพิเศษเพิ่มหาเงินเอง และอย่าลืมเผื่อเงินค่าซีร็อกซ์ชีทเรียนด้วยนะคะ มหาลัยไม่แจกหนังสือเรียนนะ ต้องซีร็อกซ์ชีทเรียน ชีทการบ้าน บางงานต้องมีค่าปริ๊นท์งานอีก แต่ถ้ามีเครื่องปริ๊นท์ของตัวเองที่ถ่ายเอกสารได้ก็ยกมา ก็ประหยัดไปได้นิดนึง

แต่ถ้าไม่อยากมาเรียนที่ กทม. ก็ลองคุยกับแม่ดูค่ะ

แพงกว่าอยู่แล้วล้าน % ครับ สิ่งที่แพงมากๆคือค่าหอ กับค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการกิน เด็กต่างจังหวัดยังหาของกินราคาไม่แพงมากได้ง่ายครับ แถมเด็กหอต่างจังหวัดทำกินเองก็ได้ง่ายกว่า

มันไม่เท่าหรอก แต่ถ้าดูจากยอดแล้วถามว่าพอมั้ย มันก็ทำให้พอได้อยู่ เช่นเรื่องหอ ถ้าม.มีหอในก็อยู่หอในซะ มันก็จะลดเรื่องค่าเดินทางไปได้ แล้วก็จะอยู่ใกล้โรงอาหารของม.หาของกินราคาไม่แรงสะดวก หรือถ้ามันจำเป็นต้องอยู่หอนอก อย่าคิดหาหอถูกเพื่อลดค่าหอมาเพิ่มค่าใช้จ่ายเลย หอถูกส่วนใหญ่ความปลอดภัยก็ลดลงตามราคา เรื่องกินอาจจะต้องมีตู้เย็นแล้วหัดทำกินเองบ้างบางมื้อ ส่วนเรื่องค่าเดินทางไปบอกแม่ก่อนเลยว่าให้เปลี่ยนความคิดซะใหม่นะ แม่บอกให้ใช้รถเมล์อย่างเดียว รถเมล์ที่ว่าน่ะแม่นึกถึงรถร้อน8บาทตลอดสายอยู่อ่ะสิ ซึ่งเอาจริงๆตอนนี้มันไม่ได้มีรถร้อนวิ่งทุกเส้นทาง บางเส้นมีแต่รถเย็น บางเส้นผสมๆกันซึ่งก็บอกไม่ได้อีกว่าตอนไหนรถร้อนจะมา แถมรถเมล์มันก็ไม่ได้วิ่งทุกตรอกซอกซอย แล้วหอพักในกทม.มันก็ไม่มีหรอกนะติดถนนใหญ่หรือใกล้ถนนใหญ่อ่ะ เพราะมันเป็นทำเลเศรษฐกิจ มันมีแต่คอนโดกับร้านค้าแหละที่ตั้ง หอพักมีน้อยอย่างน้อยก็ต้องมีระยะห่างซัก400-500เมตรละ ถ้าโชคดีก็ได้หอที่เดินออกไปรอรถได้ ถ้าไม่ก็ต้องมีค่าเดินทางออกไปที่ป้ายรถเมล์อีก ส่วนเรื่องการเดินทางจขกท.ทำความเข้าใจเส้นทางเอาเองว่าในเส้นทางนั้นมีรถอะไรผ่านบ้าง แล้วลองคำนวนราคาแต่ละอย่างเทียบกันดู อีกอย่างนึงก็คือกู้กยศ. ก็จะได้ค่าใช้จ่ายเพิ่มมาอีกหน่อย

ต้องดูว่ามาอยู่ในมหาลัยโซนไหนของกทม.ค่ะ

ของเรามหาลัยชานเมืองกทม.จะมีค่าใช้จ่ายประมาณนี้

ค่าหอ+เน็ตหอ 4,000 แต่เรามีเมทเลยเหลือ 2,000

ช่วงวันที่ 1-15 ของใช้+ค่ากิน+เดินทาง 3,000 ค่ะ

16-ปลายเดือน ให้อีก 2,000

รวมๆแล้วใช้เดือนละ 7,000 ค่ะ กำลังดีเลย 

บางเดือนเข้าบุฟเฟ่ต์ได้3-4รอบด้วยซ้ำ

ช่วงต้นเทอมและปลายเทอมจะมีค่าอุปกรณ์เรียนหรือค่าโปรเจ็คท์ก็ต้องขอพิเศษเพิ่มหน่อย แต่ต้องอธิบายให้ที่บ้านชัดเจนนิดนึง

บางเทอมอยากซื้อของฟุ่มเฟือยก็รับทำงานพิเศษช่วงเสาร์-อาทิตย์เก็บเอาค่ะ บางมหาลัยก็สามารถหางานในมอ.ได้นะ

แต่ถ้าเป็นมหาลัยในโซนเมือง อย่างจฬ มศว มก คิดว่าน่าจะสูงกว่านี้นะคะ น่าจะซัก 9,000-10,000 กำลังดี

ขอให้ข้อมูลมีประโยชน์นะคะ นำไปเล่าให้คุณแม่ฟังเพื่อให้เข้าใจตรงกันก็ได้ค่ะ

ที่ว่าเท่ากันในมุมมองเรา เราว่าคือค่ากินค่ะ ค่าอาหารไม่ค่อยต่างกันมาก คือมันอาจจะพอทำได้ค่ะ แต่ต้องอยู่แบบประหยัดมากๆ เพราะเอาจริงๆ 6000 ก็อยู่ค่อนข้างลำบากเหมือนกันแม้จะเป็นต่างจังหวัด อาหารมื้อไม่เกิน 50 พอจะหาได้ตามข้าวหอพักนิสิตนักศึกษาหรือ โรงอาหารมหาลัย แต่ก็พอจะมีร้านรวงที่ราคา 50 บาทอยู่เช่นกัน ต้องลองหาค่ะ ค่าหอรวมน้ำไฟ 4000 อาจจะไม่พอเท่าไรเรารู้สึกมันหายากมาก หอที่ดี มีความปลอดภัยราคาต่ำกว่า 4000 ยกเว้นจะอยู่หอไกลๆ สถานที่สำคัญ ซึ่งก็จะมาเสียเวลาตรงการเดินทางแทน เพราะไกล แต่คงไม่เสียเยอะมากค่ะถ้าเทียบขึ้น bts ยกเว้นมหาลัยจะมีหอใน ซึ่งต้องไปแย่งเข้ากับเขาอีกที แต่ได้หอราคาย่อมเยาว์แน่นอน แลกกับการทำกิจกรรมให้มหาลัย(แล้วแต่ข้อตกลงของมหาลัย) แต่แน่นอนว่ามันมีบ้างที่เราอยากไปกิน อยากไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าง อาจจะเทอมละครั้งหลังสอบเสร็จ หรือมีของใชัจิปาถะอีก สบู่ยาสีฟัน ชีทเรียนถ้าไม่ใช้ไอแพด ค่าเน็ตต่างๆ ซึ่งอาจจะต้องคิดถึงตรงนี้ด้วย

สมัขเราเรียน ค่าหอประมาณ 4500 ไม่รวมน้ำไฟ(เป็นห้องสำหรับนิสิต 2 คน) ช่วงที่มีรูมเมทค่าห้องรวมน้ำไฟ 5000 ต้นๆ พอโควิดมา รูมเมทออก ไม่มีคนอยู่ด้วย ทางหอเลยให้เราเหมาค่าไฟค่าน้ำเองกลายเป็น 6000 ต้นๆ (อ่านหนังสือ ทำงานดึกเยอะด้วยค่ะ) ตีเป็น 5,200 บาท ในกรณีที่อยู่ห้องประเภทสองคนและมีคนหารค่าไฟ (เราอยู่มหาลัยในเขตเมืองค่ะ ค่าหอนี้เราเดินไปคณะตัวเองได้เลย) ค่าเน็ตเราราวๆ 700 ต่อเดือน อาหารถ้าไม่กินของหอในหรือของมหาลัย จะเจอจานประมาณ 65-70 บาท แต่ถ้ากินของหอใน ปริมาณเท่ากันจะอยู่ที่ราคาประมาณ 40 บาท หนึ่งสัปดาห์ตีเป็น 840 บาท 1 เดือนเท่ากับ 3360 บาท รวมแล้วอย่างต่ำ 5200+700+3360= 9260 บาทต่อเดือน ยังไม่รวมพวกอุปกรณ์การเรียนอื่นๆ ค่าใช้จ่ายของใช้ส่วนตัวอีกค่ะ(ไม่ได้ซื้อทุกเดือนน่าจะพออยู่ค่ะ) ก็พอดูจะมีเงินเหลือเก็บอยู่บ้างค่ะ

ค่าใช้จ่ายเท่ากัน จริงค่ะ

เงินใช้6,000

ค่ากินค่าอยู่ อาหารโรงอาหาร อร่อยถูกปาก ราคาน่ารัก ตอนเย็นแล้วแต่จะเลือก รถเมล์ นั่งวิน เดิน แล้วแต่สะดวก ถ้าดูแล้วไม่พอทำงานพิเศษ ส อา ค่ะ

(ต้องดูด้วยโซนไหน กทม นะคะ)

ถ้าจะใช้จ่ายหรูอยู่สบาย เทียบกับขอนแก่นก็แพงพอกันค่ะ

จากประสบการณ์ พอแน่นอนถ้าทำกินเองบ้าง และไม่ฟุ่มเฟือยกับการช้อปปิ้ง การเข้าสังคมเพื่อนน่าจะเข้าใจเหตุผลเราได้ก็บอกเค้าไปเลย เข้าสังคมแบบประหยัดมันก็ทำได้ ถ้าอยากสบายก็ขอแม่เพิ่มไม่ก็ทำงานเพิ่ม ถ้าขอแม่ทั้งหมดมันก็คือต้นทุน เรียนจบมาแล้วจะคืนทุนเร็วมั้ย คุ้มมั้ยก็แล้วแต่เจ้าตัวเลย

ถ้าอยู่กับครอบครัว อย่างน้อยสี่พันมันจะถูกเกลี่ยไปใช้กับคนอื่นในบ้านด้วย, แถมยูนิตค่าน้ำค่าไฟของหอใน กทม ก็ไม่เหมือนน้ำไฟบ้าน

ถ้าหอแพงแต่ใกล้ ก็จะประหยัดค่าเดินทาง

แต่ถ้าหอถูก มักจะไกล ก็จะแพงค่าเดินทาง

ค่ากิน นอกจากร้านอาหารในมหา'ลัยแล้ว ทำกินเองก็จะช่วยทุ่นไปได้- เห็นแชร์ในเพจทำอาหารบ่อยๆ ว่า งบxบาท ต้องอยู่ให้ถึงสิ้นเดือน เทคนิคเมนูหลากหลายมากๆ

ซ้อมไว้ เงินเดือนจบใหม่ก็ประมาณนี้แหละ

ค่าหอ4000 นี่ยังไม่ได้นับค่าน้ำค่าไฟเลยค่ะ ไม่ควริยู่หอราคาต่ำกว่า4000 มันไม่ปลอดภัย แนะนำให้หารูมเมทดีกว่่านะ จะได้ประหยัดหน่อย อยู่2คนรวมน้ำไฟก็ตกคนละประมาณ 2500-2700 ที่เหลือ1500ก็ถือเป็นค่ากินเล่นเพิ่มไปค่ะ จะอยู่แบบสบายขึ้นหน่อย

ถามว่าพอมั้ย ส่วนตัวผมคิดว่าไม่พอ คนนอกที่มาตอบไม่รู้สถานะทางการเงินของที่บ้านคุณ ซึ่งถ้าทางบ้าน support ให้ได้แค่นี้จริงๆ หรือยืนยันว่าจะให้แค่นี้ ก็คงต้องหาลู่ทางหารายได้เสริมหรือหางานพาร์ทไทม์สร้างรายได้เพิ่มให้ตัวเองเอาครับ ส่วนที่บอกว่า "แม่เราอยู่บ้านเฉยๆ" ไม่แน่ใจว่าบ้านคุณใครทำงานบ้าน ทำอาหารให้ครอบครัวทานครับ ถ้าคำตอบคือคุณแม่ แปลว่าคุณแม่ของคุณไม่ได้อยู่บ้านเฉยๆ ครับ

ถ้าพูดถึงค่าครองชีพ มันสูงหรือต่ำก็ต้องดูที่ค่าแรงขั้นต่ำในพื้นที่นั้นๆ

เคยสังเกตกันรึเปล่าว่าสินค้า ราคาค่าอาหาร ทำไมมันขึ้นเอาอยู่เรื่อยๆ สินค้าบางอย่างราคาเท่าเดิมแต่ปริมาณน้อยลง เพราะธุรกิจต่างๆเขาปรับราคาขึ้นตามค่าแรงขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถ้าไม่มีการประกาศออกทีวี ประชาชนทั่วไปก็ไม่สนใจอะไร สินค้าขึ้นราคานิดๆหน่อยๆบาทสองบาท ไม่มีใครเอะใจพอคนชินแล้วก็ค่อยๆปรับราคาขึ้นอีกทีละนิดทีละหน่อยตามค่าแรงขั้นต่ำ ที่ค่อยๆปรับขึ้นทีละนิดทุกๆปีหรือสองปี

ดังนั้นค่าใช้จ่ายในจังหวัดต่างๆจะไม่เท่ากันแน่นอน ตามค่าแรงขั้นของแต่ละจังหวัด ต้องค่าแรงขั้นต่ำจังหวัดไหนเท่ากันค่าครองชีพถึงจะเท่ากัน

ที่ผ่านมาพูดถึงค่าครองชีพ คุณไปพิจารณาเอาเอง

อีกประเด็น ค่าใช้จ่าย6พัน ค่าที่พัก+ค่าน้ำ ไฟฟ้า อีก4พัน รวมเป็นหมื่นนึงผมเข้าใจถูกนะ

คุณสงสัยว่าเงินเดือนละหมื่น กับ ชีวิตการเป็นนักเรียนนักศึกษา (ตรงนี้ผมไม่รู้ว่าคุณเรียนระดับไหน อ่านกระทู้สามสี่ตลบก็ไม่มีตรงไหนที่คุณบอกว่าเรียนที่ไหนระดับอะไร) มันจะพอและมีเงินเหลือเก็บจริงรึเปล่า?

ตรงนี้คุณเข้าใจก่อนว่า บรรทัดฐานตรงนี้มันไม่มีอะไรที่สามารถยึดถือได้ ระดับชนชั้นในสังคมมีแตกต่างกัน สังคมแต่ละระดับมาตรฐานการใช้ชีวิตก็แตกต่างกันไป แล้วที่สำคัญทักษะการใช้ชีวิตของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันไม่เท่ากัน เงิน1หมื่นในบางสังคมเขาอาจจะอยู่ได้สองเดือนถึงสามเดือน แต่ในบางสังคมอย่าว่าแต่1เดือนเลยแค่อาทิตย์เดียวก็อาจจะอยู่ไม่พ้นด้วยซ้ำ

สำหรับคุณเงินหมื่นนึงจะอยู่ได้มีเงินเก็บเหลือหรือไม่ คุณต้องมาลองอยู่เองก่อน แล้วค่อยถามถึงวิธีการเอาตัวรอดเพื่อให้มีเงินเหลือจากคนอื่นๆ ซึ่งทักษะการเอาตัวรอดการใช้ชีวิตของแต่ละคน คุณไม่สามารถทำตามหรือเลียนแบบได้ทั้งหมด คุณสามารถเอามาประยุกต์ปรับใช้ให้เข้ากับตัวคุณได้

ก็ฝากไว้ให้คิดพิจารณาเท่านี้ล่ะครับ

เราก็ได้ 6000 ทุกเดือนค่ะ ต้นเดือน 3000 วันที่ 15 อีก 3000 แต่ดีหน่อยที่มาอยู่บ้านป้า บางมื้อไม่ต้องซื้ออาหารกิน ส่วนตัวคิดว่าถ้าอยู่เอง 6000 คงไม่ค่อยพอ แต่เรามีรายได้เสริมจาก tiktok ด้วย แปะตะกร้าบางเดือนได้หลายพัน น่าจะโอเคนะคะ อยากให้ลองมาหาเงินเพิ่มเติมเองดูด้วย จะได้พอมีเงินซิื้อขนม หรือใช้จ่ายส่วนตัวค่ะ

อยู่ได้ ทำกินเอง แม่มีเงินให้แค่นั้นมันก็เลือกไม่ได้นอกจากหาเงินเอง