สรุปว่าเขาต้องการอะไรครับ
ตั้งกระทู้ใหม่
ผมคบกับแฟนมาสี่ปี เรารักกันดีมาตลอด แต่วันก่อนตอนออกไปซื้อของ เขาชี้ให้ผมดูคนนึงแล้วบอกว่าน่ารักเนอะ ถ้าไม่ได้เป็นแฟนกับผมเขาจะจีบคนนั้น ตรงสเปคเลย ผมไม่พอใจก็เลยพูดไปว่าถ้าผมไม่ได้คบกับเขา ผมก็คงจีบคนนั้นเหมือนกัน ก็น่ารักดี พอกลับมาที่คอนโดแฟนผมก็เริ่มเหวี่ยง ทะเลาะกันจนวันนี้ยังไม่คุยกันเลยครับ เขาออกไปนอนคอนโดเพื่อน ไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร แต่มันน่ารำคาญ ตัวเองเป็นคนเริ่มก่อนหนิ
5 ความคิดเห็น
คนนั้น ของจขกท.กับของแฟนนี่คือคนเดียวกันใช่มะ? และเป็นผญ.ด้วยใช่มะ? ถ้าใช่ก็ไม่น่าแปลกใจหรอก คนนึงพูดขำๆ อีกคนใส่อารมณ์ประชดประชัน ไม่โดนโกรธสิแปลก แล้วถ้าจะถามว่าเค้าคิดอะไร เค้าก็คงรำคาญความคิดเล็กคิดน้อยของจขกท.อยู่นั่นแหละ
คนนั้นเป็นผู้ชายครับ การพูดชมคนอื่นว่าอยากจีบกับแฟนตัวเองมันไม่ขำเลยนะครับ ถ้าเขาจะรำคาญที่ผมงี่เง่าเขาก็ไม่ควรทำอะไรแบบนั้นตั้งแต่แรกไม่ใช่เหรอครับ ผมยังงงด้วยซ้ำว่าเขาต้องการอะไร อยากให้หึงเหรอครับ? ผมยอมรับว่าเป็นคนคิดเล็กคิดน้อย ผมคิดมากทุกเรื่อง ผมก็ไม่แปลกใจถ้าเขาจะรำคาญ แต่อยากให้เขาคิดดูอะครับว่าเขาเริ่มก่อน คนที่ไม่พอใจมากที่สุดคือผมสิ ไม่ใช่เขา ทำไมผมกลายเป็นคนผิด
อ๋อ เค้าชี้ผู้ชาย ยังงั้นก็พอเข้าใจได้ที่อารมณ์ขึ้น แล้วคุณก็เลยชี้ผู้หญิงคนอื่นบ้างงี้สินะ แต่ว่า...ถ้าแค่อยากให้รู้ว่าไม่พอใจ ก็แค่บอกว่า "มุขนี้ไม่ขำ" หรือ "พูดแบบนี้ไม่โอเค" มันก็รู้เรื่องกันแล้วมั้ยครับ มันไม่จำเป็นต้องประชดประชันปะล่ะ คนที่เริ่มพูดคือเค้าก็จริง แต่คนที่เริ่มงอแงมันก็คุณอยู่ดี "วุฒิภาวะ" อ่ะรู้จักมั้ยครับ อารมณ์เดียวกัน สิ่งที่อยากสื่อเหมือนกัน แต่วิธีการที่ใช้สื่อออกมามันสะท้อนวุฒิภาวะอ่่ะครับ เคสแบบนี้ถ้าถามว่าเค้าต้องการอะไร เค้าไม่ได้ต้องการอะไรหรอกครับ ก็แค่พูดไปเรื่อยเหมือนเวลาอยู่กับพวกเพื่อนตัวเองนั่นแหละ แต่กลายเป็นว่าดันได้คำตอบไปว่าเค้าคุยกับคุณเรื่องนี้ไม่ได้ แถมยังได้คำตอบด้วยวิธีการที่โคตรแย่ เหมือนได้เห็นอีกด้านของคุณซึ่งไม่รู้จักการควบคุมอารมณ์อ่ะครับ
แฟนคุณไม่ได้พูดสิ่งที่เกินสมควรนะ เขาใช้คำว่าถ้านั่นคือเหตุการณ์สมมติไม่ใช่เหตุการณ์จริง การที่คุณตอบโต้โดยใช้คำพูดประชดประชันแสดงให้เห็นว่าคุณไม่มีความเป็นผู้ใหญ่พอนะ แฟนคุณจะไม่พอใจคุณก็ไม่แปลก ถ้าคุณไม่พอใจสิ่งที่แฟนคุณพูดคุณควรบอกแฟนคุณตรง ๆ โดยไม่ต้องประชดประชันและไม่ต้องใส่อารมณ์ ลองคิดทบทวนดูนะ
เอาจริงๆ เรื่องแบบนี้มันตัดสินยาก เพราะลักษณะแบบนี้มันเป็นการตัดสินจากความของคุณข้างเดียว เพราะงั้นไม่ว่าผมหรือใครจะตอบอะไรไปมันจะต้อง Bias แน่นอนคับ จะมากหรือน้อยแค่นั้น อันนี้ขอบอกไว้ก่อนตอบคำถาม คือไม่ว่าผมหรือใครจะตอบถูกใจคุณไหม มันก็ตัดสินอะไรไม่ได้มาก จนกว่าจะให้แฟนคุณมานั่งแก้ต่างด้วยโน้นล่ะคับ
เอาเป็นว่าถ้าเอาตามที่คุณว่ามาอย่างเดียว ผมว่านี่มันก็เป็นการแซวกันตามปรกติไหมล่ะคับ อันนี้ผมไม่รู้ไงผมไม่อยู่ในเหตุการณ์ ไม่รู้จักคุณทั้งคู่ด้วย คือเป็นการพูดเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วเพราะตอนนี้เค้าเป็นแฟนคุณ (เหมือนที่ คห.2 ว่ามา) คืออันนี้สมมุตินะ สมมุติที่แฟนคุณชี้ไม่ใช่คนๆ นั้น แต่เป็นดาราแบบ มารีโอ้ ณเดชน์ คุณว่าคุณควรจะโมโหกลับไหมล่ะคับ ก็คงไม่ใช่มะ เหตุการณ์เดียวกันเลยแค่เปลี่ยนเป้าหมายแค่นั้น เห็นไหมคับว่าการตอบโต้ของคุณมันดูงี่เง่ามากกว่าถ้ามองจากสายตาผู้ชายด้วยกัน เป็นผมนะ ผมอาจจะทำเป็นงอนให้เค้าง้อหน่อยก็ได้ คือเค้าเล่นมาก็เล่นกลับอะคับ คุณเป็นแฟนกันตั้งสี่ปีคุณไม่รู้หรอว่าอันไหนเค้าเล่นมุกอันไหนเค้าจริงจัง เป็นแฟนกันแบบไหนคับถามจริง
เพราะงั้นผมจะสรุปคล้ายๆ คห.2 คือ การตอบโต้ของคุณมันดูงี่เง่าคับ และดูขาดวุฒิภาวะจริงๆ มนุษย์ทุกคนมันเห็นแก่ตัวตั้งแต่เกิดคับ แต่พอคนจะรักกัน ทั้งสองฝ่ายมันต้องลดความเห็นแก่ตัวลงมันถึงจะไปกันได้ อะไรยอมกันได้ก็ต้องยอมไป ต่อให้เสียศักดิ์ศรีก็ต้องยอมไปก่อนคับ (ไปเอาคืนทีหลังเอา 55) ผมขอทิ้งท้ายไว้ด้วยมุกพ่อสอนลูกอันนี้ละกันเป็นของฝรั่ง ถึงจะดูขำๆ แต่ผมว่ามันก็ตรงกับความเป็นจริงดี คุณก็รู้นิว่าตัวเองเห็นคนคิดเล็กคิดน้อย เพราะงั้นก็แก้ไขซะคับ ไม่งั้นความสัมพันธ์มันไปกันไม่รอดหรอกแบบนั้น
สรุปว่าเขาต้องการอะไรครับ
สวัสดีค่ะ
ก่อนอื่นเพียงอยากบอกคุณว่า เจ้าของเม้นต์นี้เป็นผู้หญิงนะคะ เพราะฉะนั้นเม้นต์นี้อาจจะไม่เข้าข้างคุณนะคะ(ฮ่า ฮ่า ล้อเล่นค่ะ) และอาจจะไม่เข้าข้างฝ่ายหญิงด้วยเช่นกันค่ะ เม้นต์นี้ เป็นเพียงความเห็น ความเห็นหนึ่งที่อยากจะช่วยออกความคิดเห็นให้คุณหลังจากอ่านเหตุการณ์ ซึ่งข้อความที่คุณเล่าเข้ามานะคะ สรุปว่าเขาต้องการอะไรครับ ดังมีคำถามเป็นหัวข้อประเด็นของคุณนะคะ
พอกลับมาที่คอนโดแฟนผมก็เริ่มเหวี่ยง ทะเลาะกันจนวันนี้ยังไม่คุยกันเลยครับ เขาออกไปนอนคอนโดเพื่อน ไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร แต่มันน่ารำคาญ ตัวเองเป็นคนเริ่มก่อนหนิ
ช่วยตอบคุณว่า จริงแล้วผู้หญิงทุกคนไม่เหมือนกันนะคะ ที่ว่าไม่เหมือนกันในที่นี้ คืออุปนิสัยนะคะ ผู้หญิงบางคนเพียงอาจจะปากไว คือพูดออะไรออกไปโดยที่ไม่คิด เช่นในเคสของแฟนคุณนี้ เธอเพียงเห็นผู้ชายบางคนผ่านตา และเธอรู้สึกว่าชายคนนั้นน่ารัก เธอก็ปล่อยความรู้สึกว่าเขาน่ารักผ่านคำพูดในทันใด และคนที่อยู่ใกล้ ๆ ก็คือคุณ และเมื่อคุณได้ยินเข้า ซึ่งในอาการเช่นนี้ของผู้หญิง(ในแบบที่กล่าวมานี้)นะคะ เธออาจจะไม่ตั้งใจพูดเพื่อทำให้คุณหัวเสีย ไม่ตั้งใจเพื่อทำให้คุณรู้สึกหึงหวง หรือไม่ตั้งใจให้คุณรู้สึกเสียใจในตัวคุณเอง(ในสถานะที่คุณเป็นแฟนของเธอนั้นคุณมิได้ตีค่าคุณตํ่าไปกว่าคนที่กล่าวชม)ก็เป็นได้ค่ะ
แต่เธออาจจะเพียงพลั้งปากออกไป เพียงเธอรู้สึกว่าชายคนนั้นน่ารัก ด้วยความจริงใจ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพราะด้วยที่เธอรู้สึกว่าเขาคนนั้นน่ารัก ทั้งนี้คือเธออาจจะเพียงออกปากชมเขาก็เท่านั้นค่ะ
ทั้งหมดที่กล่าวมาเบื้องต้น เป็นนิสัยของเธอด้วยหรือไม่คะ?
คุณเป็นแฟนกันมาตั้งสี่ปีนะคะ คุณไม่รู้นิสัยของเธอหรือคะ? คุณน่าจะลองเรียบเรียงความทรงจำเกี่ยวกับนิสัยของแฟนคุณดูนะคะ อาจจะเป็นคุณก็ได้ที่คิดมากไป หรือคุณที่ร้อนตัวไป ก็เป็นได้ค่ะ
คือหากเธอเป็นคนนิสัยเช่นที่กล่าวมานี้นะคะ อาจจะเป็นคุณเองค่ะ ที่ต้องสร้างภูมิต้านทานขึ้นมาค่ะ คือคุณต้องมีความมั่นในใตัวเอง ว่าคุณนะ จะเป็นคนสำคัญของเธอเสมอ เพราะแฟนคุณก็เป็นคนนะคะ บางครั้งคนเรานะเห็นสิ่งที่ดี สวยงาม เช่นเห็นชายที่มีรูปร่างดี หน้าตาน่ารัก และเธอรู้สึกได้เช่นนั้นจริงว่า เขาคนนั้นน่ารัก เธอก็ชื่นชมเขา ก็เท่านั้น หาแต่สำหรับคุณ คุณจะเป็นคนสำคัญของเธอ คือคุณเป็นแฟนของเธอ ขอให้คุณมีความเชื่อนมั่นในตัวคุณเองนะคะ
คือคุณต้องมีความเชื่อมั่น และมีจิตใจที่กว้างขวางเข้าไว้ค่ะ จะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวนี้ได้ดีเยี่ยม
ไม่เช่นนั้นแล้วคุณจะมีความหึงหวง สับสน น้อยออกน้อยใจอยู่เป็นเนือง คือจะมีความรู้สึกเช่นที่คุณเป็นอยู่นี้เกิดขึ้นบ่อย ๆ หรือในทุกเรื่อง ซึ่งไม่ดีนะคะ
คือตราบที่คุณอยากมีแฟน คุณต้องพยายามเปิดใจให้กว้าง ๆ เข้าไว้นะคะ เพราะแม้จะเป็นแฟนกัน แต่อุปนิสัยใจคอของคนเรา การพูด การแสดงออกนะคะ คนเรามีรูปแบบแตกต่างกันได้เป็นธรรมดานะคะ
หากคุณมีจิตใจที่ไม่เปิดกว้าง ยอมรับอาการที่แตกต่างกันไม่ได้ คุณก็จะมีเพียงทุกข์ทรมานตราบที่คุณมีความรัก หรือตราบที่คุณมีแฟน ซึ่งไม่ดีเลยนะคะ
สรุปว่าเขาต้องการอะไรครับ
คำถามนี้นะคะ คุณคงต้องถามแฟนคุณเท่านั้น ที่เธอจะตอบคุณได้ถูกต้องค่ะ เพราะจิตใจของใคร ของเขานะคะ คือคนอื่น ๆ ไม่รู้ได้ค่ะ ว่าที่เธอมีการใช้คำแบบนั้น ต่อบุคคลที่สาม ทั้งที่เธอมีแฟนอยู่แล้ว เธอต้องการอะไร?
ทั้งนี้เพราะแม้ผู้หญิงทุกคน เป็นผู้หญิงด้วยกันก็จริง แต่ในความจริงผู้หญิงทุกคนมีความต่างกันอยู่ดีค่ะ
คือบางคนอาจจะใช้คำเพราะเธอไร้เดียงสา คือพูดก่อนใช่้ความคิด
หรือผู้หญิงบางรายอาจจะชอบ หลงไหล เพ้อฝันไปในรูปลักษณ์...ที่น่าหลงไหลในคนอื่น ๆ ง่าย ๆ ในวาระต่าง ๆ ในแบบง่าย ๆ ที่เธอพบเจอ ซึ่งหญิงที่มีอุปนิสัยเช่นนี้ ก็มีด้วยเช่นกัน(ซึ่งผู้ชายบางคน เขาน่ารักจริงนะคะ ยิ่งบางคนมีรูปลักษณ์ทั้งหล่อหลา และสวยงาม รวมความน่ารักในคนเดียวกันเลยด้วยค่ะ ฮ่า ฮ่า เจ้าของเม้นต์ก็เคยเห็นค่ะ เห็นแล้วนะมองเพลิน ๆ เป็นความสุนทรีย์เลยด้วยค่ะ ผู้ชายในลุคแบบนี้นะ ที่เมืองไทยมีเยอะมาก ๆ แปลกจัง) ซึ่งเหตุเช่นนี้ก็มีเกิดขึ้นได้
หรือหญิงบางคน เธอพูดเช่นนั้น เพราะเธอเรียกร้องความสนใจจากแฟนของตนนั้นก็เป็นได้ด้วยเช่นกันค่ะ
ซึ่งในวาระที่คุณทั้งหึงหวง โกรธ เคือ น้อยใจ สับสนจากคำพูดของเธอนี้ จะให้ดีสุด ๆ คือคุณคงต้องถามที่ตัวเธอค่ะ ว่าแท้จริงเธอต้องการอะไร หรือเธอรู้สึกอย่างไรจึงพูดออกมาแบบนั้น คือถามให้รู้ ๆ ไปเลยค่ะ คุณเองได้สบายใจ
แต่ที่สำคัญคุณต้องฝึกทำใจให้เย็น ๆ และยึดการมีเหตุผลไว้ และทำใจให้กว้างขวางเข้าไว้ และจงย่าอคติกับแฟนคุณ น่าจะเป็นสำคัญยิ่งค่ะ
สุดท้ายนี้ เป็นกำลังใจให้คุณนะคะ
แปลก ๆ นะ เป็นแฟนกัน 4 ปีนี่ไม่รู้จักนิสัยของกันและกันเลยเหรอว่าแต่ละคนชอบอะไรไม่ชอบอะไร หมายถึงคบเป็นเพื่อนมา 3 ปี 9 เดือนแล้วเป็นแฟนกัน 3 เดือนรึเปล่า จากที่คุณเล่าคุณเป็นผู้ชายบ้าน ๆ ไม่ค่อยมีความคิดอ่านเท่าไหร่ ถ้าเป็นแฟนกัน 4 ปีจริงไม่น่าเป็นไปได้ที่แฟนคุณจะไม่รู้นิสัยคุณ นิยายรึเปล่า
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?