Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เรารู้จักตัวเองดีแค่ไหนกันนะ Self-awareness

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อนและยากที่จะเข้าใจ หลายครั้งที่เรารู้สึกไม่เข้าใจในการกระทำ คำพูด หรือความรู้สึกของคนอื่น ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติทั่วไปที่เกิดขึ้นได้ เพราะเราทุกคนต่างก็มาจากร้อยพ่อพันแม่ ความคิดความอ่านและการแสดงออกย่อมต้องต่างกันออกไปจนบางครั้งก็ทำให้เรารู้สึกไม่เข้าใจได้อยู่แล้ว แต่ถ้าคนที่เราไม่เข้าใจกลับกลายเป็นตัวของเราเองล่ะ..

เรารู้จักตัวเองดีแค่ไหน

การรู้จักตัวเองที่เรากำลังจะพูดถึงอยู่นี้ ไม่ใช่เพียงว่า เราชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ บ้านอยู่ที่ไหน แต่เป็นการเจาะลงไปให้ลึกกว่านั้น เพื่อให้เรารู้จักและเข้าใจตัวเราที่อยู่ข้างในจริง ๆ หรือที่เรียกว่า Self-awareness หมายถึงความสามารถที่จะรับรู้และเข้าใจความรู้สึก อารมณ์ และความต้องการของตนเอง ซึ่งฟังดูแล้วก็อาจจะดูไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่จริง ๆ การที่เรามี Self-awareness นั้นจะส่งผลดีต่ออีกหลาย ๆ ด้านในชีวิตตามมาได้เลยนะ


 

Self-awareness

คือความสามารถที่จะรับรู้และเข้าใจตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก หรือความต้องการ รวมไปถึงการตระหนักรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่ามันส่งผลยังไงกับตัวเราบ้าง การที่เกิดสิ่งนี้ขึ้น ทำให้เรารู้สึกยังไง มีอารมณ์แบบไหน และส่งผลต่อพฤติกรรมของเราอย่างไร มันจะทำให้เรารู้เท่าทันตัวเราก่อนจะที่พูดหรือแสดงการกระทำใด ๆ ออกไป

เช่น วันนี้ก่อนออกไปโรงเรียนเราถูกแม่บ่นทำให้พอไปถึงที่โรงเรียนเราพาลหงุดหงิดและพูดจาไม่ดีใส่เพื่อน โดยที่เราอาจไม่ทันได้รู้ตัวด้วยซ้ำ แต่หากเรามี Self-awareness เราจะรับรู้ได้ตั้งแต่ที่เราถูกแม่บ่นว่ามันทำให้เรารู้สึกไม่ดี และอารมณ์ของเราในตอนนี้คือหงุดหงิดสุด ๆ เลยส่งผลให้เราแสดงสีหน้าที่บึ้งตึง พูดจาด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว เมื่อไปถึงที่โรงเรียนเราเลยยั้งคิดได้ทันว่า ตอนนี้คิ้วเราขมวดผูกติดกันจนเป็นโบว์อยู่ และถ้าหากยังไม่ปรับอารมณ์ของตัวเองให้ดีขึ้นจะต้องเผลอพูดจาไม่ดีใส่เพื่อนทั้งที่เพื่อนยังไม่ได้ทำอะไรผิดแน่ ๆ  และมันก็อาจจะทำให้เราต้องมานั่งรู้สึกผิดทีหลัง ซึ่งเราไม่อยากเป็นแบบนั้น

พอเราเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นและส่งผลต่อตัวเราแล้ว เราก็จะมีวิธีรับมือและควบคุมตัวเองในแบบที่เหมาะสม ไม่แสดงออกไปในแบบที่บางครั้งเราเองก็รู้สึกไม่ชอบ เพราะเรามีความสามารถที่จะตระหนักรู้เกี่ยวกับตัวของเราเอง เลยทำให้เรารู้ตัวและสามารถเลือกกระทำสิ่งต่างๆ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นไปตามที่ต้องการได้  

Self-awareness แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท

1.การตระหนักรู้ภายใน (Internal Self-awareness)

คือการมองเห็นหรือการเข้าใจว่าเรามีตัวตน ความคิด ความรู้สึกแบบไหน หรือให้คุณค่ากับอะไร และสิ่งเหล่านั้นจะส่งผลต่อคนอื่น ๆ อย่างไรบ้าง

2.การตระหนักรู้ภายนอก (External Self-awareness)

คือการมองเห็นหรือการเข้าใจว่าเราเป็นแบบไหนในมุมมองของคนอื่น ๆ เช่น พ่อ แม่ หรือเพื่อน



การมี Self-awareness นั้นเป็นสิ่งที่ดีไม่ว่าจะเป็นในด้านของความสัมพันธ์ การทำงาน หรือเป้าหมายในชีวิต ถ้าเราเข้าใจและรู้จักตัวเราเองมากพอ เราจะรู้ว่าตอนนี้เรามีความรู้สึกอะไร หรือความต้องการแบบไหน และสิ่งเหล่านั้นจะส่งผลต่อคนอื่นอย่างไร เมื่อนำไปปรับใช้กับความสัมพันธ์ เราก็จะไม่กลายเป็นคนที่ดูหุนหันพลันแล่น และทำอะไรหรือพูดอะไรไม่คิด จะช่วยให้ เข้าใจ ถนอมใจคนอื่นมากขึ้น หรือถ้านำไปปรับใช้กับการทำงาน ก็จะทำให้สามารถรู้ได้ว่าจุดแข็งของตัวเองคืออะไรและมีตรงไหนที่ยังต้องฝึกฝนเพิ่มเติม ทำให้มีโอกาสที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ และในเรื่องของเป้าหมายในชีวิต แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะรู้ว่าเราต้องการอะไรแบบแน่ชัด แต่หากคุณมี Self-awareness คุณจะรู้จักตัวเองมากขึ้นและสามารถเขยิบเข้าใกล้เป้าหมายของตัวเองอย่างถูกทิศทางได้มากขึ้นแน่นอน

มาเพิ่ม Self-awareness ให้ตัวเองกัน

  • ฝึกสมาธิ
อ่านมาถึงตรงนี้หลาย ๆ คนคงอยากจะเบือนหน้าหนี เพราะพอพูดถึงการทำสมาธิ ภาพของการนั่งขัดสมาธิในชุดสีขาวที่ดูแล้วเป็นเรื่องยากสำหรับหลายคนก็ลอยเข้ามาในหัวทันที แต่เอาเข้าจริง การฝึกสมาธินั้นไม่ได้มีแค่การนั่งสมาธิ แต่อาจเป็นการนั่งอยู่นิ่ง ๆ กับตัวเอง การวาดรูป หรือการจดจ่อกับอะไรสักอย่างที่ได้อยู่กับตัวเอง การฝึกสมาธิจะช่วยให้จิตใจเราอยู่กับเนื้อกับตัวมากขึ้น ไม่วอกแวกไปมา ทำให้รับรู้และมองเห็นถึงสิ่งที่อยู่ข้างในของตัวเองได้ชัดเจนขึ้นนั่นเอง
  • การจดบันทึก
เป็นการจดหรือเขียนสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ความคิด ความรู้สึก มันส่งผลอะไรต่อเรา เพื่อให้รู้ว่ามีอะไรบ้างที่สามารถจะช่วยให้เราเป็นเราที่ดีขึ้น หรือต้องทำแบบไหนถึงจะบรรลุเป้าหมายที่ตัวเองตั้งไว้
  • ฝึกสะท้อนความคิด
คือการนั่งทบทวนและวิเคราะห์ตัวเองถึงสิ่งที่ได้ทำไป ว่ามีอะไรที่เราทำได้ดี หรือทำพลาดไป และไม่นำมาซ้ำเติมหากเป็นสิ่งที่ทำพลาด แต่ใช้มันในการที่จะเรียนรู้ว่า ครั้งต่อไปหากเกิดสถานการณ์แบบนี้อีก เราจะรับมือหรือแก้ไขให้ดีกว่านี้ได้ยังไง



ในท้ายที่สุดแล้ว ถึงเราจะไม่สามารถรับรู้หรือเข้าใจคนอื่นได้มากเท่าที่เราต้องการก็ไม่เป็นไร การที่เรารับรู้และเข้าใจตัวเองเป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่า เพราะถ้าหากว่าตัวเราเองยังไม่เข้าใจตัวเอง จะมีใครที่ไหนมาเข้าใจเราได้อีกล่ะ ว่าไหม
 

แสดงความคิดเห็น