แจกเคล็ดลับปล่อยของ กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ให้ปังจนฉุดไม่อยู่!

แจกเคล็ดลับปล่อยของ
กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ให้ปังจนฉุดไม่อยู่!

 

สวัสดีค่ะชาวนักเขียนเด็กดีทุกคน อย่างที่รู้กันดี นักเขียนกับความคิดสร้างสรรค์เป็นของคู่กัน เพราะมีไอเดียดีๆ ที่เกิดขึ้นในหัว ทำให้เราเขียนนิยายได้อย่างสร้างสรรค์ แล้วทุกคนเชื่อหรือไม่ ไม่ใช่แค่นักเขียนที่มีความคิดสร้างสรรค์ แต่มนุษย์ทุกคนเองก็มีมัน!

คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่าความคิดสร้างสรรค์เป็นพรสวรรค์ แต่ที่จริงแล้วมันเป็นฟังก์ชั่นพื้นฐานของสมองเลยนะ และเราก็ไม่ได้มีพรสวรรค์น้อยไปกว่านักเขียนคนโปรดของเราหรอก เราแค่อาจจะต้องการเทคนิคดีๆ มาช่วยกระตุ้นสมองในการคิดอย่างสร้างสรรค์เท่านั้นเอง ซึ่งเทคนิคที่นำมาฝากวันนี้ จะช่วยให้เราปล่อยของได้เต็มที่

 

 

หัวใจสำคัญของการเขียนเชิงสร้างสรรค์ ไม่ได้อยู่ที่การเขียนเยอะ แต่อยู่ที่...!?

เคยมั้ย? เขียนไปเขียนมา ไอเดียตันสมองเบลอ เชื่อว่าหลายคนเคยเป็นเหมือนกันนั่นแหละค่ะ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะการเขียนเชิงสร้างสรรค์ (Creative Writing) มันไม่ได้วัดกันที่ปริมาณงาน จำนวนการเขียนเยอะๆ แต่ว่าอยู่ที่ "ความคิด" ของเรามากกว่า

ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) คือ ความสามารถในการคิดค้นเรื่องราวใหม่ๆ ที่สะท้อนแง่มุมบางอย่างของโลกใบนี้ งานเขียนที่สร้างสรรค์จะช่วยให้เราเข้าใจตัวเอง เข้าใจโลก และเข้าใจในสิ่งที่เขียนมากขึ้น ผลงานเหล่านี้มักจะดึงดูดใจนักอ่านด้วยมุมมองที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ️

ถึงอย่างนั้นมีสิ่งหนึ่งที่อยากให้ทุกคนรู้ ความคิดสร้างสรรค์ไม่ใช่พรสวรรค์ แต่เป็นทักษะที่เราสามารถฝึกฝนได้ เหมือนกับการเล่นกีฬา การวาดรูป หรือการร้องเพลง ยิ่งฝึกฝน ยิ่งเก่ง ยิ่งเขียนได้สร้างสรรค์มากขึ้น

ลองฟังพอดแคสต์ของ ดร.แอนดรูว์ ฮิวเบอร์แมนดูค่ะ เขาพูดถึงเรื่องความคิดสร้างสรรค์ในมุมมองของประสาทวิทยา รับรองว่าได้ไอเดียเด็ดๆ เพียบแน่นอน! 

 

 

ปลดล็อคความคิด เทคนิคเพิ่มความสร้างสรรค์ให้การเขียน

ในเมื่อเราเข้าใจความคิดสร้างสรรค์แล้ว คราวนี้มาดูวิธีฝึกฝนให้เราเขียนได้สร้างสรรค์ขึ้นกันดีกว่า แต่แอบกระซิบก่อนว่า เทคนิคที่นำมาฝากวันนี้อาจจะเซอร์ไพรส์น้องๆ หน่อยนะ เพราะมันไม่ได้อยู่ที่การหาแรงบันดาลใจจากภายนอก แต่กลับกัน เราจะต้องโฟกัสที่ “ภายใน” ของเราก่อน

เพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ของเรา ให้ทุกคนเริ่มทำตามง่ายๆ ด้วยการ "หลับตา" ใช่แล้ว อ่านไม่ผิดหรอก ความคิดสร้างสรรค์จะทำงานได้ดีที่สุดเมื่อเราอาศัยความทรงจำ ดังนั้นให้หลับตาเวลาคิดหาไอเดีย แล้วสังเกตความคิดของตัวเอง โดยไม่ตัดสินว่าดีหรือไม่ดี ปล่อยให้ความคิดไหลลื่นไปตามธรรมชาติ

ทุกความคิด ทุกไอเดีย ล้วนเกิดจากประสบการณ์ในอดีต ลองนึกภาพสมองของเราเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ เหมือนเวลาเราหลงไปในวิกิพีเดีย คลิกไปเรื่อยๆ จากบทความหนึ่งสู่อีกบทความ นั่นแหละคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในสมองของเรา ลองใช้เวลาสำรวจความทรงจำ แล้วคลิก "ลิ้งก์" ที่น่าสนใจเหล่านั้น เทคนิคนี้จะช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ยังมีอีกเทคนิคที่ช่วยปลดล็อคความคิด นั่นคือ "การคิดนอกกรอบ" (Divergent Thinking) 

ลองนึกภาพ เราอาจเริ่มจากไอเดียพื้นฐานง่ายๆ เช่น ภาพประกอบ ข้อความสั้นๆ จากนั้นเราจะปลดปล่อยความคิด คิดอะไรก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับภาพนั้น ยิ่งหลากหลาย ยิ่งแปลก ยิ่งเจ๋ง 

จำไว้ว่าความคิดสร้างสรรค์คือความแปลกใหม่  มันพาเราไปเห็นโลกในมุมมองที่แตกต่าง ดังนั้นอย่ากลัวที่จะคิดนอกกรอบ แล้วหยิบไอเดียที่น่าสนใจและแปลกใหม่มาใช้ รับรองว่าเซอร์ไพรส์ตัวเองแน่นอน

 

 

อัปเกรดเลเวลความสร้างสรรค์ให้ปังแบบฉับพลัน

เทคนิคเจ๋งๆ ข้างต้นที่กล่าวมาอาจต้องใช้เวลาฝึกฝน แต่ว่าถ้ากำลังเขียนนิยายอยู่ดีๆ เกิดตัน คิดไม่ออกขึ้นมาล่ะ? แล้วเดดไลน์ก็จ่อรอตรงหน้าไม่รอใครซะด้วย ไม่ต้องกังวลไปค่ะ มีวิธีกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์แบบรวดเร็วทันใจมาฝาก

เคล็ดลับคือ การเพิ่มระดับโดพามีน (Dopamine) ในร่างกาย ซึ่งสารชนิดนี้ส่งผลต่อพลังงานและความกระตือรือร้น  (Productive) 

วิธีง่ายๆ ก็คือการออกกำลังกาย หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน หรือจะทำทั้งคู่ก็ได้ ผลลัพธ์ที่ได้คือเราจะมีพลัง สมาธิ และคิดอะไรออกไวขึ้น! ถึงอย่างนั้น อย่าลืมว่าคาเฟอีนเป็นสารกระตุ้นประสาท ดังนั้นควรดื่มแต่พอดีเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสมองนะคะ

 

กาแฟกับความคิดสร้างสรรค์: เพื่อนคู่คิดหรือตัวถ่วง?

ไหนๆ ก็เมนชั่นถึงคาเฟอีนไปแล้ว หลายคนก็คงนึกถึงชากาแฟแหละนะ ทุกคนก็รู้ว่าชากาแฟช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ แต่ความจริงเป็นอย่างไรมาดูกันค่ะ

ผลวิจัยชี้ว่าคาเฟอีนช่วยเพิ่มระดับโดพามีนในสมอง  ซึ่งส่งผลต่อความคิดสร้างสรรค์อย่างแน่นอน ทว่าถึงแม้กาแฟจะเป็นสารกระตุ้น แต่ก็ควรดื่มอย่างพอเหมาะ การใช้สารกระตุ้นเพื่อกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์มีขีดจำกัด มักทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองมีไอเดียเจ๋งๆ เยอะแยะ แต่จริงๆ แล้วมันเป็นแค่ความรู้สึก ไม่ใช่ความคิดสร้างสรรค์ที่แท้จริง

ดังนั้น คาเฟอีนสักแก้ว ไม่ว่าจะเป็นกาแฟหรือชา ถือเป็นเพื่อนคู่คิดที่ดีสำหรับการเขียน

 

 

ออกกำลังกาย =  ไอเดียบรรเจิด?

จำเทคนิค “คิดนอกกรอบ” (Divergent Thinking) ที่เราพูดถึงไปก่อนหน้านี้ได้มั้ย?

การออกกำลังกายนี่แหละ คือตัวช่วยชั้นดีที่ทำให้เราคิดนอกกรอบได้มากขึ้น

การออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่เพียงแค่ส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกาย แต่ยังช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ และเสริมสร้างความสุขอีกด้วย เพราะงั้นถ้าอยากได้ไอเดียใหม่ๆ ให้ลองออกไปเดินเล่น  ขี่จักรยาน  ออกกำลังกาย หรือสมัครฟิตเนสดูสิ!

 

 

นั่งสมาธิปลุกไอเดีย: เทคนิคการนั่งสมาธิเพื่อเพิ่มความคิดสร้างสรรค์

นอกจากการเพิ่มระดับโดพามีนในสมองแล้ว การนั่งสมาธิก็เป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ลองฝึกเป็นประจำควบคู่ไปกับการเขียน จะช่วยให้เรามีไอเดียที่ไหลลื่นตอนตันได้ และนี่คือวิธีการทำสมาธิแบบง่ายๆ

  1. หลับตา สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ เป็นเวลา 6 วินาที
  2. กลั้นลมหายใจเป็นเวลา 2 วินาที
  3. ปล่อยลมหายใจออกยาวๆ เป็นเวลา 10 วินาที
  4. ทำซ้ำวนไป โฟกัสที่ลมหายใจ เลิกสนใจความคิดของตัวเอง และปล่อยให้จิตใจของเราปลดปล่อยอย่างเป็นอิสระ

เมื่อเรารู้สึกสงบ ผ่อนคลาย เข้าสู่สภาวะการนั่งสมาธิ สมองของเราจะพร้อม “คิดนอกกรอบ” นี่แหละคือช่วงเวลาแห่งความคิดสร้างสรรค์อย่างแท้จริง!

ปล่อยให้ความคิดของเราล่องลอยไปตามธรรมชาติ เมื่อเจออะไรที่น่าสนใจให้ขยายความคิดนั้นต่อ มองหาทุกมุมมองที่เป็นไปได้ และถ้าไอเดียนั้นเจ๋งพอที่จะหยิบมาเขียน ก็ถือว่าการนั่งสมาธิของเราประสบความสำเร็จ แต่ถ้ายังไม่เจอไอเดียเด็ดก็อย่าเพิ่งท้อแท้ ปล่อยให้ความคิดไหลต่อไป 

หัวใจสำคัญคือการรักษาสภาวะที่สงบ ไม่กดดันตัวเอง และไม่ตัดสินความคิดใดๆ เพราะบางครั้งเรื่องที่ดูเหมือนธรรมดา อาจกลายเป็นเรื่องสนุกสนานได้ เพียงแค่เรามองมันจากมุมที่แตกต่างออกไปเท่านั้นเอง

 

...............

 

เป็นอย่างไรบ้างคะกับเทคนิคดีๆ ที่นำมาฝากในวันนี้ อันที่จริงการเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ยังมีอีกหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ ดูผลงานศิลปินคนอื่นๆ ฟังเพลงที่ชอบ ดูหนัง / ซีรี่ส์ที่ถูกใจ ซึ่งเราอาจจะเคยทำสิ่งเหล่านี้อยู่แล้วในชีวิตประจำวัน  

เคล็ดลับสำคัญคือ การดึงศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในสมองของเราออกมาใช้ โดยเฉพาะช่วงก่อนที่จะเริ่มเขียน ซึ่งเทคนิคที่แนะนำในบทความนี้อย่างเช่น การคิดนอกกรอบ หรือการนั่งสมาธิ ช่วยได้ค่ะ ลองนำไปปรับใช้ดูนะคะ แล้วทุกคนคิดเห็นอย่างไรกับเทคนิคเหล่านี้? ลองคอมเม้นต์เล่าให้พี่อ่านหน่อยสิ!

หากสนใจเคล็ดลับการเขียนหรืออยากเป็นนักเขียนที่เก่งขึ้น สามารถกดติดตามรวมบทความเด็ดได้ที่ "เปิดคัมภีร์! ส่งต่อเคล็ดลับที่จะทำให้การเขียนนิยายของคุณกลายเป็นเรื่องง่าย!" เชื่อว่าน่าจะมีเคล็ดลับการเขียนที่ตรงใจทุกคนอยู่แน่ๆ ค่ะ

 

พี่น้ำผึ้ง : )

 

 

พี่น้ำผึ้ง
พี่น้ำผึ้ง - Columnist นักเขียนที่ชอบส่งต่อพลังบวกให้ทุกคน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด