Teen Coach EP.104 : โชคดี - โชคร้าย ชีวิตเรา เรากำหนดได้ด้วยตัวเอง!

ต้องมีอะไรผิดพลาดตรงไหน ไม่เข้าใจเลยสักครั้ง 

ไอ้ที่เขาทำ ฉันนั้นก็ทำ แต่ทำและไม่เคยสมหวัง

หรืออาจเป็นเพราะพื้นดวงหรือเปล่า? หรือเป็นที่ราศีของดวงดาว?

หรือเป็นเพราะตัวเราเองกันแน่?

เคยไหม ที่รู้สึกว่าตัวเองโชคร้าย เชื่อว่าที่ตนเองเจอแต่เรื่องไม่ดี เกิดจากปีชง เบญจเพส หรือราหูอม หลาย ๆ ครั้ง เราหันไปพึ่งการแก้ชง การสะเดาะเคราะห์ การเสริมดวงต่าง ๆ เราเคยสงสัยกันไหมว่าความเชื่อเหล่านี้มาจากไหน ทำไมมันถึงมีอิทธิพลกับพวกเราขนาดนี้

หลาย ๆ ครั้งที่เราอดจะเปรียบเทียบไม่ได้ว่าทำไมคนอื่นถึงโชคดี ดวงดีกับเรา ทำไมเราถึงโชคร้าย ลอตเตอรี่ที่ซื้อไม่เคยถูก จับฉลากได้ของรางวัลที่ไม่ต้องการ สุ่มผู้โชคดีไม่เคยมีชื่อเราเป็นหนึ่งในนั้น

ในบางครั้งจังหวะชีวิตของเรามันก็เป็นแบบนั้น เหมือนกับว่าโชคชะตาเล่นตลกกับเราอย่างจัง ซึ่งในความเป็นจริงมันเป็นเรื่องปกติที่แต่ละคนจะเจอเรื่องราวแตกต่างกันไป บางครั้งคนที่เจอเรื่องราวไม่ดีไม่ต่างจากเรา ก็ไม่ได้มาอัพลงโซเชียลหรือบอกคนอื่น ไม่ใช่แค่เราที่เจอเรื่องไม่ดีในหลาย ๆ ครั้ง

เรื่องของการใช้ชีวิตในแต่ละวัน เรามักจะเจอเรื่องที่ดีและร้ายปนกันไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเกิดจากความน่าจะเป็นในรูปแบบหนึ่ง ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ หากน้อง ๆ เคยดูภาพยนต์เรื่อง Avengers จะมีฉากที่ Dr. Strange คำนวนโอกาสที่จะเอาชนะธานอสได้ ลองจินตนาการเหตุการณ์ทั้งหมดที่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น เราก็จะพบว่า มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแบบสุ่ม แต่ไม่ได้แปลว่าเราจะเลี่ยงชะตาที่ไม่ดีได้

การเข้าวัด ทำบุญ แก้ปีชง บริจาค เป็นหนึ่งในกลไกที่ทำให้เรารู้สึกว่าเรากำลังผ่อนหนักเป็นเบา ทำให้เราสบายใจ และโล่งใจมากขึ้น ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราเลือกที่จะทำเป็นอย่างแรก ๆ

จริง ๆ แล้วมีคำอธิบายว่า เมื่อเราเจอเรื่องราวที่ไม่ดีในชีวิต การมูฟออนหรือรับมือกับปัญหา ก็เปรียบเสมือนบทเรียนที่ทำให้เราเติบโต เกิดการเรียนรู้ และสิ่งที่เรียกว่า Resiliency หรือความเข้มแข็งทางจิตใจ อีกทั้งยังทำให้เห็นถึงสิ่งที่เราให้ความหมายหรือคุณค่าในชีวิต

ฟังแล้วอาจจะดูเป็นการมองโลกในแง่ดีจนเกิดไป แต่อย่างที่บอกว่า การเกิดเหตุการณ์ในแต่ละวัน มักจะเป็นการสุ่ม เป็นดวง ซึ่งบางครั้งมันก็เกิดจากสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ 

ความคิดของเราก็ส่งผลให้เราเกิดความโชคร้าย หรือเรื่องแย่ ๆ ขึ้นได้ !

ถ้าเรามองว่าตนเองไม่มีคุณค่า ไม่คู่ควรกับเรื่องดี ๆ เป็นการมองตัวเองในแง่ลบ ขาดความมั่นใจ จนทำให้เรามี Self-esteem หรือการรับรู้คุณค่าตนเองค่อนข้างน้อย 

 

ปัจจัยเหล่านี้อาจจะส่งผลมาจากเหตุกาณ์ในวัยเด็ก เรื่องราย ๆ การถูกทิ้ง หรือแม้แต่ปัจจัยอื่น ๆ ก็ส่งผลให้เราเห็นคุณค่าในตัวเองน้อย คิดว่าเราไม่คู่ควรกับสิ่งดี ๆ ไม่คู่ควรกับการถูกรัก เป็นต้น 

ความคิดเหล่านี้ก็เป็นปัจจัยอย่างหนึ่งที่ทำให้เราเจอแต่เรื่องไม่ดี คนไม่ดี หรือโชคร้ายได้

 

หรือเอาแต่คิดว่าทำไมชีวิตฉันโชคร้าย ฉันโดนทิ้ง ฉันเกิดอุบัติเหตุ ฉันตกงาน ชีวิตฉันแย่มาก เพราะฉันมันดวงซวยสินะ ฉันถึงไม่ได้อะไรดีๆ กับเขาเลย หากเราคิดแบบนี้และคิดว่าตัวเราไม่เหมาะสมกับเรื่องดี ๆ โดยมัวแต่จมอยู่กับความรู้สึกแบบนั้น ไม่ลองหางานใหม่ โอกาสใหม่ๆ โดนทิ้งแต่ก็ยังมีคนอื่นอีกมากมาย และทุกคนไม่ได้ใจร้ายเหมือนกัน มันก็จะทำให้เราผ่านไปได้มากกว่าการโทษตัวเอง

 

หลาย ๆ ครั้ง เรามักมองว่าโชคไม่ดีเหล่านั้นเกิดจากโชคชะตา ปีชง เราโทษเดือนโทษดาว มองว่าสิ่งเรานี้ทำให้เราโชคร้าย ซึ่งก็เป็นข้อดีอย่างหนึ่ง เพราะมันก็ช่วยให้เราผ่านสิ่งแย่ๆ ที่เรามองว่าเป็นเคราะห์กรรม หรือดวงตกไปได้ เช่น การที่รถล้มในช่วงวัย 25 มองว่าเป็นเบญจเพส อาจจะทำให้เราปล่อยวาง และทำอย่างอื่นต่อไปได้ หรือบางครั้งที่เราผ่อนหนักเป็นเบา เจ็บดีกว่าตาย เป็นต้น

 

แต่ในทางกลับกัน บางกรณีความคิดเหล่านี้ก็อาจจะเป็นสิ่งที่คอยดึงดูดให้เราเจอแต่เรื่องโชคร้ายได้ เนื่องจากมันจะทำให้เราคิดว่า เราเป็นคนที่ดวงตก โชคชะตากลั่นแกล้งอยู่แล้ว เราไม่เหมาะกับสิ่งดี ๆ ยกตัวอย่างเช่น การทำงานที่เจอเพื่อนร่วมงานแย่ งานที่ไม่ชอบ เรากลับมองว่าเป็นโชคร้ายของเรา เปลี่ยนก็คงไม่ต่างจากเดิม หรือการเจอแฟนที่ red flag เราคิดว่าคนอย่างเราคงไม่เจอคนดี ๆ มีแค่แย่มากกับแย่น้อย เรามันโชคไม่ดีอยู่แล้ว

เพราะฉะนั้นประเด็นที่สำคัญที่สุดคือ การที่เราวางตัวเองไว้อยู่ตรงไหน การรายล้อมไปด้วยคนที่มองโลกในแง่ลบ ตัดสินทุกอย่าง ด้อยค่าของเรา ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่คู่ควรกับสิ่งดี ๆ การตามหาเป้าหมายของชีวิต สิ่งที่คู่ควร มันก็ทำให้เรามองหาโอกาสใหม่ ๆ เจออะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่ามันไม่ได้แย่อย่างที่คิด

The Luck Factor การสร้างโชคดีด้วยตัวเอง

เคยมีงานวิจัยหนึ่งที่ชื่อว่า The Luck Factor โดยอาจารย์ด้านจิตวิทยาที่ชื่อว่า Richard Wiseman โดยสำรวจพื้นฐาน ‘ความโชคดี’ และ ความโชคดีนี้มีอิทธิพลต่อตัวบุคคลอย่างไร และยังค้นพบว่า จริงๆ แล้วความโชคดีไม่ได้เกิดขึ้นโดยสุ่ม แต่มีอิทธิพลจากทัศนคติและพฤติกรรมของบุคคล 

ประเด็นหลักที่ทำให้เกิดความโชคดีมี 4 ข้อ ดังนี้

  • การมองหาโอกาสใหม่ ๆ กล้าที่จะเอาตัวเองออกไปเจอเรื่องราวใหม่ ๆ สร้างโอกาสให้ตัวเองอยู่เสมอ
  • การเชื่อในสัญชาตญาณหรือความคิดของตัวเอง 
  • มีความหวัง มองโลกในแง่ดี 
  • เรียนรู้ เอาบทเรียนที่ปรับใช้ สามารถเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นดีได้

บางครั้งโชคชะตาก็อาจจะเล่นตลกกับเรา บางอย่างที่อยู่นอกเหนือการควบคุม เช่น อุบัติเหตุ การไม่ถูกรางวัล ไม่ใช่ผู้โชคดี หรือบางอย่างที่เราสามารถควบคุมได้บ้าง แต่ไม่เสมอไป เช่น การเจ็บป่วย การพบเจอคน การเลือกงาน

แต่ก็ไม่มีใครโชคดีหรือโชคร้ายไปตลอด ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเจอกับอะไร เบญจเพส ปีชง ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อให้เราก้าวข้ามผ่านเรื่องราวร้าย ๆ โดยไม่โทษตัวเอง การทำบุญหรือแก้ชง หากเป็นสิ่งที่ทำแล้วช่วยให้เราสบายใจก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ถือเป็นการปรับใช้กับเรื่องไม่ดีที่เกิดขึ้น เป็นการทำสิ่งดี ๆ ให้เรามองโลกในด้านบวกมากขึ้น แต่อาจจะต้องระลึกไว้ว่า มันไม่ใช่ทางออกที่จะแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง เป็นเพียงที่พึ่งทางใจของเราเท่านั้น

 

ดั่งประโยคที่บอกว่า Regression To The Mean ในวิชาสถิติ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างสุดโต่ง มักจะถอยกลับเข้าสู่ค่าเฉลี่ยโดยปกติของมัน ก็เหมือนกับชีวิตของคนเรานั่นเอง

ข้อมูลจาก https://www.harleytherapy.co.uk/why-do-i-always-have-bad-luck.htmhttps://www.iwh.on.ca/what-researchers-mean-byhttp://richardwiseman.com/resources/The_Luck_Factor.pdf
โค้ชพี่นักเก็ต

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น