สรุปเทรนด์อาชีพมาแรงแห่งปี 2024: พร้อมเปิดหลักสูตร “SIM GE” การเรียนต่อต่างประเทศทางเลือกใหม่ คว้าใบปริญญาข้ามชาติจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ

สวัสดีค่ะชาว Dek-D นอกจากเรื่องความชอบและความถนัด ปัจจัยใหญ่ที่คนนำมาใช้วางแผนการเรียนด้วย ก็คือ “Career Trends” หรือแนวโน้มความต้องการแรงงานของตลาดงานทั้งในและนอกประเทศ วันนี้เราเลยมีข้อมูลสถิติน่าสนใจมาฝากว่าสายไหนกำลังมาแรงในปัจจุบัน และมีแนวโน้มจะเติบโตต่อเนื่องในช่วง 5 ปีหลังนี้ 

จากนั้นจะขอพาไปรู้จักหลักสูตรการศึกษาข้ามชาติ Transnational Education (TNE) ของสถาบันด้านการจัดการชื่อดังของสิงคโปร์ อย่าง “Singapore Institute of Management” (SIM) ซึ่งมีโปรแกรมที่ร่วมกับมหาวิทยาลัยพาร์ตเนอร์ชื่อดังของโลก เช่น University of London, RMIT, University of Stirling เป็นต้น ซึ่งที่นี่มีสาขาน่าสนใจมากมายที่จะช่วยเพิ่มโอกาสการทำงานในกลุ่ม 5 เทรนด์อาชีพที่ได้รับความนิยม ซึ่งบอกเลยว่าเป็นการเรียนต่อต่างประเทศรูปแบบใหม่ที่น่าสนใจมากๆ และยังช่วยให้น้องๆ สามารถเริ่มต้นเส้นทางการศึกษา เพื่อเตรียมตัวสู่เส้นทางอาชีพในอนาคตได้อย่างมั่นคงอีกด้วย

ระบบนี้น่าสนใจยังไง? ตอบโจทย์เราไหม? ออกแบบเส้นทางการเรียนยังไงได้บ้าง? พร้อมแล้วมาเริ่มกันเลยค่ะ~

. . . . . . . . . . .

ส่องเทรนด์อาชีพมาแรงในยุคดิจิทัล
ท่ามกลางวิกฤตการณ์สุขภาพครั้งใหญ่

สถานการณ์โรคระบาด COVID-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและเทรนด์การจ้างงานของภาคธุรกิจต่างๆ บางทักษะที่จะช่วยให้องค์กรรับมือวิกฤตและมีศักยภาพเติบโตในยุคดิจิทัลได้ ก็ยิ่งเป็นที่ต้องการสูงขึ้น โดยจากรายงาน Future of Jobs Report 2023 โดย World Economic Forum (ข้อมูลอัปเดตพฤษภาคม 2023) เผยว่า สายงานที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตสูงที่สุดในปี 2023-2027 ได้แก่ 

  1. ผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์และแมชชีนเลิร์นนิง (AI & Machine Learning)
  2. ผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืน (Sustainability Specialists)
  3. นักวิเคราะห์ข่าวกรองธุรกิจ (Business Intelligence Analysts)
  4. นักวิเคราะห์ความปลอดภัยของข้อมูล (Information Security Analysts)
  5. วิศวกรฟินเทค (FinTech Engineer)

ข้อมูลแนวโน้มการตลาดข้างต้นนี้ เป็นไปในทิศทางเดียวกับ “JobsDB by SEEK”  แพลตฟอร์มการจัดหางานอันดับหนึ่งในเอเชีย ที่เคยสำรวจไว้เมื่อปี 2022 มาดูกันว่า 5 อันดับกลุ่มสายงานที่ได้รับข้อเสนองานมากที่สุด และคาดการณ์ว่าจะมาแรงต่อเนื่องในอนาคต ว่ามีอะไรบ้าง? และจะมีหลักสูตรอะไรที่ตอบโจทย์สายงานแต่ละอุตสาหกรรมนั้นๆ? ตามไปดูตัวอย่างกันเลย!

ส่อง 5 อันดับกลุ่มอุตสาหกรรมฮิต!
และตัวอย่างหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับสายงาน

1. ดิจิทัล การจัดการ และวิเคราะห์ข้อมูล และ AI (37%)

(Image by Freepik)
(Image by Freepik)

ตัวอย่างหลักสูตรที่ตอบโจทย์

ตัวอย่างอาชีพมาแรง!

Front-end/Back-end/Full Stack Developer, ที่ปรึกษาด้านไอที, นักพัฒนาระบบ, นักพัฒนาซอฟต์แวร์/แอปพลิเคชัน, วิศวกร/นักวิเคราะห์ความปลอดภัยของข้อมูล, นักออกแบบ UX/UI, ผู้ดูแลระบบเครือข่าย (Network), SQL, ผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO, วิศวกรข้อมูล เป็นต้น

2. ศิลปะสื่อ และการออกแบบ (36%)

(Image by rawpixel.com on Freepik)
(Image by rawpixel.com on Freepik)

ตัวอย่างหลักสูตรที่ตอบโจทย์

  • Bachelor of Communication ในสาขา Digital Media Production, Public Relations, Journalism and Reporting, Social Media Communication หรือ Graphic Design
  • Bachelor of Arts ในสาขา Digital Media, Marketing หรือ Film and Media Studies

    นอกจากนี้ทาง SIM ยังมีหลักสูตร Bachelor of Communication (Professional Communication) ของ RMIT ให้เรียนด้วย

ตัวอย่างอาชีพมาแรง!

นักการตลาด, นักปฏิบัติการประชาสัมพันธ์, นักตัดต่อ, นักเขียน, บรรณาธิการ, ผู้บริหารโครงการ (Project Manager), ผู้กำกับศิลป์​ (Art Director), ผู้อำนวยการสร้าง (Producer), นักออกแบบ เช่น Graphic/Motion เป็นต้น

3. การบริการและการต้อนรับ (34%)

(Image by Freepik)
(Image by Freepik)

ตัวอย่างหลักสูตรที่ตอบโจทย์ 

  • Bachelor of Business จาก University of Stirling (สกอตแลนด์) และ La Trobe University (ออสเตรเลีย) ในสาขา Event Management หรือ Tourism & Hospitality 
  • Bachelor of Arts เช่น Psychology หรือ Communication

ตัวอย่างอาชีพมาแรง!

งานบริการลูกค้า (เช่น ฝ่ายบริการลูกค้า, Call Center) งานบริการด้านการท่องเที่ยว (เช่น เชฟ, ผู้จัดการงานอีเวนต์, ผู้จัดการโรงแรม, มัคคุเทศก์, งานบริการชุมชน (เช่น ล่าม, เจ้าหน้าที่ประสานงาน, เจ้าหน้าที่สัมพันธ์) และงานบริการอื่นๆ (เช่น ช่างซ่อมบำรุง, พนักงานทำความสะอาด, พนักงานรักษาความปลอดภัย) เป็นต้น

4. บริการทางการเงิน (30%) 

(Image by our-team on Freepik)
(Image by our-team on Freepik)

ตัวอย่างหลักสูตรที่ตอบโจทย์ 

  • Bachelor of Science / Accounting / Business ในสาขา Accounting and Finance, Business Administration, Business and Management, Business Analytics หรือ Economics

ตัวอย่างอาชีพมาแรง!

ตัวแทนจำหน่าย, นักวางแผนการเงิน/การลงทุน, ที่ปรึกษาทางการเงิน, ผู้ช่วยผู้ตรวจสอบบัญชี, ผู้จัดการสินเชื่อ, เจ้าหน้าที่ธนาคาร, เจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์, นักวิเคราะห์การเงิน, นักวิเคราะห์ความเสี่ยง เป็นต้น

ค้นหาหลักสูตร Business & Finance ของ SIM ที่นี่

5. บริการด้านสุขภาพและสังคม (30%)

(Image by pressfoto on Freepik)
(Image by pressfoto on Freepik)

ตัวอย่างหลักสูตรที่ตอบโจทย์ 

  • Bachelor of Arts ในสาขา Psychology, Life Sciences and Medicine, Behavioral Biology, Health Sciences
  • Bachelor of Science ในสาขา Medical Technology, Bachelor of Surgery, Medicine, Public Health, Pharmaceutical Science
  • Bachelor of Dental Surgery / Bachelor of Dental Science
  • Bachelor of Nursing Science

นอกจากนี้ที่ SIM ก็มีหนึ่งหลักสูตรน่าสนใจเปิดสอนอยู่ นั่นก็คือ “Master of Science Gerontology and Global Ageing” ซึ่งพัฒนาโดย University of Stirling, UK หลังเรียนจบก็จะได้รับวุฒิจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ส่วนเนื้อหาคือศาสตร์ทางสุขภาพเกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุ เรียกว่าถูกออกแบบมาเพื่อตอบรับกับปัญหาสังคมผู้สูงอายุในปัจจุบันนั่นเอง

ตัวอย่างอาชีพมาแรง!

แพทย์, จิตแพทย์, ทันตแพทย์, นักกายภาพบำบัด, นักจิตวิทยา, นักทัศนมาตร, นักวิทยาศาสตร์, นักสังคมสงเคราะห์, นักสาธารณสุข, นักโภชนาการ, ผู้จัดการข้อมูลด้านสุขภาพ, นักวิจัย, พยาบาล, รังสีแพทย์, ล่าม, เภสัชกร เป็นต้น

. . . . . . . . . . .

More Than One Pathway To Your Goal 

สำหรับนักเรียนไทยที่กำลังออกแบบเส้นทางเรียนให้ตอบโจทย์ตลาดงานในอนาคต การเลือกเรียนต่อที่ Singapore Institute of Management (SIM) เรียกว่าเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับนักเรียนไทย เพราะนอกจากจะช่วยเปิดประตูให้เราได้ศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยพันธมิตรชั้นนำระดับโลกและได้รับคุณภาพการศึกษาทัดเทียมกันแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าอีกด้วย!

ว่าแล้วเรามาทำความรู้จักกับหลักสูตรปรับพื้นฐานทั้ง 2 แบบที่เปิดสอนที่ SIM Global Education กันก่อนดีกว่า แตกต่างกันยังไงและเหมาะกับใครบ้าง?

1. หลักสูตร Foundation Studies  

เป็นหลักสูตรที่จะช่วยปรับพื้นฐานให้ผู้เรียนทั้งด้านวิชาการและทักษะภาษาอังกฤษสำหรับการเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งจะมีความเข้มข้น รวบรัด มีระยะเวลาการเรียนสั้นกว่า และบางหลักสูตรก็อาจจะปูความรู้วิชาเฉพาะทางให้ได้เรียนชิมลางก่อนด้วย โดยเมื่อเรียนจบแล้วจะได้รับ Certificate หรือประกาศนียบัตรรับรอง จากนั้นจึงจะยื่นเข้าเรียนต่อระดับปริญญาต่อได้  

ในส่วนของคุณสมบัติต่างๆ เช่น วุฒิการศึกษาหรือคะแนนภาษาที่ใช้ยื่นเข้าเรียนต่อหลักสูตร Foundation นั้นก็จะแตกต่างกันไปตามหลักสูตร สามารถเช็ก criteria เพิ่มเติมได้เลยที่นี่  (ถ้าหากใครคุณสมบัติไม่ถึงเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ก็สามารถลงเรียน Preparatory Course หรือคอร์สเรียนปรับพื้นฐาน 3 เดือน เพื่อเตรียมพร้อมก่อนเข้าเรียน Foundation Studies ได้เช่นกัน) โดยหลักสูตร Foundation ที่เปิดสอนที่ SIM สิงคโปร์ มีดังต่อไปนี้ 

หลักสูตร

สถาบันที่ดูแลหลักสูตร

ระยะเวลาเรียน

 

Monash University Foundation Year Monash College ออสเตรเลีย1 ปี
International Foundation ProgrammeUniversity of London อังกฤษ1 ปี
Information Technology Foundation Studies (ITFS) SIM Global Education สิงคโปร์6 เดือน
Management Foundation Studies (MFS) SIM Global Education สิงคโปร์6 เดือน

2. หลักสูตร SIM Diploma

SIM Diplomas คือวุฒิอนุปริญญาในสายวิชาเฉพาะทางที่ตอบโจทย์กับทั้งผู้ที่ต้องการใช้ต่อยอดการทำงาน และผู้ที่อยากจะเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยที่เป็นพาร์ตเนอร์กับทาง SIM

ซึ่งความแตกต่างกับคอร์ส Foundation คือจะมีระยะเวลาเรียนที่ยาวกว่านิดหน่อย และสามารถเลือกเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้หลากหลายมากกว่า และน้องๆ ที่เรียนจบ SIM Diplomas สามารถนำวุฒินี้ไปเรียนต่อปี 2 ที่มหาวิทยาลัยพันธมิตรของ SIM ได้เลย โดยหลักสูตร Diploma ที่เปิดสอนใน SIM ก็เรียกว่ามีครบทุกสาย สามารถใช้ยื่นเรียนต่อมหาวิทยาลัยดังๆ ที่เป็นพาร์ตเนอร์กับทางสถาบัน SIM ได้เลย!

หลักสูตรที่เปิดสอน

ระยะเวลา

 

Diploma in Accounting (DAC)15 เดือน
Diploma in Banking and Finance (DBF)15 เดือน
Diploma in International Business (DIB) 15 เดือน
Diploma in Information Technology (DIT) 12 เดือน
Diploma in Management Studies (DMS)  15 เดือน

. . . . . . . . . . .

Choose Your Pathway to Success 

มาถึงตรงนี้น้องๆ หลายคนอาจจะยังไม่เห็นภาพชัดถึงระบบการศึกษาข้ามชาติ หรือ Transnational Education (TNE) นั้นมีเส้นทางในการเรียนอย่างไรบ้าง เราก็ขอสรุปแบบกระชับๆ ให้เข้าใจภาพรวมได้ง่ายมากขึ้น 

ยกตัวอย่างเช่น หากน้องๆ เพิ่งเรียนจบ ม.5 ในโรงเรียนระบบไทย และกำลังวางแผนสมัครเรียนต่อในสาขา Big Data เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่เส้นทางอาชีพมาแรงแห่งยุคอย่าง ‘Data Scientist’ น้องๆ ก็สามารถเริ่มต้นได้เลยโดยไม่ต้องรอจนจบ ม.6 เพราะที่ SIM Global Education มีหลักสูตรปรับพื้นฐานที่เพียงแค่มีวุฒิ ม.5 ก็สามารถยื่นเกรดและคะแนนภาษาในการสมัครเรียนได้เลย 

ที่สำคัญคือที่ SIM มีมหาวิทยาลัยพันธมิตรชั้นนำเปิดสอนในสาขาด้าน Big Data อย่าง ‘University of Wollongong’ (UoW) จากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งหลังจากน้องๆ เรียนจบหลักสูตรปรับพื้นฐาน Foundation หรือ Diploma แล้ว ก็จะสามารถใช้วุฒิดังกล่าวยื่นสมัครเรียนต่อในระดับปริญญาตรีสาขา Big Data ที่ UoW ต่อได้เลย สามารถสรุปขั้นตอนง่ายๆ ตามตัวอย่างด้านล่างนี้ค่ะ~

ตัวอย่างทางเลือกที่ 1 : สมัครเรียนหลักสูตร Foundation

เรียนจบ ม.5 

สมัครเรียนในหลักสูตร Information Technology Foundation Studies (ITFS) เพื่อปรับพื้นฐานก่อนเริ่มปี 1   

  • ยื่นวุฒิ ม.5 ด้วยเกรดเฉลี่ย 2.6 (จาก 4.0)
  • ยื่นคะแนนภาษาอังกฤษ เช่น IELTS (band 5.5) TOEFL iBT (52 คะแนน) หรือคะแนนจากการสอบประเภทอื่นตามที่กำหนด
เรียนหลักสูตร Foundationเรียนในหลักสูตร Information Technology Foundation Studies (ITFS) โดยใช้เวลาเรียนทั้งหมด 1 ปี พร้อมได้รับ certificate 
เรียนปี 1 - 3เรียนต่อ Bachelor of Computer Science ในสาขา Big Data ของ  University of Wollongong (เรียนที่แคมปัส SIM ประเทศสิงคโปร์) โดยได้รับปริญญาจากออสเตรเลีย

ตัวอย่างทางเลือกที่ 2 : สมัครเรียนหลักสูตร Diploma ของ SIM

เรียนจบ ม.5 

สมัครเรียนในหลักสูตร Diploma in Information Technology (DIT) เพื่อปรับพื้นฐานก่อนเริ่มปี 1  

  • ยื่นวุฒิ ม.5 ด้วยเกรดเฉลี่ย 2.60 (จาก 4.0)
  • ยื่นคะแนนภาษาอังกฤษ เช่น IELTS (ขั้นต่ำ band 5.5) TOEFL (ขั้นต่ำ 550 คะแนน) หรือคะแนนจากการสอบประเภทอื่นตามที่กำหนด
เรียนหลักสูตร Diplomaเรียนในหลักสูตร Diploma in Information Technology (DIT) ของ SIM โดยใช้เวลาเรียนทั้งหมด 1 ปี พร้อมได้รับวุฒิอนุปริญญา
เรียนระดับปริญญา (2 - 2.5 ปี)เรียนต่อ Bachelor of Computer Science ในสาขา Big Data ของ  University of Wollongong (เรียนที่แคมปัส SIM ประเทศสิงคโปร์) โดยได้รับปริญญาจากออสเตรเลีย

เราเข้าใจว่าการเตรียมพร้อมสมัครเรียนต่อต่างประเทศอาจต้องมีหลายสิ่งที่ต้องวางแผน ทั้งเรื่องเอกสาร การประสานงาน การดำเนินการสมัครในแต่ละด่าน รวมถึงขั้นตอนที่ต้องเตรียมตัวเพื่อบินไปเรียน ทั้งเรื่องการหาที่พัก และการใช้ชีวิต ซึ่งความกังวลเหล่านี้จะหมดไปเมื่อเลือกศึกษาต่อกับ SIM Global Education เพราะแรกเริ่มก็จะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนนักศึกษาชาวต่างชาติ คอยให้คำปรึกษาและช่วยวางแผนตั้งแต่ต้นทางยันปลายทาง เช่น วีซ่านักเรียน (Student Pass) การเดินทางระหว่างประเทศ (Flight) ที่พัก (Accommodation) และยังมี ‘บัดดี้’ ที่คอยให้คำแนะนำช่วยเหลือในการใช้ชีวิตและการเรียนที่สิงคโปร์ ทั้งหมดนี้เพื่อให้ผู้สมัครทุกคนได้บรรลุเป้าหมายการศึกษาในหลักสูตรและมหาวิทยาลัยในฝัน และสามารถต่อยอดเส้นทางการทำงานในอนาคตได้อย่างราบรื่น

. . . . . . . . . . .

Unlock New Career Opportunities 
Start Your Way with SIM

เริ่มต้นปรึกษาที่นี่!เว็บไซต์ทางการ SIM ประเทศไทย LINE: SIM Global Education

Sources:

ทีมเรียนต่อนอก

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น