10 อันดับภาษาที่ต้องใช้เวลาเรียนรู้นานที่สุดในโลก!
บนโลกใบนี้มีภาษาที่มนุษย์ใช้ติดต่อสื่อสารกันมากกว่า 7,000 ภาษาทั่วโลก ในแต่ละมุมโลกก็จะใช้ภาษาที่แตกต่างกันไป ซึ่งทาง กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ (US Department of State) ได้วิเคราะห์ข้อมูลและจัดอันดับภาษาที่เรียนยากที่สุดในโลก โดยเทียบจากคนที่ใช้ภาษาอังกฤษ ความยากง่ายนี้ประกอบไปด้วย ไวยากรณ์ การออกเสียง ตัวอักษร ระบบการเขียน และความแตกต่างจากภาษาอังกฤษ การเรียนรู้แต่ละภาษานี้จะใช้เวลามากน้อยแค่ไหน? และภาษาอะไรใช้เวลาเรียนนานที่สุด 10 อันดับแรก? ไปดูกันเลย!
1. ภาษาจีน
ส่วนมากใช้ที่ : ประเทศจีน
ตัวอักษร : อักษรจีน ฮั่นจื้อ หรือ อักษรภาพ
ใช้เวลาเรียน : 2,200 ชั่วโมง
หนึ่งในภาษาที่คนใช้มากที่สุดในโลกอย่างภาษาจีน ก็ครองแชมป์ความยากอันดับ 1 ไปเลยสิคะ เรื่องที่โหดที่สุดก็ต้องยกให้ตัวอักษรที่ใช้ขีดตั้งแต่ 1-64 ขีดประกอบกันเป็น 1 ตัว และมีตัวอักษรหลายพันตัว นอกจากนี้ยังมีเรื่องของ วรรณยุกต์ 4 เสียง ระดับของเสียงใน 1 คำ ถ้าออกเสียงวรรณยุกต์ต่างการก็เปลี่ยนความหมายได้เลย
2. ภาษาญี่ปุ่น
ส่วนมากใช้ที่ : ประเทศญี่ปุ่น
ตัวอักษร : ฮิระงะนะ คาตาคานะ และคันจิ
ใช้เวลาเรียน : 2,200 ชั่วโมง
ความยากของภาษาญี่ปุ่นอยู่ที่การจำตัวอักษร 3 แบบ ได้แก่ ฮิระงะนะ คาตาคานะ และคันจิ การเรียงลำดับคำ โครงสร้างประโยค ไวยากรณ์ที่ซับซ้อน และแตกต่างกับภาษาอังกฤษอย่างสิ้นเชิง
3. ภาษาอาหรับ
ส่วนมากใช้ที่ : ประเทศแถบตะวันออกกลางและแอฟริกา
ตัวอักษร : อาหรับ
ใช้เวลาเรียน : 2,200 ชั่วโมง
อย่างแรกคืออาหรับมีตัวอักขระอักษรเป็นของตัวเอง ต้องอ่านจากขวาไปซ้ายต่างจากภาษาอื่นที่อ่านจากซ้ายไปขวา การเขียน การออกเสียงและสำเนียงที่เป็นเอกลักษณ์ รวมไปถึงไวยากรณ์ที่ยากสุดๆ
4. ภาษาเกาหลี
ส่วนมากใช้ที่ : ประเทศเกาหลีใต้ และ เกาหลีเหนือ
ตัวอักษร : ฮัลกึล
ใช้เวลาเรียน : 2,200 ชั่วโมง
ถึงแม้ตัวอักษรภาษาเกาหลีมีแค่ 24 ตัว และค่อนข้างง่ายต่อการสะกดและจดจำ แต่ความโหดอยู่ตรงที่โครงสร้างไวยากรณ์ที่เยอะและละเอียด รวมถึงระดับคำพูด 7 ระดับ
5. ภาษาเวียดนาม
ส่วนมากใช้ที่ : ประเทศเวียดนาม
ตัวอักษร : ละติน (ประยุกต์)
ใช้เวลาเรียน : 1,100 ชั่วโมง
สิ่งที่ยากที่สุดในภาษาเวียดนามก็คือโทนเสียง 6 เสียง สำเนียง ถึงแม้ว่าจะใช้ตัวอักษรละตินเหมือนกับภาษาอังกฤษที่เพิ่มสัทอักษรเป็นวรรณยุกต์ แต่จริงๆ แล้วการออกเสียงจะไม่ได้ตรงกับตัวอักษรโดยตรง ดังนั้นเวลาฟังหรือพูดต้องแยกแยะเสียงให้ดีๆ
6. ภาษานาวาโฮ (Navajo)
ส่วนมากใช้ที่ : ชนเผ่าในสหรัฐอเมริกา
ตัวอักษร : ละติน (ประยุกต์)
ใช้เวลาเรียน : 1,100 ชั่วโมง
ถึงแม้จะใช้ตัวอักษรละติด แต่ก็มีพยัญชนะแปลกๆ หลายตัวที่ไม่พบในภาษาอังกฤษ นี่ยังไม่รวมการออกเสียง และไวยากรณ์ที่คาดเดาไม่ค่อยได้ ทำให้ภาษานี้ค่อนข้างท้าทายในการศึกษา ท้าทายจนถึงขั้นที่ว่าในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มีการใช้ภาษานี้เป็นรหัสลับในการติดต่อสื่อสารเลยทีเดียว
7. ภาษาฮังการี
ส่วนมากใช้ที่ : ฮังการี เซอร์เบีย ออสเตรีย สโลวีเนีย
ตัวอักษร : ละติน (ประยุกต์)
ใช้เวลาเรียน : 1,100 ชั่วโมง
“Megszentségteleníthetetlenségeskedéseitekért” นี่คือคำ 1 คำในภาษาฮังการี ที่มี 44 ตัวอักษร และมีความหมายในภาษาอังกฤษว่า for your profanities หรือ สำหรับความหยาบคายของคุณ ดังนั้นสิ่งที่ยากที่สุดคือการประสมคำ ที่จะมีการเติมข้างหน้า เติมข้างหลังอีกมากมาย
8. ภาษาฮินดี
ส่วนมากใช้ที่ : อินเดีย
ตัวอักษร : เทวนาครี
ใช้เวลาเรียน : 1,100 ชั่วโมง
ตัวอักษรเทวนาครี คือโจทย์ที่โหดที่สุดในการเรียนภาษาฮินดี มีตัวอักษรพื้นฐาน 46 ตัว แต่มีเครื่องหมายกำกับเสียงจำนวนมาก ไวยากรณ์ก็ค่อนข้างซับซ้อนเพราะมีการผันตามกาล ลักษณะ อารมณ์ และเพศ
9. ภาษารัสเซีย
ส่วนมากใช้ที่ : รัสเซีย เบลารุส คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ทาจิกิสถาน
ตัวอักษร : รัสเซีย (อักษรซีริลลิก)
ใช้เวลาเรียน : 1,100 ชั่วโมง
การจำตัวอักษรรัสเซียว่ายากแล้ว แต่การถอดและออกเสียงนั้นยากยิ่งกว่า เพราะว่าค่อนข้างต่างกับภาษาอังกฤษอย่างสิ้นเชิง รวมถึงไวยากรณ์ที่คำมี 3 เพศ และมีการผันไวยากรณ์ที่ซับซ้อน เรียกได้ว่าถ้าผันผิดชีวิตเปลี่ยนเลยทีเดียว
10. ภาษาตุรกี
ส่วนมากใช้ที่ : ตุรกี ไซปรัส
ตัวอักษร : ละติน (ประยุกต์)
ใช้เวลาเรียน : 1,100 ชั่วโมง
ตัวอักษรละตินในภาษาตุรกี ไม่ได้ออกเสียงเหมือนตัวอักษรละตินที่ทุกคนคุ้นเคย จึงยากสำหรับการออกเสียง การผสมคำก็มีการเติมหัว เติมท้าย การเรียงลำดับประโยคก็ซับซ้อน กว่าจะพูดได้ต้องใช้เวลาเรียนมากถึง 1,100 ชั่วโมง
ภาษาไทยของเราเองก็อยู่ในระดับที่ยากมากเช่นกัน ที่ต้องใช้เวลาเรียนนานถึง 1,100 ชั่วโมง คงไม่ต้อง เพราะทุกคนน่าจะรู้กันดีว่าภาษาไทยยากตรงไหน
ข้อมูลจากhttps://blog.busuu.com/hardest-languages-to-learn/https://www.studyinternational.com/news/difficult-languages-to-learn/จะเห็นว่าภาษาแถบๆ เอเชียนี่ติดอันดับท็อปๆ ทั้งนั้น ใครที่เรียนผ่านมาแล้ว อ่านออก เขียนได้ หรือกำลังเรียนอยู่ก็ภูมิใจในตัวเองไว้ว่าเราเก่งมาก!
1 ความคิดเห็น