ด้นสดยังไงให้รอด ชวนส่อง Stream of Consciousness เทคนิคเขียนนิยายให้ไวแบบฉ่ำๆ

ด้นสดยังไงให้รอด
ชวนส่อง Stream of Consciousness
เทคนิคเขียนนิยายให้ไวแบบฉ่ำๆ

 

ในยุคที่ทุกอย่างรวดเร็วขนาดนี้ หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของการเขียนนิยายออนไลน์คือความเร็ว ใครเขียนนิยายไว แถมยังมีประสิทธิภาพย่อมได้เปรียบ จะได้อัปลงเว็บบ่อยๆ เพิ่มการมองเห็นของนักอ่าน และไม่ต้องปล่อยให้นักอ่านรอด้วย มาค่ะ วันนี้มาจบปัญหาเขียนช้าพร้อมกันด้วยเทคนิค Stream of Consciousness การเขียนนิยายแบบไม่ติดฟิลเตอร์ใดๆ รับรองเลยว่าวิธีนี้จะช่วยให้เขียนไวมาก และยังเป็นยารักษาอาการตันของนักเขียนด้วย มาดูกันเลยดีกว่าค่ะ

 

 

Stream of Consciousness คืออะไร?

นักจิตวิทยา วิลเลียม เจมส์ เป็นคนบัญญัติวลี “กระแสแห่งจิตสำนึก (Stream of Consciousness)” ขึ้นมาเป็นครั้งแรก หลักการข้อหนึ่งของเขาให้คำจำกัดความว่า เป็นความคิดที่หลากหลายซึ่งเราสามารถรับรู้ได้

“กระแสแห่งจิตสำนึกคือการเขียนคำหรือความคิดแรกที่เข้ามาในหัวของคุณโดยไม่ได้วางแผนหรือคิดอย่างมีสติเกี่ยวกับสิ่งที่คุณกำลังเขียน” แมทธิว เวลส์กล่าว “บางคนอาจเรียกมันว่าเป็นการเขียนแบบไหลลื่น (automatic writing)” 

เทคนิคนี้ช่วยให้เราเขียนนิยายไวขึ้น โดยเราจะปล่อยให้ความคิด ไอเดีย อารมณ์ของเราหลั่งไหลบนหน้ากระดาษ เขียนไปเรื่อยๆ อย่างไหลลื่น ไม่มีการหยุดเพื่อแก้ไข หรือย้อนกลับไปเรียงประโยคใหม่ มีเพียงถ้อยคำที่เราพิมพ์ลงไปรัวๆ อย่างต่อเนื่อง จดจ่ออยู่ที่การเขียนต่อไปโดยไม่ต้องกังวลเรื่องไวยากรณ์ คำผิด เครื่องหมายวรรคตอน หรือแม้แต่การเชื่อมโยงกัน

เพราะเขียนโดยโนสนโนแคร์หลักการทุกอย่างนั่นแหละ พี่ถึงเรียกว่าเขียนแบบไม่ติดฟิลเตอร์

 

ทำไมการเขียนแบบไม่ติดฟิลเตอร์ถึงดี?

  • เขียนไวมากกกก เพราะเมื่อเราเขียนโดยไม่หยุดแก้ไขหรือเรียบเรียงใหม่ ความเร็วในการเขียนจะเพิ่มขึ้นตามธรรมชาติ
  • เอาชนะอาการตันได้ด้วยเพราะปล่อยให้ความคิดเราเป็นอิสระตอนเขียน
  • การปล่อยให้ความคิดไหลลื่นโดยไม่ตัดสิน เขียนไปให้หมดในสิ่งที่แล่นเข้าหา จะช่วยให้เราเข้าถึงบ่อเกิดแห่งความคิดสร้างสรรค์ที่ซ่อนอยู่ในตัวเรา
  • กระบวนการนี้ช่วยในการจัดระเบียบความคิด และยังช่วยให้เราค้นพบตนเอง
  • พอเขียนได้ ความคิดก็ลดลง แถมช่วยลดปัญหาอาการดองด้วย

 

 

Step-by-Step Guide เขียนแบบไม่ติดฟิลเตอร์
 

1.        นั่งสมาธิ

ขั้นตอนแรกคือการสงบจิตใจและ “อยู่ในภาวะเตรียมพร้อม” ให้มากที่สุด การทำสมาธิเป็นวิธีที่ได้รับความนิยม เนื่องจากการเขียนนิยายเป็นงานที่เราต้องอาศัยโฟกัสมากๆ การมีสติหรือฝึกสมาธิเป็นประจำสามารถช่วยให้เราจดจ่ออยู่กับการเขียนเป็นระยะเวลานานๆ ได้ เมื่อเราเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกา เราอาจจะแปลกใจที่พบว่าเวลาผ่านไปสองสามชั่วโมงแล้ว

 

2. กำจัดสิ่งรบกวนสมาธิ

สิ่งสำคัญสำหรับการเขียนแบบนี้ คือเราต้องไม่วอกแวก เราต้องเลี่ยงการขัดจังหวะความคิดที่ไหลลื่นอย่างต่อเนื่อง อาจจะเริ่มจากการเคลียร์โต๊ะ ปิดโซเชี่ยลมีเดีย หยุดเล่น TikTok เปิดโหมด ‘Do Not Disturb’ ปล่อยวางเรื่องกังวลใจ 

วิธีที่ดีที่สุดคือเขียนตอนกลางดึก ก่อนเข้านอน หรือทันทีหลังตื่นนอน นี่เป็นช่วงเวลาที่ดีเพราะจิตใจเราไม่ได้หมกมุ่นกับเรื่องอื่น

 

3. กำหนดเวลา

ก่อนเขียนให้กำหนดเวลาไว้เลยว่าจะเขียนกี่นาที กี่ชั่วโมง เอาที่ไหว ไม่ต้องฝืนตัวเองนะ พอถึงเวลาลงมือเขียนจริง ก็ให้เขียนโดยไม่สนเรื่องไวยากรณ์ คำผิดต่างๆ เขียนไปเลยตราบเท่าที่ไอเดียแล่นมาในหัวในช่วงเวลาที่เราเซ็ตไว้ ถึงบางอย่างอาจจะดูไม่เมคเซ็นส์ หรือดูไม่เชื่อมโยง ก็ให้เขียนต่อไปจนกว่าจะครบเวลา

ลองดูบทความ แจก 9 เคล็ดลับสุดปัง ช่วยเขียนนิยายให้จบแบบไม่เทในปี 2021! เพิ่มเติมได้นะ มีฮาวทูกำหนดเวลาให้ปังๆ อยู่

 

4. อย่าอีดิท

นี่แหละที่มาของ “การเขียนแบบไม่ติดฟิลเตอร์” คือตอนที่เขียนเนี่ย ลืมเรื่องภาษาสวย เรียงคำดีไปเลย ให้ลืมทุกอย่างแม้กระทั่งคำผิด เครื่องหมายวรรคตอน จดหรือพิมพ์ให้ไว เขียนไปตามความคิดไอเดียที่แล่นมา แล้วดูว่ามันจะนำเราไปสู่ทางไหน ไม่ต้องย้อนกลับไปแก้ไข ถึงจะอยากกลับไปแก้มากแค่ไหนก็ตาม ไว้หมดเวลาค่อยว่ากัน 

และถ้าเกิดว่าติดขัด ยังคิดอะไรไม่ออก ก็อย่าหยุดเขียนด้วยนะ เขียนอะไรลงไปก็ได้ แล้วเดี๋ยวไอเดียใหม่จะมาเอง จำไว้ว่าเราจะหยุดเขียนได้ก็เมื่อหมดเวลาแล้ว

 

5. ทบทวนอีกครั้ง

หลังจากเสียงนาฬิกาหมดเวลาดัง ให้หยุดเขียนทันทีและพักสมองก่อน อาจจะไปเดินเล่น กินขนม หลับสักงีบ แล้วกลับมาดูว่าฉันเขียนอะไรลงไป ถึงตอนนั้นก็เป็นช่วงเวลาเหมาะสมในการอีดีท รีไรต์ หรือแม้กระทั่งเพิ่มการหักมุมลงในเรื่องของเรา

 

Tips

  1. ความสม่ำเสมอคือกุญแจสำคัญ: พยายามทำให้สิ่งนี้เป็นเรื่องปกติ แม้แต่วันละ 10 นาทีก็สามารถสร้างความแตกต่างได้
     
  2.  ทบทวน แต่อย่าตัดสิน: เมื่อทบทวนการเขียนแบบไม่ติดฟิลเตอร์ของเรา ให้มองหาไอเดีย หรือวลีที่โดดเด่น แต่อย่าตัดสินคุณภาพของมัน เรามารีไรต์กันใหม่ได้
     
  3. ความยืดหยุ่น: สามารถปรับการจำกัดเวลาหรือความถี่ให้เหมาะกับความต้องการและตารางเวลาของเรา

 

......................

 

การนำวิธีการเขียนแบบไม่ติดฟิลเตอร์มาใช้ ไม่เพียงแต่จะเร่งการเขียนของเราให้ไวขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นประตูสู่ความคิดสร้างสรรค์แบบไร้ขีดจำกัด และป้องกันเราจากอาการตัน ให้อิสระแก่ตัวเองในการสำรวจไอเดียที่โลดแล่นโดยไม่ตัดสินว่าดีหรือไม่ และเราอาจเซอร์ไพรส์กับผลลัพธ์ที่ได้!

หากสนใจเคล็ดลับการเขียนหรืออยากเป็นนักเขียนที่เก่งขึ้น สามารถกดติดตามรวมบทความเด็ดได้ที่ "เปิดคัมภีร์! ส่งต่อเคล็ดลับที่จะทำให้การเขียนนิยายของคุณกลายเป็นเรื่องง่าย!" เชื่อว่าน่าจะมีเคล็ดลับการเขียนที่ตรงใจทุกคนอยู่แน่ๆ ค่ะ

  

พี่น้ำผึ้ง : )

 

ขอบคุณภาพ unsplash.com
พี่น้ำผึ้ง
พี่น้ำผึ้ง - Columnist นักเขียนที่ชอบส่งต่อพลังบวกให้ทุกคน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น