ไข 4 ปัญหาหนักใจของวัยรุ่น จาก "คิมรันโด" ผู้เขียน เพราะเป็นวัยรุ่นจึงเจ็บปวด

ขอคำปรึกษาปัญหาหนักใจกับ "คิมรันโด" ผู้ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดให้กับวัยรุ่น

หนึ่งบุคคลที่เข้าใจปัญหาของวัยรุ่นได้เป็นอย่างดี ก็คือ "คิมรันโด" ผู้เขียนหนังสือเรื่อง "เพราะเป็นวัยรุ่นจึงเจ็บปวด" หนังสือที่ช่วยแนะนำแนวทางให้กับวัยรุ่นที่กำลังหลงทาง และก็เป็นโอกาสอันดีที่ทาง Dek-D มีโอกาสได้พูดคุยและได้หยิบยก 4 ประเด็นปัญหาวัยรุ่นจากเว็บบอร์ดในเว็บไซต์ Dek-D.Com  ไปขอคำปรึกษา  ซึ่งอ.คิมรันโดก็ให้คำแนะนำดีๆ ที่หลายๆ คนน่าจะนำไปปรับใช้ในชีวิตได้  ทั้งในแง่ของการเรียน ชีวิต และความฝันที่เชื่อว่าน้องๆ ชาว Dek-D ต้องอิน

Q : อยู่ชั้น ม.5 แล้ว แต่ทำคณิต วิทย์ ฟิสิกส์ เคมี ไม่ได้เลย คะแนนแย่ที่สุดในห้อง ต้องเริ่มจากตรงไหน ทำยังไงให้เข้าใจครูสอน

การเรียนเปรียบเหมือนการเล่นเกมเจงก้า (Jenga เกมตึกถล่ม) ถ้าบล็อคที่เราต่อไว้มีรากฐานไม่แข็งแรง ข้างบนก็จะสั่นมากๆ แค่ดึงบล็อคออกไม่กี่อันก็จะหล่นลงทั้งหมด สำหรับเด็ก ม.5 ที่ไม่เข้าใจเรื่องที่ครูสอน ต้องมองย้อนกลับไปมันไม่ใช่ปัญหาที่เพิ่งเกิดขึ้นตอน ม.5 ถ้าเทียบกับเจงก้าก็เป็นเพราะรากฐานข้างล่างไม่แน่น ข้างบนก็เลยสั่นคลอน เพราะฉะนั้นเราต้องเติมบล็อคเข้าไปในฐานให้แน่น

 

สมมติว่า ม.5 เรียนไม่เข้าใจ ไม่ใช่ว่าให้เปิดอ่านหนังสือของ ม.5 แต่กลับไปอ่านตั้งแต่ชั้น ม.ต้น ถ้ายังไม่เข้าใจก็ลองหาคำปรึกษา หรือให้คนอื่นช่วยสอน และไม่จำเป็นต้องรู้สึกเขินอายอะไรทั้งนั้น เพราะการย้อนอ่านหนังสือของ ม.ต้น ก็คือการที่เราได้กลับไปทบทวนเพื่อให้ความรู้ที่มีอยู่แน่นขึ้น และไม่ต้องกลัวว่าจะต้องใช้เวลาเยอะ เพราะเราไม่จำเป็นต้องอ่านใหม่ทีละหน้า แค่กลับไปดูให้แน่ใจว่ามีจุดไหนที่เราไม่เข้าใจ จดโน้ตเอาไว้ แล้วจะเรียนรู้ได้เร็วขึ้น การเรียนกับเกมเจงก้าอาจจะดูคล้ายกัน แต่ในเกมเราต้องดึงบล็อคออก แต่การเรียนหนังสือคือเราต้องเติมบล็อคเข้าไปให้เต็ม 

 

อ่านกระทู้เพิ่มเติมได้ที่ : https://www.dek-d.com/board/teen/4092180/

2.  ควรเลือกเรียน ‘คณะที่ชอบ’ หรือ ‘คณะที่จบมาเเล้วมีงานทำ’ ?

ถ้าจะบอกว่าเรียนคณะที่สามารถหางานทำได้ง่าย โลกตอนนี้มี AI เข้ามา ทำให้ไม่มีอะไรการันตีเลยว่าคณะที่เราคิดว่าหาเงินได้ดีในตอนนี้ จะหาเงินได้ดีในอนาคต ดังนั้นจึงควรเรียนคณะที่เราชอบ แต่มีปัจจัยที่สำคัญมากกว่านั้น คือต้องเลือกเรียนในสายวิชาที่เราเก่ง เพราะวิชาที่เราชอบเราอาจจะไม่เก่ง แต่วิชาที่เราเก่ง จะทำให้เราสามารถพัฒนาต่อไปได้ และมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่า 

 

ดังนั้นถ้าเรียนวิชาที่ชอบแล้วเราอยู่ในระดับกลางๆ Average ในคณะนั้นๆ แนะนำว่าให้เลือกเรียนสาขาที่เราเก่ง แล้วมุ่งมั่นไปเป็นคนที่เก่งที่สุดเลยดีกว่า 

 

อ่านกระทู้เพิ่มเติมได้ที่ :  https://www.dek-d.com/board/view/4010390/

 

3. ทำไมยิ่งเรียนสูงความฝันยิ่งหดเล็กลงเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าเรียนจบจะไปทำอะไร เรียนไปเพื่ออะไร? 

ในสมัยเด็กๆ ตอนประถมเรามักจะวางแผนเอาไว่ว่าอยากโตไปทำงานแบบนั้นแบบนี้ ถ้าย้อนกลับไปดูช่วงม.ต้น สิ่งที่เราคิดเอาไว้ตอนประถม มันอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นเลยก็ได้ พอเราอยู่ม.ปลาย  สิ่งที่เราคาดหวังไว้ตอน ม.ต้น ก็อาจจะไม่ได้ขึ้นจริง พอเข้ามหาวิทยาลัยจะยิ่งหนักมากกว่านี้ เพราะทุกคนจะคิดว่าเรียนคณะนี้ เราต้องทำอาชีพนี้แน่ๆ เลย แต่มันก็อาจจะไม่ได้ตรงตามที่เราคิดไว้เสมอไป 

ชีวิตมันก็เหมือนการเดินขึ้นเขา ถ้าเราเดินยังไม่ถึงยอดเขา เราจะไม่มีทางรู้เลยว่า วิวทิวทัศน์บนนั้นจะเป็นอย่างไร

 

ดังนั้นการที่เราใช้ชีวิตต่อไปเรื่อยๆ เดินไปเรื่อยๆ แล้วอยู่ดีๆ ความฝันที่เราเคยฝันไว้ก็หายไป หรือแม้กระทั่งมันเล็กลง ก็เป็นเรื่องปกติ แต่ในทางกลับกัน ถ้าเรามองตัวเองอย่างใกล้ๆ ค่อยๆ พัฒนาตัวเองไปทีละก้าว เมื่อเราหันกลับมามองตัวเอง อาจจะเห็นว่าเรามาได้ไกลมากแล้วก็ได้ ให้บอกกับตัวเองฉันจะลองฝันแบบนี้ดู ฉันจะลองทำงานแบบนี้ แล้วลงมือทำ เหมือนกับคำพูดที่จากหนังสือเรื่อง Alice in Wonderland ที่บอกว่า ถ้าไม่รู้จะเดินไปทางไหน ก็แค่..เดิน

 

อ่านกระทู้เพิ่มเติมได้ที่ : https://www.dek-d.com/board/teen/4038674/

4. ขาดที่พึ่งทางใจ จะผ่านช่วงเวลายากๆ ในชีวิตไปยังไงดี?

ถ้ามีเด็กคนไหนได้เจอกับอาจารย์ที่ใจดี หรือว่ามีพ่อแม่ที่อบอุ่นพร้อมรับฟัง ก็ถือว่าเป็นคนที่โชคดี แต่โลกแห่งความเป็นจริงไม่ใช่ทุคนจะโชคดีแบบนี้ หลายคนจึงเลือกปรึกษาเพื่อน รุ่นพี่ หรือคนที่อายุมากกว่า แต่สุดท้ายแล้วไม่มีคำตอบให้เราได้ดีกว่าสิ่งที่เราที่เราบอกตัวเอง เมื่อมีเรื่องทุกข์ใจ เราจะต้องพยายามผ่านมันไปให้ได้ ในกรณีที่อ.คิมใช้คือ ‘การเขียน’ เขียนระบายลงไปว่าปัญหาคืออะไร ลองเขียนแล้วก็ลองดูว่าเราสามารถหาคำตอบได้ไหม ไม่จำเป็นต้องเขียนเล่าเรื่องราวในชีวิตประจำวันทุกคน แค่เขียนลงสมุด หรือโน้ตไว้ในโทรศัพท์เพื่อให้ตัวเองเอาไว้อ่านคนเดียว เพราะการเขียนจะช่วยจัดระเบียบความคิด เหมือนได้เอาความคิดวุ่นวายในสมองออกมาไว้เป็นตัวหนังสือ ถึงแม้หลังจากเขียนเสร็จอาจจะหาทางแก้ไขหรือทางออกไม่ได้ แต่ถ้าเวลาผ่านไป เมื่อเรากลับมาอ่านอีกครั้ง มันจะทำให้เราเห็นความเติบโตของตัวเอง และรู้ว่าทุกปัญหาจะหาทางออกได้ในภายหลัง 

 

คุณสมบัติสำคัญที่ทุกคนควรมีคือ การมองตัวเอง และการย้อนกลับมาอ่านสิ่งที่เราเคยเขียนไว้ ก็จะทำให้เราได้รู้จักกับตัวเองมากขึ้น 

 

ปัญหาวัยรุ่นที่อ.คิมรันโด ให้คำแนะนำไว้ ทั้งในเรื่องของการเรียน  ความฝัน และแพสชั่นในใจ  ก็หวังว่าชาว Dek-D ที่เจอกับเรื่องราวคล้ายๆ กันนี้จะสามารถนำไปเป็นแนวทางในการใช้ชีวิตได้  นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งบทสัมภาษณ์เกี่ยวกับ 3 สิ่งที่วัยรุ่นควรมี เพื่อการเติบโตที่ประสบความสำเร็จ จาก "คิมรันโด" อ่านได้ที่นี่ คลิก

ถ้าอยากได้แนวคิดหรือแรงบันดาลใจดีๆ ก็สามารถไปซื้อหนังสื "เพราะเป็นวัยรุ่นจึงเจ็บปวด" ของ คิมรันโด ได้ที่ ร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป หรือสั่งซื้อทาง เว็บไซต์ Amarinbooks.com , Shopee: Amarinbooks Official Shop  และ Lazada: Amarinbooks  

พี่แพม
พี่แพม - Columnist คอลัมนิสต์สายติ่งเกาหลี นอนน้อยเพราะดูซีรีส์ สาระไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น