10  ปีในวงการเกม E-Sport
สู่นักเขียนนิยายออนไลน์

The Chosen EP. 43 Writelazy

   ไม่มีเวลา อ่านแค่ตรงนี้ 

  • ‘แจ็ค’ หรือ ‘Writelazy’ ผู้เขียนนิยายเรื่อง ‘ระบบร้านอาหารสามเวลาต่างโลก’ เบื้องหลังของเขา คือ หัวหน้าแผนกไอทีในบริษัทเกมออนไลน์แห่งหนึ่ง
  • แจ็คอยากเอาประสบการณ์กว่า 10 ปี ที่ได้คลุกคลีกับคนในวงการเกม E-sport มาลองเขียนนิยายออนไลน์ดูบ้าง จึงแต่งนิยายเรื่อง ‘The Era Online: ย้อนอดีตกลับมาเป็นเทพ’ จนมีเนื้อหาเกือบ 1,000 ตอน
  • ตลอดระยะเวลา 4 ปีบนเส้นทางนักเขียน เขาเขียนนิยายควบคู่ไปกับการทำงานประจำ โดยอาศัยเวลาเพียงวันละ 10-15 นาทีมาคิดไอเดียในการเขียน และใช้เวลาว่างหลังเลิกงานมาแต่งนิยายต่อจนจบ
  • ปัจจุบัน แจ็คยังคงทำงานประจำ และเขียนนิยายขายออนไลน์ไปด้วย โดยรายได้ส่วนหนึ่งจากการขายนิยายออนไลน์ เขาเก็บไว้ใช้จ่ายภายในครอบครัวยามฉุกเฉิน 

ถ้าหากมีใครมาถามว่า “จะเริ่มต้นเขียนนิยายอย่างไรดี” คำแนะนำง่ายๆ ในวันนี้ คือ ลองเขียนจากเรื่องใกล้ตัวของเราดูสิ

เหมือนที่ “แจ็ค” หรือ “Writelazy” ผู้เขียนนิยายแฟนตาซีเรื่อง ‘ระบบร้านอาหารสามเวลาต่างโลก’ เอาประสบการณ์จากการทำงานในบริษัทเกมมาต่อยอดเป็นนิยายออนไลน์ จนตอนนี้เขาแต่งนิยายไปได้กว่าพันตอนแล้ว!

แจ็ค นักเขียนหนุ่มวัย 33 ปี เล่าว่าก่อนจะมาเขียนนิยาย เขาทำงานเป็นพนักงานประจำในบริษัทเกมแห่งหนึ่ง ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายไอทีมาก่อน หน้าที่หลักๆ ของเขาคือ ดูแลเกมออนไลน์ที่บริษัทเปิดให้บริการ รวมไปถึงจัดการแข่งขัน E-sport ด้วย แต่แล้ววันหนึ่ง ระหว่างที่เขากำลังว่างอยู่ ก็ได้เปิดโทรศัพท์เลื่อนหานิยายอ่านเล่น จู่ๆ เขาก็เกิดความคิดอยากเอาประสบการณ์ที่ได้จากการทำงานมาลองแต่งนิยายดูบ้าง เลยลองเขียนนิยายเรื่องแรกดู และนับตั้งแต่นั้นมา… เขาก็ไม่เคยได้หยุดเขียนนิยายอีกเลย!

ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา แจ็คทำงานประจำควบคู่ไปกับการเขียนนิยายออนไลน์อย่างสม่ำเสมอ เขามีผลงานสุดฮิตได้แก่ ‘The Era Online: ย้อนอดีตกลับมาเป็นเทพ’ และ ‘ระบบร้านอาหารสามเวลาต่างโลก’ ที่มีจำนวนตอนรวมกันเกินกว่าหนึ่งพันตอน ทั้งยังเปิดขายนิยายออนไลน์จนมีรายได้มาเป็นเงินเก็บไว้ใช้จ่ายในครอบครัวยามฉุกเฉินอีกด้วย 

หากอยากรู้ว่าเส้นทางการเป็นนักเขียนของ แจ็ค นักเขียนหนุ่มผู้ลงมือเขียนนิยายมากว่าพันตอนนั้น ประสบความสำเร็จได้อย่างไร ระหว่างทางที่เขียนนิยายมา เขาเจออุปสรรคอะไรบ้าง และเขาแบ่งเวลาจากการทำงานประจำมาเขียนนิยายอย่างสม่ำเสมอได้อย่างไร มาค้นหาคำตอบไปพร้อมๆ กันเลย 

 

 * * * * * * *

ย้อนกลับไปในวัยเด็ก 
“การเขียนนิยาย” ไม่ใช่ความฝัน 

สวัสดีครับ ชาวเด็กดีทุกท่าน ผมชื่อแจ็ค หรือนามปากกา Writelazy อายุ 33 ปีครับ ตอนนี้มีผลงานมาแล้ว 2 เรื่อง ได้แก่ The Era Online: ย้อนอดีตกลับมาเป็นเทพ (จบแล้ว) และ ปัจจุบันกำลังแต่งเรื่อง ระบบร้านอาหารสามเวลาต่างโลก อยู่ครับ

ตอนนี้ผมทำงานประจำควบคู่ไปกับการแต่งนิยายครับ โดยงานประจำก็เป็นหัวหน้าไอทีของพนักงานบริษัทเกมออนไลน์แห่งหนึ่งในประเทศไทย หน้าที่หลักๆ ก็ดูแลเกมออนไลน์ที่เปิดให้บริการของทางบริษัท รวมไปถึงจัดการแข่งขัน E-sport ครับ

ผมแต่งนิยายมาได้ 4 ปีแล้วครับ จะบอกว่าการเขียนนิยายเป็นความฝันก็คงไม่เชิงครับ การเขียนนิยายเหมือนเป็นสิ่งที่ผมเคยทำไม่สำเร็จในตอนเด็กๆ จะเข้าท่ามากกว่า เพราะตอนเด็กๆ ผมเคยได้แต่งนิยายลงเว็ปบอร์ดอยู่ครั้งหนึ่งครับ แต่จุดเริ่มต้นที่ทำให้กลับมาเขียนนิยายอีกครั้งก็น่าจะประมาณกลางปี 62 

วันนั้นผมได้พาคุณแม่ไปหาหมอเพื่อตรวจสายตา ระหว่างที่นั่งรอคิวพบคุณหมอ ก็หานิยายอ่านไปเรื่อยๆ แล้วก็เกิดรู้สึกว่า ตัวเราเองก็เคยมีประสบการณ์ในเกมออนไลน์มาก็มาพอสมควรนะ ช่วงสมัยเรียนผมก็ได้มีโอกาสได้เจอกับเพื่อนที่เจอกันในเกมออนไลน์ ได้ตั้งกิลด์ในเกมออนไลน์ขึ้นมา ได้มีโอกาสพูดคุย พบปะกับเพื่อนในเกมออนไลน์ที่มีทั้งมิตรและศัตรูอยู่ตลอด ซึ่งแต่ละกิลด์ก็จะมีปัญหา และจุดแตกหักที่แตกต่างกันออกไป ผมจึงนำสิ่งเหล่านั้นมาเป็นประสบการณ์ในการเขียนนิยายเรื่อง The Era Online ย้อนอดีตกลับมาเป็นเทพ ซึ่งเป็นนิยายเรื่องแรกของผมครับ

10 ปีในวงการเกม E-sport กลายเป็นไอเดีย
สู่นิยายออนไลน์กว่า 1,000 ตอน 

ผมทำงานในบริษัทเกมมาแล้วเกือบ 10 ปี จึงค่อนข้างคลุกคลีอยู่กับคนในวงการเกมมาตลอด ซึ่งในนิยายเรื่องแรกของผม The Era Online ย้อนอดีตกลับมาเป็นเทพ ก็ได้มีเรื่องจริงของนักแข่ง E-sport ที่มีชื่อเสียงของไทยที่เคยเป็นไปแข่งขันที่ต่างประเทศและเรื่องราวจากตัวของผมเอง รวมอยู่ในนั้นเยอะมากทีเดียว แถมชื่อของตัวละครในนิยายก็มาจากชื่อของเพื่อนๆ เพื่อแสดงออกถึงความทรงจำที่ผมกับเพื่อนเคยมีร่วมกันครับ 

นอกจากนี้ ผมก็ได้ไอเดียกับแรงบันดาลใจมาจากทุกสิ่งรอบตัวเลยครับ เปิดคลิปวิดีโอที่มีชาวต่างชาติมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย ได้เห็นรีแอคชั่นและความสนอกสนใจของเขา ก็นำมาเป็นไอเดียได้แล้วครับ

อย่างนิยายเรื่องที่กำลังเขียนอยู่ตอนนี้ เรื่อง ‘ระบบร้านอาหารสามเวลาต่างโลก’ ผมเห็นว่ามีนิยายแนวทำอาหารอยู่ไม่ค่อยมาก และส่วนใหญ่แล้วก็มีแต่อาหารต่างชาติ จีน เกาหลี ยุโรป ผมจึงเกิดคำถามขึ้นมาครับว่า อาหารไทยของเราก็อร่อยไม่แพ้ประเทศอื่น ชาวต่างชาติเองก็ชื่นชอบอาหารไทยของเราจนติดอันดับโลก เห็นกันชัดๆ ก็คือ หากมีคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับอาหารไทยของเรา ยอดวิวในคลิปวิดีโอนั้นจะสูงกว่าคลิปอื่นๆ เป็นพิเศษ แล้วถ้าผมนำอาหารไทยไปอยู่ในต่างโลกเลยล่ะ มันจะเป็นยังไง แค่คิดผมก็สนุกแล้วครับ

ส่วนตัวผมพยายามแต่งนิยายให้ตัวเองรู้สึกสนุกครับ เพราะผมมองว่าหากเราแต่งแล้วรู้สึกสนุกไปกับมัน เดี๋ยวนิยายก็จะออกมาดีเอง 

นิยายเรื่องแรกที่ได้ไอเดียและแรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์ทำงาน
นิยายเรื่องแรกที่ได้ไอเดียและแรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์ทำงาน

How to ทำงานประจำ
ควบคู่การเป็นนักเขียนมือใหม่

ด้วยความที่ผมมีงานประจำอยู่แล้ว การแต่งนิยายจึงค่อนข้างไม่มีเวลาที่ตายตัวครับ อาศัยเวลาว่างจากงานในระหว่างวัน 10-15 นาที มาวางเค้าโครงในตอนนั้นๆ เอาไว้ก่อน พอกลับถึงบ้าน หลังจากออกกำลังกายเสร็จแล้ว ก็ค่อยมาแต่งนิยายครับ แต่งนิยายตอนร่างกายตื่นตัวหลังจากออกกำลังกาย ผมว่าหัวมันแล่นดีนะครับ 

สำหรับผมเวลาจะเขียนนิยาย ด้วยโครงเรื่องที่ค่อนข้างยาว ผมจะวางโครงไว้เป็นส่วนหลักเสมอ แน่นอนว่าโครงเรื่องต้องแข็งแรงครับ จะมีเพิ่มเติมหรือด้นสดเข้ามาบ้าง เพื่อเอาไว้สอดแทรกตามจุดต่างๆ แต่พยายามจะไม่ให้กระทบกับโครงเรื่องหลักที่วางเอาไว้ครับ

ตอนนี้ผมก็เขียนมาสองเรื่องแล้วครับ ถามว่ากลัวนักอ่านที่ติดตามจะหายไปไหม ก็กลัวอยู่แล้วครับ ด้วยความที่นิยายก่อนหน้านี้เป็นแนวเกมออนไลน์ ส่วนเรื่องใหม่คือแนวทำอาหาร ฉะนั้นนักอ่านที่เคยติดตามเราจากนิยายเรื่องก่อนย่อมต้องเปลี่ยนไปเป็นธรรมดาครับ แต่ที่ผมเลือกแต่งนิยายเรื่องระบบร้านอาหารสามเวลาต่างโลก ก็เพราะผมรู้สึกสนุกไปกับมันครับ 

ตอนแรกที่คิดนิยายเรื่องนี้ออก ในวันเดียวผมแต่งได้ 5 ตอนรวดเลยครับ ผมเชื่อว่าหากเราสนุกกับสิ่งที่เราชอบ เราจะทำมันได้นานครับ ส่วนตัวผมชื่นชอบแนวแฟนตาซีอยู่แล้ว เพราะว่าเราสนุกไปกับมันได้ง่าย นักอ่านเองก็น่าจะจินตนาการตามได้ง่ายเหมือนกัน 

นิยายเรื่องที่สองที่แต่งวันเดียวได้ 5 ตอนรวด
นิยายเรื่องที่สองที่แต่งวันเดียวได้ 5 ตอนรวด

การสนับสนุนจากนักอ่าน 
เป็นทั้งแรงใจและรายได้จุนเจือชีวิต

ผมเชื่อว่านักอ่านพร้อมที่จะสนับสนุนนักเขียนไม่ทางใดก็ทางหนึ่งอยู่แล้วครับ การขายนิยายจึงเป็นเหมือนทุนทรัพย์ให้นักเขียนต่อยอดนิยายให้เดินหน้าต่อไปได้ครับ

ตอนที่จะเปิดขายนิยาย ก็มีทั้งนักอ่านที่พร้อมจะสนับสนุน และนักอ่านที่อาจจะติดขัดในเรื่องนี้ปะปนกันไป ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผมเข้าใจได้ครับ คิดว่าคงพอจะมีนักอ่านมาสนับสนุนบ้าง แต่พอได้เห็นฟีดแบ็คจากนักอ่านในเว็บเด็กดีก็ทำให้ชื่นใจมากขึ้นเลยครับ มีไฟขึ้นเยอะเลย เพราะนอกเหนือจากนิยายที่ต้องซื้อเป็นแบบรายตอนแล้ว ยังมีนักอ่านที่น่ารักได้สนับสนุนผ่านช่องทางให้ของขวัญเป็นกำลังใจเพิ่มเติมให้อีกครับ

รายได้จากการขายนิยายเป็นแรงใจได้เยอะเลยครับ ผมนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงเก็บไว้ช่วยเหลือครอบครัวยามที่ทุกคนเดือดร้อนครับ

ตอนนี้เป้าหมายของผมบนเส้นทางนักเขียน ก็คงจะพยายามแต่งนิยายแนวอื่นๆ ที่เคยวางแผนไว้ให้ได้ครับ นอกเหนือจากการแต่งนิยายก็คงเป็นการต่อกันพลา และมีความสุขกับชีวิตในทุกวันๆ ก็เพียงพอแล้วครับ

การเขียนนิยาย
ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว 

ผมคิดว่าการเขียนนิยายไม่มีสูตรสำเร็จที่ตายตัวหรอกครับ มีก็แต่จินตนาการของทุกคนนี่แหละที่จะเป็นแรงผลักดันให้นิยายนั้นเกิดขึ้นได้ และเมื่อนั้นกำลังใจจากนักอ่านจะส่งถึงคุณเองครับ 

แล้วถ้าเกิดมีความคิดเห็นแย่ๆ เข้ามา ก็ลองไต่ตรองก่อนว่าเป็นความคิดเห็นที่ติเพื่อก่อ หรือระบายเพื่อความสะใจ หากเป็นอย่างหลัง ในฐานะที่ผมเองเคยผ่านช่วงเวลาที่ลำบากอย่างการเป็นโรควิตกกังวลมาแล้ว ขอแนะนำว่า ช่างมันครับ

สำหรับผมก็ไม่มีเคล็ดลับอะไรเลยครับ แต่ที่บอกได้คือ เราต้องมีความรับผิดชอบครับ รับผิดชอบต่อตัวเองและนักอ่าน ยิ่งเมื่อตัดสินใจที่จะหารายได้จากนิยายด้วยแล้ว ไม่ควรทิ้งนักอ่านไว้กลางทางครับ ก่อนที่เราจะมาเป็นนักเขียน ส่วนใหญ่ก็เคยเป็นนักอ่านกันมาก่อน ถ้าเราไม่ชอบที่นิยายถูกทิ้งไว้กลางคัน หายไปดื้อๆ เราก็อย่าทำแบบนั้นเลยครับ เราต้องมีความรับผิดชอบต่อนักอ่านของเราครับ 

สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจที่ทุกท่านมอบให้นะครับ ถึงผมจะเป็นนักเขียนที่พึ่งจะเข้ามาอยู่ในครอบครัวเว็บเด็กดีได้ไม่นาน แต่ผมก็รับรู้ได้ถึงความน่ารักของทุกท่าน ตรงที่ทุกท่าน พยายามเข้ามาโต้ตอบ และปกป้องผมเวลาเจอกับความคิดเห็นที่บั่นทอนจิตใจ

และขอฝากนิยายเรื่อง The Era Online ย้อนอดีตกลับมาเป็นเทพ และ ระบบร้านอาหารสามเวลาต่างโลก เอาไว้ด้วยนะครับ

หรือใครอยากจะพูดคุย ติดตามผมเพื่ออัปเดตข่าวสาร ก็ตามไปที่เพจ writelazy  ได้เลยครับ ขอบคุณครับ

“ไม่ว่าใครก็เป็นนักเขียนได้” ยังคงเป็นวลีที่อยากนำมาเล่าสู่กันฟังเสมอ เพราะทุกคนสามารถเป็นนักเขียนได้จริงๆ เพียงมีไอเดีย วินัย และใจรักในการเขียน  ก็สามารถก้าวเข้ามาเป็นนักเขียนได้ เหมือนเรื่องราวของนักเขียนหนุ่มในวันนี้ ที่มีเส้นทางนักเขียนคล้ายๆ กับใครหลายคน แต่สิ่งที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จได้นั้น คือ สิ่งที่เขาลงมือทำ ไม่ว่าจะเป็น

1. เริ่มต้นง่ายๆ จากเรื่องใกล้ตัว  เอาความชอบและประสบการณ์จากการทำงานมาเป็นไอเดียเขียนนิยาย

2. มีวินัย แบ่งเวลามาแต่งนิยายได้สม่ำเสมอ  แม้ว่าจะทำงานประจำ หรือมีเวลาว่างน้อย แต่ก็ไม่เคยละทิ้งการเขียนนิยาย

3. เปิดใจ รับมือกับคำวิจารณ์ที่อาจบั่นทอนจิตใจ เตรียมตัวเตรียมใจเจออุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นจากตัวนักเขียนเอง และนักอ่าน

4. มีความรับผิดชอบต่อตนเอง และนักอ่าน ไม่ทิ้งนิยายไปไหน แต่งให้จบ และมีความสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้ก็ได้ใจนักอ่านที่ติดตามแล้ว

ทั้งสี่ข้อนี้ ไม่ง่ายและก็ไม่ได้ยากเลยค่ะ แต่ต้องอาศัยการลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ และไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคบนเส้นทางนักเขียนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตเท่านั้นเอง หวังว่าเรื่องราวของ แจ็ค จะเป็นแรงบันดาลใจดีๆ ให้นักอยากเขียนทุกคน มีแรงใจไปต่อยอดนิยายของเรากันนะคะ แล้วเจอกันใหม่ค่ะ

เริ่มเขียนนิยาย

พี่แนนนี่เพน

อ่านผลงานนิยายของ Writelazy

 

พี่แนนนี่เพน
พี่แนนนี่เพน - Columnist สาวเหนือที่มีความสุขกับการเขียนนิยาย และเชื่อว่านิยายให้อะไรดีๆ กับสังคมเสมอ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด