CDGUNTEEE ศิลปินที่ชีวิตเต็มไปด้วยเรื่องพีคๆ และความตั้งใจในการทำเพลงบอกตัวตนสู่อัลบั้ม On My Way!

CDGUNTEEE ศิลปินที่เต็มไปด้วยเรื่องพีคๆ ในชีวิต กับอัลบั้ม On My Way! 

สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D วันนี้พี่ซาร่าภูมิใจนำเสนอสัมภาษณ์ ซีดี - กันต์ธีร์ ปิติธัญ หรือที่รู้จักกันดีในนาม CDGUNTEEE  มากๆ ค่ะ เพราะว่านอกจากจะเป็นคนมากความสามารถคนหนึ่งแล้ว เขายังให้ความสำคัญกับความฝันและมุ่งมั่นที่จะทำให้สำเร็จอีกด้วย นอกจากนั้นซีดียังเป็นอีกคนหนึ่งที่มีทัศนคติดีและมีมุมมองความคิดที่ไม่ธรรมดา แม้ว่าบางคนจะไม่เคยฟังเพลงหรือติดตามซีดีมาก่อน พี่ซาร่าก็อยากให้ลองอ่านสัมภาษณ์นี้แล้วไปฟังเพลงอัลบั้ม On My Way! กันดูค่ะ 

CDGUNTEEE ซีดี - กันต์ธีร์ ปิติธัญ กับอัลบั้ม OMW!
CDGUNTEEE ซีดี - กันต์ธีร์ ปิติธัญ กับอัลบั้ม OMW!

1. สมัย ม.ต้น ซีดีเป็นเด็กเกเรมาก เพราะการย้ายจากโรงเรียนขนาดเล็กไปเข้าโรงเรียนชายล้วนประจำจังหวัดทำให้รู้สึกว่า ความแข็งแกร่งจะทำให้อยู่รอดได้โดยไม่ถูกคนอื่นรังแก ที่คิดแบบนั้นเพราะตอนที่ย้ายเข้าไปใหม่ๆ เพื่อนเล่นกันแรงมาก เช่น อยู่ดีๆ มาจับอวัยวะเพศ ตอนนั้นก็โมโหมากแบบนี่มันอะไรกัน แต่ก็ใจเย็นแล้วรอครูออกไปและหาจังหวะไปเอาคืน สุดท้ายคู่กรณีก็กลายมาเป็นเพื่อนสนิทกันจนได้

2. จากที่คิดว่าแค่ทำตัวแข็งแกร่งเพื่อปกป้องตนเอง แต่พอเริ่มมีแก๊งก็เริ่มเกเรไปแกล้งคนอื่นเอาความสะใจแล้ว ทั้งพาเพื่อนโดดเรียน เล่นเกม เริ่มไม่ตั้งใจเรียน ตามแบบเด็กเกเรทั่วไป ซึ่งพี่ซีดีบอกว่าภายหลังก็ได้เรียนรู้ว่ามันไม่ดีเลย น้องๆ อย่าเลียนแบบนะ

3. จุดพีคคือตอน ม.3 มีเรื่องหนักมากจนคิดว่าต้องลุยเอาคืนให้ถึงที่สุดตามประสาวัยรุ่นใจร้อน แต่วันหนึ่งครอบครัวได้มานั่งคุยกันแล้วร้องไห้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วขอให้ซีดีเริ่มต้นใหม่ได้ไหม ซีดีจึงตัดสินใจไปเรียนต่อที่โรงเรียนทิวไผ่งามจนจบ ม.6 

4. จากนั้นก็บอกลาจังหวัดอยุธยาบ้านเกิดไป กลายเป็นเด็กโรงเรียนประจำตอน ม.4 ที่ทิวไผ่งาม เริ่มต้นชีวิตใหม่ ได้มีโอกาสเรียนร้องเพลงกับครูพีท แล้วครูพีทให้ลองอัดคลิปไปเป็นศิลปินฝึกหัดของแกรมมี่ในรายการ G Junior ที่ต้องแลกกับการตื่นตีสี่เพื่อไปโรงเรียนประจำ ซีดีจึงขอที่บ้านดรอปเรียนแล้วไปทุ่มเทกับการเป็นศิลปินฝึกหัดก่อน เพราะทุกเย็นจะมีเทรนด์ เรียนเต้น เรียนร้องเพลง ที่บ้านก็เห็นความตั้งใจของซีดีเลยตกลงตามนั้น

5. แม้ช่วงนั้นจะไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คิด แต่ในเมื่อซีดีขออนุญาตที่บ้านมาแล้ว จึงคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่าง เลยไปเป็นแดนเซอร์ตั้งแต่อายุ 16 ปี งานใหญ่ตอนนั้นคือเต้นให้คอนเสิร์ต HORMONES DAY & NIGHT จากนั้นก็ลองไปประกวด AF10 ที่ไม่ได้ทำไปแค่ขำๆ แต่มีโอกาสได้เข้าบ้าน AF ได้ซ้อมเต้น ได้ขึ้นอิมแพคเลยด้วย

6. ยังไม่พอ ออกจากบ้าน AF ก็ไปสมัครรายการ The Star 10 ต่อ โดยซีดีเลือกไปสมัครที่ภาคใต้ จนติด 8 คนสุดท้าย แล้วประกวดได้รางวัลที่ 3 มาครอง (ใครทันตอนนั้นบ้าง) จากนั้นก็เริ่มเข้ามาทำงานในวงการบันเทิงจริงจัง

7. ตอนนั้นซีดีได้ทำหลายอย่างมาก ทั้งร้องเพลง เล่นละคร เรียกว่าเป็นช่วงหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ แต่ลึกๆ ซีดีก็คิดเสมอว่าแพสชันหนึ่งที่ยังอยู่เสมอมาคือการร้องเพลงฮิปฮอป อยากมีเพลงเป็นของตัวเอง ตอนนั้นรู้สึกว่าเพลงที่ทำกับค่ายยังไม่เป็นตัวตนของซีดีมากพอ จึงขอออกมาทำเพลงเองและเริ่มเปิดช่องยูทูบ

8. จากเด็กคนหนึ่งที่เคยเห็นพี่ชิน พี่โต้งมาร้องเพลง แล้วรู้สึกว่าอยากเป็นศิลปินคนหนึ่งที่มีคุณภาพ ทำผลงานเพลงดีๆ ออกมา เป็นความฝันเดียวที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพลงหรือผลงานนั้นจะพาซีดีไปถึงไหน แต่ก็ตั้งใจว่าจะทำให้ดีที่สุด โดยช่วงที่ทำเพลงอิสระนั้นยากมาก ต้องทำทุกอย่างเอง แต่กำลังไฟแรงและได้เรียนรู้หลายอย่างมากๆ

9. ช่วงที่ทำช่องยูทูบได้ลองทำเพลงกับดาวุธแบบไม่รู้เรื่องอะไรเลย จนกระทั่งมีรายการ The Rapper มาพอดี จึงไปสมัคร ทำให้คนได้เห็นว่าซีดีชอบแร็ปมาก พอจบรายการก็ออกมาทำเพลงกับเพื่อนต่อ จนมีเพลงไมโครโฟน เพลงกึ๊มกึ่ม ทำให้ชีวิตเปลี่ยน เริ่มมีทัวร์ต่างจังหวัด มีคอนเสิร์ตตามร้านอาหาร บอกเลยว่าช่วงนั้นชีวิตดีมากกกก

10. แล้วชีวิตก็พีคอีกครั้ง! ตอนที่ซีดีไปเกณฑ์ทหารแล้วจับได้ใบแดง!!! ทำให้ต้องไปเป็นทหารเกณฑ์ 2 ปี ซึ่งมีทั้งเรื่องดีและไม่ดี แต่เมื่อเลือกไม่ได้แล้วก็พยายามดึงแต่เรื่องดีๆ ออกมา และที่สำคัญคือซีดีบอกว่าได้เรียนรู้อะไรมากมายเลยล่ะ

11. ยกตัวอย่าง ซีดีบอกว่าได้เรียนรู้ว่า “การที่เราไม่ได้ทำในสิ่งที่เรารักนั้นมันรู้สึกยังไง และมันทำให้เห็นคุณค่าของความฝันมากขึ้น” เช่น ตอนที่ยืนเข้าเวรอยู่หน้าคลังอาวุธก็คิดว่า “ทำไมต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วย” แต่ในเมื่อชีวิตมันเลือกไม่ได้ เหมือนคนอื่นๆ ที่ทำหน้าที่อยู่ เช่น คนเก็บขยะ นี่อาจไม่ใช่สิ่งที่เขาชอบก็ได้ แต่เขาก็ต้องทำเพื่อให้ชีวิตอยู่รอด ทำให้หลังจากสิ้นสุดการเป็นทหารแล้ว ซีดีออกมาทำสิ่งที่ชอบอย่างเต็มที่มากๆ เพราะรู้สึกว่า เรายังโชคดีที่มีโอกาสได้ทำสิ่งที่เรารัก 

12. ซีดีเล่าให้ฟังว่าตอนเป็นทหารต้องตื่นตี 5 มาวิ่งและฝึก ช่วง 3 เดือนแรกเป็นช่วงฝึกจากพลเรือนให้เป็นทหารก่อนขึ้นกองร้อย เช่น การเดิน การถือปืน ต้องถูกทำโทษหากไม่มีความสามัคคี ต้องอาบน้ำรวม เดินสวนสนาม เข้าแถวตอนร้อน ฯลฯ ทุกอย่างเหมือนกับคนอื่นๆ ที่เข้ากรมมาเลย

13. สิ่งหนึ่งที่ซีดีได้มาจากการเป็นทหารคือการได้เรียนรู้คนที่เข้ามาในชีวิต ที่คิดว่าถ้าไม่ได้มาเป็นทหารคงไม่ได้เจอเพื่อนใหม่และประสบการณ์ใหม่ๆ แบบนี้เลย เช่น เพื่อนสนิทคนหนึ่งที่เคยติดคุกมา 2 ปี แล้วเขาก็เล่าประสบการณ์ในนั้นให้ฟังซึ่งหลายๆ เรื่องมันพีคมาก หรืออย่างคนที่เกเรมากๆ คนที่เคยทำอะไรหนักๆ ในชีวิตมาก่อน ทำให้ได้รู้จักชีวิตคนหลากหลายมากขึ้น และมันทำให้ซีดีตระหนักว่าทุกคนก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน และเราก็เป็นเพื่อนกันได้

14. อีกเรื่องคือการที่ซีดีเข้าวงการบันเทิงมาตั้งแต่อายุ 16 ปี ความอายุน้อยทำให้ได้รับการเอาใจใส่ดูแลอย่างเอ็นดูจากผู้อื่น แต่สำหรับที่นี่ตรงข้ามกันเลย ทุกอย่างต้องทำด้วยตนเองทั้งหมด ทำให้ลบอีโก้ที่เคยมีมาไปหมดเลย หากใครมองว่าการเป็นศิลปินจะได้รับสิทธิพิเศษล่ะก็ ซีดีบอกเลยว่าไม่ใช่ ทุกคนที่นี่เท่าเทียมกันหมด

15. หลังจากออกจากกรมทหารซีดีบอกว่าค่อนข้างเคว้งคว้างเพราะไม่รู้ว่าจะต้องออกมาทำอะไรบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นก็จะสานต่อความฝันก่อนจับได้ใบแดงให้เต็มที่ สุดท้ายก็ถือว่าโชคดีมากๆ ที่ได้ทำเพลงพระเอกลิเกโดยมีแบงค์ ศรราม มาช่วย และมีคนเข้ามาซัปพอร์ตเรื่อยๆ แม้จะไม่ใช่ทุกเพลงที่ประสบความสำเร็จ แต่ก็เป็นสิ่งที่ดีมากๆ

16. แม้ซีดีตั้งใจว่าจะเป็นศิลปินอิสระและทำเพลงตามแนวทางของตนเองโดยไม่เซ็นสัญญากับใครอีกตลอดไป แต่เมื่อโปรดิวเซอร์ที่คุ้นเคยจากการทำงานด้วยกันมานานยื่นข้อเสนอของค่ายโซนี่ให้ โดยเป็นข้อตกลงที่น่าสนใจจึงตัดสินใจลองดู

17. การที่ซีดีไปเป็นทหาร 2 ปีก็ทำให้รู้ว่ากลับมาครั้งนี้ยังมีคนรอร่วมงานด้วย รวมทั้งแฟนๆ ที่ยังติดตามผลงานและคอยเป็นกำลังใจให้ซีดีอยู่เสมอ การได้เห็นคนที่ดูมาโชว์ร้องเพลงและสนุกไปกับโชว์ของซีดี ทำให้ซีดีรู้สึกขอบคุณทุกคนและบอกตัวเองว่าต้องตั้งใจทำงานมากกว่าเดิมอีก และถึงแม้จะไม่มีคนรอเลยซีดีก็จะตั้งใจทำอยู่ดี เพราะนี่คือสิ่งที่รักมาก

18. ตอนนี้ซีดีมีผลงานอัลบั้ม On My Way! กับค่ายโซนี่ ซีดีบอกว่าเบื้องหลังทั้งเครียด เหนื่อย และกดดัน โดยใช้เวลาไปประมาณ 6-7 เดือน แต่พอผ่านช่วงนั้นมาได้จนทำเสร็จทั้ง 10 เพลงแล้ว ซีดีบอกว่ารู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อยทุกอย่างที่อยากทำออกไปอย่างเต็มที่แล้ว ทำให้ภูมิใจกับอัลบั้มนี้มาก (อย่าลืมไปฟังกันล่ะทุกคน)

19. ความพิเศษของอัลบั้มนี้คือเป็นอัลบั้มที่ซีดีทำเดี่ยวคนเดียว ไม่มี feat. กับใคร แต่ละเพลงเป็นเพลงที่มาจากตัวตนของซีดีหมดเลย ทั้งเนื้อหาและแง่มุมในเพลงที่ได้ลบกรอบความคิดเดิมของตัวเอง และได้ทำทุกกอย่างที่อยากจะทำ เช่น เพลงนิสัยไม่ดีที่เป็นเพลงช้า เพลงแร็ปอย่าง HOP OUT เพลงสนุกๆ อย่างเพลงพอประมาณ หรือเพลงโรคจิตร หรือเพลงที่ได้เต้นด้วยอย่าง Butterfly เป็นต้น อยากให้ทุกคนลองฟังกันดู 

20. ตอนงานเปิดอัลบั้มเรียกได้ว่าทำให้ซีดีใจฟูสุดๆ เพราะคนมาเยอะมาก ซีดีได้เห็นฟีดแบ็กจากคนดู ได้เจอคนที่ติดตามกันมานานมาก ได้รับคำชมจากคนที่เคยร่วมงานกันมา อีกอย่างที่สำคัญคือซีดีบอกว่ามีทีมงานที่เฟี้ยวมากที่ช่วยเก็บทุกความรู้สึกให้ซีดีได้รับรู้ ทำให้มีความสุขกับงานนี้มากๆ 

21. กว่าจะมาถึงวันนี้มีอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้นั่นคือ “ครอบครัว” ซีดีบอกว่า ครอบครัวเป็น Suporter ของแท้ เพราะตั้งแต่เด็กๆ เขาจะเชื่อมั่นในตัวซีดีเสมอ และให้โอกาสซีดีได้ทำในสิ่งที่เชื่อมั่น ทั้งสนับสนุนและดูแลเสมอมาทุกๆ โอกาสและทุกสิ่งที่ทำได้เลย 

22. สุดท้ายนี้ซีดีบอกว่า “ยังมีอีกหลายอย่างที่อยากทำ อยากให้แฟนๆ รอติดตามกันต่อไป แล้วก็ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่คอยส่งพลังมาให้ ซีดีได้ดูดซับพลังเหล่านั้นมาใช้ชีวิตเช่นกัน ทำให้รู้ว่าทุกวันที่ตื่นขึ้นมาจะทำอะไร ตอนนี้ก็อย่าลืมติดตามผลงานอัลบั้ม On My Way! และอยากให้ทุกคนฟีดแบ็กกลับมาให้ซีดีด้วย เพราะมันมีค่าต่อสิ่งที่ซีดีตั้งใจทำมากๆ ครับ” 

CDGUNTEEE  อัลบั้ม OMW!! 

YouTube : @CDGuntee 

IG: @GUNTEEE 

Twitter: @Guntee_pitithan

Official Fanpage: @gunteeofficial 

พี่ซาร่า
พี่ซาร่า - Columnist คอลัมนิสต์ประจำคอลัมน์ Lifestyle

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น