"Toxic friendship" ไขข้อสงสัย อะไรคือเพื่อนรักเพื่อนร้ายสไตล์ Pick me girl

เพื่อนรักเพื่อนร้ายสไตล์ Pick me girl  คืออะไรนะ?

         สวัสดีค่ะ! น้องๆ ชาว Dek-D.Com ทุกคน วันนี้พี่เมลจะมาชวนทุกคนอ่านไปตาลุกเป็นไฟไปด้วยกัน เพราะประเด็นที่จะยกมาชวนคุยกันในวันนี้คือเรื่องเกี่ยวกับ “เพื่อน” หรือคนใกล้ตัวที่เป็น Toxic relationship กำยาดมไว้ให้แน่นแล้วเราไปอ่านพร้อมๆ กันเลยค่ะ

คำว่าเพื่อนสำหรับน้องๆ ชาว Dek-D.Com  หมายถึงอะไรกันคะ? 

สำหรับพี่เมลแล้ว พี่มองว่าการที่เราจะเรียกใครคนนึงว่าเพื่อน อย่างแรกเราต้องรู้จักกันก่อน หลังจากนั้นต้องคุยกันบ่อยๆ โดยอาจจะใช้เวลา 2-3 เดือนขึ้นไป ซึ่งกว่าที่เราจะดำเนินความสัมพันธ์กับคนคนหนึ่งไปจนถึงขั้นสนิทใจกันขนาดนั้นแล้ว แสดงว่าเราก็ผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะมากพอสมควร ต้องรัก และไว้ใจมากๆ แต่จะเกิดอะไรขึ้น? ถ้าอยู่ๆ คนที่เราเรียกว่าเพื่อนกลับมา Toxic ใส่เรา หรือเราเผลอไป Toxic ใส่เพื่อน จนรู้อีกทีก็ถูกเรียกว่าเป็น  “Pick me girl” ไปซะแล้ว

 Pick me girl คืออะไร ?

ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนคำว่า Pick me girl ดูไม่ค่อยจะเป็นที่สนใจของใครนัก แต่สิ่งที่ทำให้คำนี้ถูกดึงกลับมาพูดถึงกันอย่างแพร่หลายอีกครั้ง ก็มาจากแอปพลิเคชันที่ชื่อว่า TikTok ซึ่งเป็นแอปสร้างความบันเทิงที่กำลังฮิตติดเทรนด์ที่สุดในปัจจุบัน โดยคลิปที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ Pick me girl เป็นเทรนด์ในต่างประเทศอยู่ช่วงหนึ่งเพราะมี TikTokers ชาวต่างชาติทำคลิปล้อเลียนพฤติกรรมของสาวๆ Pick me girl ในสไตล์ตลกขำขันปนเสียดสีจนเป็นไวรัลและมี TikTokers คนอื่นๆ แห่ทำตามกันมากมายจนคำว่า Pick me girl  ถูกนำมาใช้ในวงกว้างมากขึ้น

 ซึ่งคำว่า Pick me girl ไม่ใช่คำที่พึ่งเกิดขึ้นมาใหม่ในปัจจุบันแต่อย่างใด หากแต่จริงๆ แล้วคำนี้มีวิวัฒนาการมาจากคำ ‘Cool girl’   ซึ่งมีความหมายเหมือนกันนั่นก็คือ คำที่ใช้เรียกผู้หญิงที่สนใจและพยายามทำให้ตนเองเป็นที่ประทับใจของเพศตรงข้าม  ซึ่งสาวๆ เหล่านี้มักจะแสดงให้ฝ่ายตรงข้ามเห็นถึงความโดดเด่น ความน่ารักน่าทะนุถนอม และความแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ ซึ่งฟังแล้วก็ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร แต่จุดพีคที่ทำให้เกิดความแตกแยกของสาว Pick me girl กับเพื่อนๆ ของเธอเกิดขึ้นมาจาก

1.เป็นสาวช่างพูด 

โดยมาก Pick me girl มักจะเป็นคนชอบพูด แต่เรื่องที่พูดมักจะเป็นการว่าร้ายหรือหยิบจุดด้อยของเพื่อนผู้หญิงคนอื่นๆ มาดูถูกหรือพูดให้ด้อยกว่าเธอ โดยเฉพาะต่อหน้าหนุ่มๆ ที่เธอสนใจ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าน้องๆ ชาว Dek-D.Com โดนเพื่อนทำขนาดนี้ถึงจะใจดีเป็นแม่พระขนาดไหน ก็ต้องคงจะแอบโกรธอยู่บ้างเหมือนกันแหละ

2.มักเป็นจุดความสนใจ 

คำว่า “จุดสนใจ” ในที่นี้ พี่เมลไม่ได้หมายถึงทุกคนจะเป็น Pick me girl ไปซะหมดนะคะ เพราะถ้าการเป็นจุดสนใจของเราเกิดจากความตั้งใจและพยายามให้ตัวเองดีขึ้น โดยไม่ได้พาดพิงหรือเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ก็จะไม่ใช่ Pick me girl แต่เมื่อไหร่ที่การเป็นจุดสนใจของเราต้องเกิดจากการพยายามทำตัวเองให้ดูโดดเด่นหรือพยายามกดคนอื่นให้ดูด้อยกว่าเรา เช่น เมื่อเห็นเพื่อนมีความสามารถมากกว่า เราก็จะพยายามทำให้คนอื่นเห็นว่าเราก็ทำได้เหมือนกัน หรือทำได้ดีกว่าเพื่อนด้วยซ้ำนั่นแหละที่แปลว่าเรากำลังเข้าโซน Pick me girl แล้ว

3.การวิจารณ์เรื่องคลาสสิคของผู้หญิงว่าเป็นเรื่องน่าเบื่อ 

การเลือกที่จะชอบทำ หรือไม่ชอบทำอะไรเป็นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลก็จริง แต่ว่าสำหรับสาว Pick me girl แล้ว เธอมักจะชอบวิจารณ์พฤติกรรมที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ทำประจำว่าเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ หรือไม่น่าสนใจ เช่น การแต่งหน้า, แต่งตัว, การชอปปิง เป็นต้น และมักจะแสดงถึงความเบื่ออย่างที่สุดเมื่อต้องมานั่งร่วมวงสนทนากับผู้หญิงด้วยกัน แต่ Pick me girl ส่วนใหญ่จะชอบทำกิจกรรมที่เฮ ๆ ลุย ๆ เหมือนผู้ชาย เพื่อให้ถูกห้อมล้อมและให้คนที่เธอชอบประทับใจในตัวเธอมากขึ้น

ในทางกลับกันโลกนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ Pick me girl แต่ TikTokers ผู้ชายบางคนก็ออกมาทำคลิป Pick me boy ด้วยเหมือนกัน โดยพวกเขาได้อธิบายว่า Pick me boy ก็คือผู้ชายที่พยายามสร้างความประทับใจให้ผู้หญิงที่พวกเขาชอบ โดยมักจะเข้ามาในรูปแบบที่เป็น Feminist guy หรือ Nice guy อธิบายง่ายๆ ก็คือผู้ชายที่ชอบตามใจ หรือบางครั้งก็แสร้งว่าชอบอะไรเหมือนกับผู้หญิง และพยายามทำให้ตัวเองดูโดดเด่นกว่าผู้ชายทั่วไปเช่นเดียวกับ Pick me girl 

ดังนั้น Pick me girl หรือ Pick me boy จึงแสดงให้เห็นถึงความต้องการในการสานต่อความสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามที่ค่อนข้างรุนแรง เหมือนกับการกรีดร้องออกมาดังๆ ว่า “Pick me!” หรือ “เลือกฉันสิ!” 

มีเพื่อนแบบนี้รับมือแบบไหน ?

จริงๆ เพื่อนที่มีลักษณะของ Pick me girl หรือ Pick me boy ก็ไม่ได้รับมือยากอะไรมากมายขนาดนั้นเพราะพวกเขาก็เป็นเหมือนเพื่อนๆ ปกติ พี่เมลจึงรวบรวมวิธีการรับมือกับเพื่อนที่เป็น Pick me girl หรือ Pick me boy เบื้องต้นเอาไว้ ให้น้องๆ ชาว Dek-D.Com ได้อ่านแล้วเอาไปปรับใช้กัน ใช้ได้หรือไม่ได้ยังไงเอามาแชร์ให้พี่เมลฟังด้วยก็ได้นะคะ

• พยายามชวนคุยประเด็นอื่น : การชวนคุยเบี่ยงประเด็นเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ในกรณีที่เราไม่ต้องการให้เพื่อพูดเรื่องแย่ๆ ของเราต่อ แต่ก็ไม่อยากพูดตรงๆ ให้เกิดการทะเลาะกัน
• บอกตรงๆ : บางทีสาวๆ ที่มีลักษณะเหมือน Pick me girl บางคนก็อาจจะไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังทำพฤติกรรม Toxic ใส่เราอยู่เพราะฉะนั้น บางทีการรับมือกับเพื่อนที่เป็น Pick me girl คือให้ลองหาจังหวะบอกเขาไปตรงๆ เลยว่าเราไม่ชอบพฤติกรรมแบบนี้ของเธอเลย เรารู้สึกไม่ดี เปลี่ยนได้มั้ย หรือ พยายามโน้มน้าวให้เพื่อนค่อยๆ เปลี่ยนพฤติกรรมไปทีละนิด
• ค่อยๆ Fade ตัวออกมา : ถ้าน้องๆ ชาว Dek-D.Com ลองคุยกับเพื่อนแล้วแต่เขาก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงตัวเองเลย พี่เมลก็อยากให้น้องๆ ลองถอยออกมานะ บางทีการที่เราไม่อยู่ตรงนั้นนอกจากจะช่วยให้สบายใจขึ้นแล้ว ก็อาจจะทำให้เพื่อนของเราได้ทบทวนกับตัวเองมากขึ้นด้วย ว่าทำอะไรผิดไปและอาจจะช่วยให้เพื่อนกลับตัวได้ด้วย

 แล้วเราเป็น Pick me girl รึเปล่า?

เป็นเรื่องยากมากที่เราจะสามารถรู้ได้ว่าตัวเองมีลักษณะของ Pick me girl รึเปล่า เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเผลอทำตัว Toxic แบบ Pick me girl ใส่เพื่อนไปตอนไหนบ้าง เพราะงั้นวิธีการง่ายๆถ้าเราอยากรู้ว่าเราเป็น Pick me girl หรือไม่ ก็ลองถามเพื่อนไปตรงๆ เพราะถ้าเราเผลอทำตัวไม่ดีใส่เขาไปก็จะได้ถือโอกาสปรับความเข้าใจกันไปด้วยเลย

แต่ถ้าเรากลัว และไม่กล้าถามเพื่อนเพราะรู้สึกผิดที่อาจจะเผลอทำร้ายเพื่อนที่เรารักไป ก็ไม่ต้องห่วงเพราะพี่เมลเห็นว่าในโลกออนไลน์ มีการตั้งคำถามเชิงจิตวิทยาเพื่อให้เราสามารถไปทดลองทำ  Quiz สั้นๆ ที่จะสามารถเช็กได้คร่าวๆ ว่าแท้จริงแล้วเราเป็น Pick me girl หรือเปล่า ให้น้องๆ ชาว Dek-D.Com ที่อยากรู้แต่ไม่อยากถามลองไปเล่นดูได้ค่ะ

สุดท้ายแล้วเรื่องทั้งหมดที่ได้อ่านกันมาจนถึงตอนนี้ พี่เมลก็ไม่ได้หมายความว่าการเป็น Pick me girl เป็นเรื่องแย่หรือควรถูกทอดทิ้งนะคะ เพราะจริงๆ แล้วทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะชอบหรือไม่ชอบอะไรก็ได้ ตราบใดที่ไม่ได้ไปทำให้คนอื่นเดือดร้อน  อีกอย่างพี่เมลคิดว่าเมื่อเราเป็นเพื่อนกันแล้ว ถ้าเพื่อนทำผิดเราก็ควรเตือนและพยายามพูดคุยปรับความเข้าใจกันดีกว่า อะไรที่ไม่ชอบก็ควรพูดคุยกันตรงๆ แบบไม่ใช้อารมณ์ และถ้ารู้ตัวแล้วว่าสิ่งที่เราทำลงไปมันมีความผิด หรือทำให้เพื่อนไม่สบายใจจริงๆ ก็ขอโทษแล้วค่อยๆ ปรับตัวกันไป สุดท้ายนี้พี่เมลอยากให้น้องๆ ชาว Dek-D.Com ให้โอกาสเพื่อนได้ทบทวนและปรับตัวกันซักนิดนึง เนาะๆ