"พีค ภัทรศยา" จากนักร้องเสียงพีค สู่ศิลปินเสียงเพราะ! กับผลงานเพลง "PEAKSayaa! - คีย์ใจ (Heart Key)"

พีค ภัทรศยา กับผลงานเพลง PEAKSayaa! - คีย์ใจ

 

สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ที่ชอบร้องเพลงหรือกำลังพยายามฝึกทำอะไรสักอย่างอยู่ วันนี้พี่ซาร่าจะพาไปพูดคุยกับพี่สาวคนสวย “พีค - ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ” ที่น้องๆ อาจคุ้นหน้ากันดีจากผลงานการแสดงมากมาย รวมถึงการร้องเพลงหลบลิขสิทธิ์แบบพี่พีค ที่ก่อนนี้มีคลิปแชร์พี่พีคร้องเพลงแชร์กันทั่วโซเชียลมีเดีย ทำให้เราได้รู้ว่าพี่พีคชอบร้องเพลงมากๆ มากจนไปซุ่มเรียนร้องเพลงมาแล้ว และล่าสุดตอนนี้ก็ได้เป็นศิลปินสมใจ แถมยังร้องเพลงเพราะกว่าเดิมมากๆ ด้วย 

มาฟังจากพี่พีคกันเลยว่า ทำไมได้มาเป็นนักร้อง แล้วพี่พีคทำไมร้องเพลงเพราะขึ้นมากๆ หรือหากใครยังไม่ได้ฟังเพลงคีย์ใจ ลองไปฟังกันก่อนแล้วค่อยมาอ่านสัมภาษณ์ก็ได้จ้า จะได้รู้ว่าเพลงเค้าเริ่ดมากค่ะซิส :) 

1. พี่พีคบอกว่า ชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ชอบมากกว่าการแสดงอีก แต่มีโอกาสได้เป็นนักแสดงก่อน และสำหรับ “เพลงคีย์ใจ” ก็เป็นเหมือนตัวแทนพี่พีค ทั้งเนื้อเพลง ดนตรี การร้อง ค่อนข้างเป็นพี่พีคจริงๆ เลย

2. พี่พีคบอกว่า “ตอนที่มีคนแซวว่าร้องเพลงหลบลิขสิทธิ์” พี่พี่ชอบมาก รู้สึกว่าคนขำก็ชอบ เพราะอย่างน้อยก็สร้างความสุขให้เค้าได้ ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นการบูลลี่อะไร รู้สึกว่าเป็นความชอบใจมากกว่า

3. เหมือนตอนที่ไปถ่ายรายการ ทำคอนเทนต์ให้ พี่โอ๊ต ปราโมทย์ สอนร้องเพลง ตอนนั้นทั้งแกงตัวเองและแกงพี่โอ๊ต มีแต่คนเข้ามาขำ พี่พีคก็ชอบอะไรแบบนั้นแหละ เพราะคอมเมนต์ตลกๆ เยอะมาก เช่น ร้องเพลงยิ้มแต่สู้ชีวิตมาก คนร้องสู้ชีวิตแล้วแต่คนฟังสู้ชีวิตมากกว่า พี่พีคบอกว่า “ตลกดี”

4. พี่พีคอยากร้องเพลงอยากทำเพลงอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมายังไม่มีโอกาส พอมีโอกาสได้ร้องเพลงก็ร้องในแบบของตัวเองมาตลอด ซึ่งคนอื่นอาจจะฟังยาก จนกระทั่งค่าย LOVEiS ให้โอกาสมา จากที่เคยได้ร้องเพลงคนอื่น ตอนนี้ก็มีโอกาสได้ร้องเพลงของตัวเองแล้ว (ยิ้ม)

5. พี่พีคบอกว่าตกใจมากตอนพี่จี๊บ LOVEiS มาชวนทำเพลง คือทุกอย่างค่อนข้างเร็ว โดยก่อนนัดเข้ามาคุยกันก็มีคุยๆ กับพี่จี๊บแล้วว่าอยากทำเพลงแนวไหนยังไง พี่จี๊บให้พี่พีคคิดมาได้เลย แล้วพอได้เจอกันจริงๆ มาจนถึงวันปล่อยเพลง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 6 เดือน กว่าจะมาเป็น “คีย์ใจ” มันอาจจะไกลจากสิ่งที่พี่พีคคิดไว้เยอะมากแต่ก็ยังเป็นโจทย์เดียวกันอยู่ 

6. พี่พีคบอกว่า ที่เคยได้ยินพี่พีคร้องเพลงก่อนหน้านี้ นั่นคือเคยไปเรียนร้องเพลงมาแล้วนะ แต่มันไม่เข้าใจ มันยาก ตอนนั้นรู้สึกว่าถ้าร้องตามปกติแบบที่ร้องเน้นอินเนอร์มันสนุกกว่า แต่พอมีโอกาสได้มาทำเพลง พี่พีคบอกว่า “ต้องทำได้ จะยากยังไงก็ต้องทำได้ เพราะโอกาสมาแล้ว” รอบนี้พี่พีคเลยตั้งใจมากๆ ได้เรียนร้องเพลงเพิ่มและรู้สึกเข้าใจมากขึ้น สนุกจนอยากเรียนไปเรื่อยๆ เพราะพอเข้าใจแล้วก็มีกำลังใจและพัฒนาขึ้นอีก 

7. จากเดิมพี่พีคขยันร้องเพลงจริง แต่ไม่ได้ร้องแบบถูกต้อง พอมีโอกาสได้ทำเพลงแล้วก็ต้องร้องให้ดีขึ้น จะไปร้องแบบเดิมก็สงสารคนฟังเพลง จะฟังได้ไม่จบเพลง ฟังได้ไม่บ่อย ซึ่งพอไปเรียนร้องเพลงแล้วออกเสียงได้ดีขึ้น ก็น่าจะทำให้คนฟังเพลิดเพลินไปกับเสียงพี่พีคได้มากกว่าที่ผ่านมา

8. ปัญหาการร้องเพลงของพี่พีคคือ “ฟังไม่เป็น” พี่พีคบอกว่าต้องหัดฟัง เริ่มเข้าใจคีย์ เริ่มได้ยินเสียงตัวเอง ก่อนนั้นร้องส่งไปอย่างเดียวตามฟีลลิ่ง ตามอินเนอร์ แต่ไม่ได้ฟังเสียงตัวเองเลย พอฟังเป็นและได้ฟังเสียงตัวเองก็รู้วิธีการออกเสียงมากขึ้น เสียงมันไม่ได้พุ่งไปข้างหน้าอย่างเดียว มันมีการออกเสียงหลายโทน ก็รู้วิธีการออกเสียงที่ถูกจากที่ครูสอนมา เลยทำให้มีเสียงที่ดีขึ้นด้วย

9. พี่พีคบอกว่า ตอนได้ฟังเพลง “คีย์ใจ” ครั้งแรก รู้สึกชอบมาก และรู้สึกว่าทำดีที่สุดแล้ว ตั้งใจทุกขั้นตอน อยากให้คนมาฟังเพลงของเราเร็วๆ ตอนนั้นที่ทำเสร็จ อยากให้คนชอบเหมือนอย่างที่พี่พีคชอบ ใครได้ฟังแล้วชอบไหมยังไงมาบอกพี่พีคกันด้วยนะ ส่วนซิงเกิลต่อไปพี่พีคบอกว่ามีแพลนแล้ว จะได้ฟังกันเมื่อไรยังไง รอติดตามได้เลยจ้า

10. ถึงจะขึ้นแท่นเป็นศิลปินแล้วในตอนนี้ แต่งานแสดงพี่พีคก็ยังไม่ทิ้งนะ ล่าสุดเพิ่งปิดกล้องเรื่อง “แม่สื่อโลโซ” ของช่องเวิร์กพอยท์ น่าจะได้ออนแอร์ปีหน้า แล้วก็ยังมีซีรีส์ที่พี่พีคยังบอกรายละเอียดไม่ได้ แล้วก็มีเปิดกล้องละครอีกเรื่องประมาณเดือนพฤศจิกายนนี้ พร้อมกับทำเพลงไปด้วย พี่พีคบอกว่า “ใครมีงานอะไรจ้างได้ค่ะ ติดต่อมาที่ LOVEiS ได้เลย”

11. ถ้าถามว่าตอนนี้พี่พีคสนุกและชอบงานไหนมากสุด พี่พีคบอกว่า อยากทำที่สุดคือนักร้อง สิ่งที่รักคืองานแสดง แต่ถ้าถามว่าทำอะไรได้อีกคงเป็นงานพิธีกร พี่พีคบอกว่าพี่พีคเป็นคนพูดเก่ง และจากที่เคยมีโอกาสได้ทำงานพิธีกรมาก่อนนี้ ทำให้พูดเป็นมากขึ้น และตั้งแต่เข้าวงการบันเทิงมาจนถึงตอนนี้ พี่พีคโตขึ้น เยอะและตอนนี้ก็เป็นช่วงที่พี่พีคแฮปปี้กับชีวิตตัวเองมากที่สุดด้วย สำหรับใครที่ติดตามพี่พีคมานานแล้ว พี่พีคบอกว่า พี่พีคตัวจริงก็เหมือนพีคในทีวีนั้นแหละ เป็นแบบนั้นเลย (ฮ่าๆ)

12. พี่พีคบอกว่าตัวเองเป็นคนคิดบวกมาตั้งแต่เด็ก ก่อนนี้ไว้ใจคนหมด ไม่มองว่าใครไม่ดี เชื่อว่าทุกอย่างมันดีหมด แต่พอโตขึ้นก็เริ่ม protect ตัวเองได้บ้าง ที่เป็นคนให้ใจคนอื่นหมด เพราะเชื่อว่าถ้าเราดีกับเค้า เค้าก็น่าจะดีกับเราแหละ แต่ตอนเด็กๆ คิดแบบนั้น แต่พอโตมาก็คิดว่าเราดีกับเค้าแต่ถ้าเค้าไม่ดีกับเราก็ไม่เป็นไร ก็แค่ผ่านไป คือจะเริ่ม protect ตัวเองมากขึ้น แต่พีคก็ไม่เคยเจออะไรที่ไม่ดีนะ

13. ถ้าถามว่าพี่พีคเคยโกรธใครไหม “คงเป็นฟีลโมโหหิวค่ะ” คือหิวแล้วมีคนเอาอะไรมาให้พี่พีคกิน พี่พีคก็หาย คือเมื่อไรได้กินก็หาย เมื่อไรได้หัวเราะก็หาย แต่ถ้าโกรธจริงๆ… (นึกนานมาก) “ไม่มีนะคะ” อย่างคอมเมนต์ตามโซเชียลพี่พีคบอกว่า ขำๆ มากกว่า ถ้าเป็นเรื่องที่เค้าตักเตือน เราปรับได้ก็ปรับ นอกเหนือจากนั้นก็พยายามโฟกัสว่ามีคนที่ดีกับเราเยอะแยะ ไม่ได้เก็บมาคิดมาก

14. พี่พีคบอกว่า ตอนเด็กๆ ไม่ได้คิดว่าอยากเป็นดาราเลย แค่อยากออกทีวี อยากเห็นตัวเองในโฆษณา อยากให้เพื่อนเห็น คิดแค่นั้น แต่ไม่ได้คิดว่าจะได้ทำงานมานานขนาดนี้หรือว่ามีโอกาสเยอะขนาดนี้ ส่วนแพสชันสูงสุดของพี่พีคคืออยากใช้ชีวิตให้ดี มีความสุขในทุกๆ วัน อยากให้ตัวเองมีสุขภาพแข็งแรง พี่พีคบอกว่าชอบการใช้ชีวิต รู้สึกสนุก มีความสุข อยากให้ทุกๆ คนที่พี่พีครักได้อยู่ด้วยกันไปนานๆ มีความสุขด้วยกันนานๆ 

15. ตอนเด็กๆ พี่พีคมีเรื่องนอยด์ๆ เยอะเหมือนกันนะ และพอโตขึ้นก็ไม่ใช่ว่ามันจะหมดไป เพราะเวลาที่ทำอะไรที่ตั้งใจมากๆ มันก็อดที่จะคาดหวังไม่ได้ มันก็ต้องมีเรื่องนอยด์ๆ บ้าง สิ่งที่ทำให้พี่พีคใช้ชีวิตง่ายขึ้นคือมีความสุขทุกๆ วัน พี่พีคบอกว่า หากใครมีเรื่องไม่สบายใจอยู่ก็อยากให้ผ่านไปให้ได้เร็วๆ คือวันนี้มันอาจจะเป็นเรื่องใหญ่ แต่พอผ่านไปเรื่อยๆ มันก็จะเบาลง แล้วมันก็หมุนจนเราไปเจอเรื่องอื่นอีก คือรู้สึกได้นะ แต่ขจัดให้เร็ว แล้วไปต่อให้ได้ ถ้าเอาแต่คิดว่า ถ้าอย่างนั้น… ถ้าอย่างนี้… ก็จะไม่เกิดประโยชน์ สู้เก็บเป็นบทเรียนเพื่อไปแก้ไขในวันข้างหน้าดีกว่า ขอให้ทุกคน move on เร็วๆ ในทุกๆ เรื่องเลย

16. สุดท้ายนี้ พี่พีคก็ขอส่งกำลังใจให้น้องๆ ชาว Dek-D.com ถ้าชอบอะไร อยากทำอะไร อย่าหยุดยั้งก้าวไปให้สู่จุดหมาย ทำต่อไป มันจะถึงความฝันแค่ไหนก็ขอให้ตั้งใจ มีความสุขที่ได้ทำ ถ้าทำแล้วมันประสบความสำเร็จไปถึงโกลได้ มันก็เป็นผลพลอยได้ พี่พีคบอกว่า ความฝันมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ ขอให้เรามีความสุขที่ได้ทำก็พอค่ะ แล้วก็อย่าลืมไปฟังเพลง “คีย์ใจ” และติดตามผลงานเพลงต่อๆ ไปของพี่พีคกันด้วยน้าาา