พาไปรู้จัก “Yokohama National University” ม.สุดล้ำท่ามกลางพื้นที่สีเขียวของญี่ปุ่น! (มีทุนให้นักศึกษาต่างชาติด้วย!)

สวัสดีค่าน้องๆ ชาว Dek-D ทุกคน เชื่อว่าหลายคนที่กำลังมองหาที่เรียนต่อต่างประเทศ ต้องมี ‘ญี่ปุ่น’ อยู่ในลิสต์ประเทศที่อยากไปเรียนต่อแน่ๆ วันนี้พี่กระถินก็จะขอพาทุกคนไปรู้จักกับ “Yokohama National University (YNU)” มหาวิทยาลัยชื่อดังในเมืองโยโกฮาม่าที่บอกเลยว่าน่าเรียนมากๆ แถมยังเปิดรับนักศึกษาต่างชาติและมีทุนการศึกษามอบให้ด้วย! 

YNU ถือว่าเป็นอีกสถาบันที่มีคุณภาพการศึกษาดี แถมล่าสุดยังติดอันดับ 32 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น และอันดับที่ 169 ของเอเชีย จากการจัดอันดับโดย QS University Rankings 2023 ด้วยนะคะ น่าสนใจขนาดนี้ว่าแล้วก็ไปดูรายละเอียดกันเลยค่ะ~

Yokohama National University (YNU) ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1949 อยู่ในโยโกฮาม่า (Yokohama) ซึ่งเป็นเมืองเอกของจังหวัดคานางาวะ (Kanagawa) นั่นเองค่ะ ขอบอกว่าเมืองนี้มีประชากรเยอะมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศญี่ปุ่น และอยู่ห่างจากเมืองหลวงอย่างกรุงโตเกียวแค่เพียง 32 กิโลเมตรเท่านั้น // เดินทางสะดวกมากก

และด้วยความที่อยู่ติดกับอ่าวโตเกียว (ที่ตั้งของท่าเรือโยโกฮาม่า) ผู้คนจึงรู้จักเมืองนี้ในฐานะเมืองท่าเก่าแก่ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นทั้งจุดเริ่มต้นและศูนย์กลางการค้าขาย ความทันสมัย เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า แต่ในขณะเดียวกันก็ยังรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นเอาไว้  จุดเด่นข้อนี้ทำให้ YNU เน้นเปิดสอนคณะด้านการบริหารธุรกิจ วิศวกรรมศาสตร์ และการจัดการพื้นที่เมือง 

สำหรับบรรยากาศก็เรียกว่าเหมาะกับการมาเรียนสุดๆ นอกจากจะเดินทางสะดวก (นั่งรถบัสที่สถานีรถไฟโยโกฮาม่าแค่ 15 นาทีก็ถึงมหาวิทยาลัย) ในแคมปัสยังเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวและสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น สนามกีฬา สระว่ายน้ำ หอพักนักศึกษาต่างชาติ ห้องสมุด ฯลฯ ถ้าใครเป็นสายกิจกรรม ขอบอกว่า YNU มีมากกว่า 100 ชมรมให้เลือก join ได้ตามความสนใจด้วยนะคะ 

ตามมาส่องหลักสูตรของ YNU กัน!
(เปิดสอนระดับไหน? คณะอะไรบ้าง?)

Yokohama National University เปิดสอนตั้งแต่ระดับปริญญาตรี-เอกเลยค่ะ ส่วนวันนี้เราจะมาเน้นที่คณะและสาขาในระดับ ป.ตรี ภาคภาษาญี่ปุ่นก่อน ได้แก่

• College of Economics
• College of Business Administration
• College of Engineering Science
• College of Urban Sciences
• College of Education *ไม่รับนักศึกษาต่างชาติ ยกเว้นนักศึกษาที่ได้รับทุนรัฐบาลญี่ปุ่น (Monbukagakusho หรือ MEXT)

นอกจากนี้ YNU ยังมีหลักสูตร ป.โท และ ป.เอก ที่เปิดสอนภาคภาษาอังกฤษด้วย ใครสนใจสามารถดูรายละเอียดได้ที่  https://www.ynu.ac.jp/english/admissions/  นะคะ (ในเว็บคือข้อมูลครบมากกก ><)

ค่าเล่าเรียน

นักศึกษาใหม่ YNU ต้องเสียค่าธรรมเนียมแรกเข้า 282,000 เยน (74,032.22 บาท*) ส่วนค่าเทอมทุกคณะจะอยู่ที่ 535,800 เยน (140,661.22 บาท*) ทั้งหมดนี้ไม่รวมค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและค่าที่พัก

เช็กคุณสมบัติ
ใครสมัครได้บ้าง?

หลักๆ คือหากต้องการสมัครเรียน ป.ตรีที่ YNU จะต้องจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน 12 ปี จากโรงเรียนที่อยู่นอกประเทศญี่ปุ่น (เทียบเท่าวุฒิ ม.6 ของไทย) และสมัครผ่านโครงการ Yokohama Global Education Program (YGEP) โดยแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ แบ่งตามทักษะและความรู้ด้านภาษาญี่ปุ่น (ไม่จำเป็นต้องมีคะแนนสอบ JLPT แต่แค่มีความรู้เทียบเท่าก็พอค่ะ) ได้แก่

1. YGEP-N1 เปิดรับนักศึกษาที่มีความสามารถภาษาญี่ปุ่นเทียบเท่า JLPT N1
2. YGEP-N2 เปิดรับนักศึกษาที่มีความสามารถภาษาญี่ปุ่นเทียบเท่า JLPT N2 โดยน้องๆ จะต้องเข้าเรียนภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นในช่วงปี 1 ก่อน พอขึ้นปี 2 จึงแยกไปเรียนตามคณะที่สมัครไว้

ช่องทางการส่งเอกสารรับสมัคร

 บางคณะสามารถยื่นกับทางคณะโดยตรงหรือทางไปรษณีย์ แต่บางคณะอาจรับใบสมัครผ่านไปรษณีย์เท่านั้น // น้องๆ สามารถเช็กรายละเอียดเพิ่มเติมในหน้าเว็บของแต่ละคณะได้เลยค่ะ 

ทุนการศึกษา

สามารถเข้ามาเรียนที่ YNU ด้วยทุนต่างๆ เช่น ทุนรัฐบาลญี่ปุ่น และมหาวิทยาลัยยังมีทุนค่าเล่าเรียน YNU Tuition Waiver Program for International Students ด้วย รายละเอียดคร่าวๆ คือ

• ทุนสำหรับนักศึกษาต่างชาติระดับ ป.ตรี, ป.โท (ยกเว้นค่าเล่าเรียน 30%, 50% หรือ 100%) หรือ ป.เอก (ยกเว้นค่าเล่าเรียน 50% หรือ 100%) พิจารณาจากผลการเรียน
• ยื่นใบสมัครทุนพร้อมกับเอกสารประกอบการสมัคร โดยทางมหาวิทยาลัยจะแจ้งผลให้ทราบพร้อมกับผลการสมัครเข้าเรียน
• ทุนนี้จะครอบคลุม 2 เทอมแรก แต่หลังจากนั้นนักศึกษาจะต้องยื่นขอทุนเอง (ทางมหาวิทยาลัยจะพิจารณาจากผลการเรียนว่าจะได้รับทุนหรือไม่ และจะได้ยกเว้นค่าเล่าเรียนกี่ %)

หลังจากพาทัวร์เมืองทัวร์มหาวิทยาลัยคร่าวๆ หลายคนน่าจะจดหลักสูตรที่ใช่กับ Yokohama National University ลงลิสต์แล้วใช่มั้ยคะ >< ถ้าใครพอมีพื้นฐานภาษาแล้วอยากสัมผัสการเรียนในเมืองที่ทันสมัย เต็มไปด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรม และแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายสไตล์ อย่าลืมเข้าไปศึกษาข้อมูลที่เว็บไซต์หลักของมหาวิทยาลัยนะคะ (มีทั้งเวอร์ชันภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษเลย) พี่กระถินขอเอาใจช่วยให้น้องๆ ทุกคนโชคดีนะคะ Fighto!