มารู้จัก drg. หรือดราก้อนเจ้าของเพลง "เรื่องราวที่เราเขียน" กันให้มากขึ้นกับ 27 facts ที่คุณอาจไม่เคยรู้กันมาก่อน

สวัสดีค่ะ น้องๆ ชาว Dek-D วันนี้พี่เชอรี่มีโอกาสได้พูดคุยกับศิลปินน้องใหม่มากความสามารถที่หลายคนอาจจะคุ้นเคยกันจากเพลง “เรื่องราวที่เราเขียน” นั่นคือ “drg.” หรือ “อัครวัฒน์ เชาวนเ์ลิศเสรี (ดราก้อน)” ที่แต่งเพลงแทนความรู้สึกที่กินใจจนหลายคนกลายเป็นแฟนคลับของหนุ่มคนนี้ ซึ่งพี่เชอรี่คิดว่าหากน้องๆ ชาว Dek-D ได้อ่านจนจบแล้วละก็นอกจากจะได้รู้จักดราก้อนมากขึ้นแล้ว ยังได้มุมมองการใช้ชีวิตใหม่ๆ ที่หลายคนไม่คาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว มาดูกันเลย

1. ชื่อ “ดราก้อน” เป็นชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้ เพราะเกิดปีมังกร ตัวจริงเป็นเป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยเปิดเผยความรู้สึกสักเท่าไหร่ เลยตั้งนามแฝงเป็น drg. ที่ย่อมากจากดราก้อนนี่แหละ

2. ดราก้อนชอบเล่นดนตรีมากๆ มาตั้งแต่เด็ก เป็นเด็กที่มีความฝันอยากจะทำเพลงเป็นของตัวเอง อยากมีคนมาดูคอนเสิร์ตเยอะๆ  

3. ตอนที่ดราก้อนเริ่มเล่นเปียโนแรกๆ ก็ได้เรียนแนวคลาสสิค จริงๆ ถึงมันจะแอบน่าเบื่อไปบ้าง แต่ก็ช่วยฝึกสกิลเบื้องต้นได้เป็นอย่างดี พอขึ้น ม.ปลาย ก็หันมาเล่นแนวป๊อบดูบ้าง แล้วก็ชอบเล่นเพลงป๊อบมาจนถึงตอนนี้เลย  

4. นอกจากเล่นเปียโนแล้ว ดราก้อนก็ชอบเล่นกีตาร์มากพอๆ กับเปียโนเลย เรียกได้ว่า ถ้าอยู่บ้านต้องกีตาร์ ส่วนเวลาออกงานคือเวลาของเปียโน

5. ความกล้าครั้งแรกที่ทำให้ตัดสินใจมาเป็นศิลปิน คือ ตอนที่ได้ไปดูคอนเสิร์ตของศิลปินคนหนึ่งในช่วงปิดเทอม แล้วรู้สึกว่า ทำไมคนถึงจดจำและร้องตามเพลงตามเขาได้มากขนาดนี้ พอหลังจากวันนั้นดราก้อนก็เริ่มแต่งเพลงแรก แล้วก็ให้เพื่อนช่วยถ่ายทอดเนื้อเพลงจนกลายออกมาเป็นเพลง "เรื่องราวที่เราเขียน"

6. ศิลปินที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับดราก้อนก็คือ “พี่แสตมป์”  นั่นเอง ดราก้อนบอกว่าชอบฟังเพลงพี่แสตมป์มาก โดยเฉพาะเพลงฝันหวานอายจูบ และเพลงกาลครั้งหนึ่ง แต่ละบทเพลงของพี่แสตมป์ทั้งเนื้อร้อง และทำนองเขียนได้ดีมากๆ รู้สึกว่า เพลงของพี่เขาใช้คำได้สมบูรณ์แบบมาก

7. ทุกครั้งที่ดราก้อนได้ปล่อยเพลงใหม่ลงบน YouTube เป็นช่วงเวลาที่ดราก้อนจำได้ไม่เคยลืมว่า ตัวเองตื่นเต้นแค่ไหน ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่ดราก้อนภูมิใจที่สุดเลย

8. 3 คำนิยามที่ดราก้อนให้กับตัวเองก็คือ “ขี้อาย คิดมาก และมี passion”

9. ดราก้อนรู้สึกอายเวลาอยู่ต่อหน้าคนเยอะๆ พอทำความรู้จักกับคนใหม่ๆ ก็เกร็งจนพูดไม่ค่อยออก  

10. ดราก้อนรู้สึกว่า ตัวเองเป็นคนย้ำคิด ย้ำทำ คิดมากกับทุกเรื่องตั้งแต่ตื่นนอนมาเลย รวมทั้งเวลาแต่งเพลงก็คิดว่า “เพลงของเรา ดนตรีของเรามันดีมั้ย” “คนฟังจะชอบมั้ย” 

11. ดราก้อนมี passion กับเรื่องดนตรีทุกอย่าง ตั้งแต่เล่นเปียโน เล่นกีตาร์ แต่งเพลง ฟังเพลง เพราะรู้สึกว่า ตั้งแต่เข้ามัธยมมาไ่ม่เคยหยุดชอบอะไรที่เกี่ยวกับดนตรีเลย  

12. เอกลักษณ์ของเพลงแบบดราก้อนก็คือ เพลงที่เล่าเกี่ยวกับความทรงจำในอดีต และสิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นความสุขของเรา จะไม่ได้เน้นเรื่องรักกัน เลิกกัน แต่อยากแต่งเพลงที่เหมือนเรื่องราวของชีวิต

13. ความฝันที่ดราก้อนอยากทำให้เป็นจริงก็คือ อยากจัดคอนเสิร์ตของตัวเอง มีแฟนๆ มาร้องเพลงเยอะๆ ถ้าเป็นไปได้ ดราก้อนอยากทำงานร่วมกับพี่แสตมป์สักครั้ง อยากเรียนรู้ทั้งการทำงาน และมุมต่างๆ ของพี่เขา

14. ดราก้อนชอบเพลงที่ปล่อยมาทุกเพลงพอๆ กันเลย แต่ถ้าให้เลือกจริงๆ ก็คงจะเป็นเพลง "เรื่องราวที่เราเขียน" เขาบอกว่า ตอนนั้นยังโนเนม เขียนด้วยความรู้สึกล้วนๆ ไม่ได้สนว่าใครจะชอบหรือไม่ชอบเพลงนั้น แต่พอปล่อยออกไปแล้วมีความหมายกับหลายๆ คนที่ฟังมากๆ ก็เลยรู้สึกว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่สำคัญสำหรับเขา

15. “เรื่องราวที่เราเขียน” เป็นเพลงที่เล่าช่วงเวลาที่มีความสุขในช่วงที่เรายังมีกันและกัน แต่ก็มีคำถามติดค้างในใจว่า “ถ้าวันหนึ่งเราไม่ได้บอกรักกันแล้ว เราจะยังจับมือ จะยังไปด้วยกันอยู่มั้ย”

16. “ฝันที่ไม่เป็นจริง” เป็นเพลงที่ดราก้อนอยากจะเขียนให้มันเศร้าแบบสุดๆ ไปเลย เพราะพอปล่อยเพลงแรกไปก็มีหลายคนถามว่า เพลงเรื่องราวที่เราเขียน เป็นเรื่องรักหรือเพลงเศร้ากันแน่ เขาก็เลยปล่อยเพลงนี้ออกมา

17. “ก่อนที่เราบอกลา” เป็นเพลงที่แต่งให้เพื่อน ทุกอย่างที่ได้ใช้เวลาร่วมกันมันมีค่ามาก อยากให้ทุกคน appreciate กับสิ่งที่มีอยู่ในตอนนี้

18. ส่วนที่ดราก้อนมั่นใจในตัวเองที่สุดก็คือ การใช้คำพูด ดราก้อนรู้สึกว่า “ตัวเองเรียบเรียงคำพูดได้ดีเวลาทำงาน”

19. ถ้ามีเวลาว่างดราก้อนอยากจะไปโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เพราะว่าชอบธรรมชาติที่นั่นมาก รู้สึกว่าถ้าได้ไปโอซาก้าละก็ ไม่ว่าจะทำอะไรก็คงรู้สึกผ่อนคลายไปหมด ดราก้อนชอบอาหารญี่ปุ่นมากๆ รวมทั้งพวกของฝาก เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องดนตรีก็ชอบซื้อมาจากที่นั่น

20. ตัวการ์ตูนที่ดราก้อนชอบที่สุดคือ เซนะ พระเอกจากเรื่อง Eyeshield 21 เพราะรู้สึกว่าเซนะเริ่มต้นจากศูนย์เหมือนกับตัวเขาเลย เซนะไม่เก่งอะไรเลย แต่เขาชอบอเมริกันฟุตบอลมากๆ เลยลองตัดสินใจเล่น แล้วเขาก็ได้ค้นพบความสามารถที่ซ่อนอยู่ของตัวเอง เลยเป็นเหมือนแรงบันดาลใจให้ดราก้อนด้วย

21. ดราก้อนชอบเพลงแนว acoustic pop รู้สึกว่า มันเรียบง่าย ด้วยความที่เวลาฟังเพลงชอบอ่านเนื้อร้องไปด้วยทำให้ยิ่งรู้สึกว่า เข้าใจสิ่งที่คนแต่งสื่อออกมา และอีกแนวที่อยากร้องก็คือ เพลงประกอบภาพยนตร์อย่างเพลง Sparkle ที่ทำให้คนอินกับ Your name มากขึ้นด้วย

22. สิ่งที่ดราก้อนชอบมากที่สุดคือ ครอบครัว เพราะครอบครัวคอยสนับสนุนดราก้อนตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงทุกวันนี้ ส่วนสิ่งที่ดราก้อนไม่ชอบมากที่สุดก็คือ การจากลา 

23. mindset เป็นสิ่งที่ดราก้อนรู้สึกว่าโตขึ้นจากปีที่แล้ว โดยใน 1 ปีได้ทำงานไปเยอะพอสมควร ได้เรียนรู้จากผลงาน แนวคิด วิธีการพูด ไอเดียต่างๆ จนทำให้ชีวิตใน 1 ปีเปลี่ยนไปเยอะเลย

24. ดราก้อนอยากจะเลือกย้อนอดีต ช่วง ม.ต้น เพราะอยากเริ่มทำทุกอย่างให้เร็วกว่านี้ ตอนนั้นก็เริ่มชอบดนตรีแล้ว แต่เพราะความไม่กล้า เลยเพิ่งได้ทำเพลงจริงๆ ก็ตอนปี 1 เลย

25. ถ้าดราก้อนมีความสามารถพิเศษได้หนึ่งอย่าง ดราก้อนจะเลือกประตูไปที่ไหนก็ได้ ดราก้อนไม่ชอบเวลาเดินทาง เพราะที่ไทยรถติดมากเลยรู้ว่า ช่วงเดินทางมันกินเวลาส่วนสำคัญของเราไป ทำให้เวลาอยากจะทำสิ่งที่ชอบน้อยลงไปด้วย

26. ดราก้อนเจอภาวะหมดไฟบ่อยๆ ช่วงแต่งเพลง คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก แต่งไป ลบไป หลายเดือนกว่าจะได้เพลงหนึ่งมา แต่พอคิดว่า ยังไงก็ต้องทำอยู่ดี สุดท้ายมันก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของเพลงของก็เลยผ่านช่วงเวลานั้นมาได้

27. สุดท้ายดราก้อนอยากจะบอกทุกคนว่า “อยากขอบคุณทุกคนที่ฟังเพลง ผมอ่านคอมเมนต์ และตอบ direct อยู่ตลอด ทุกข้อความคือกำลังใจที่ดีมากๆ ที่ทำให้ผมยังทำเพลงอยู่ ถ้าไม่มีกำลังใจจากแฟนๆ ล่ะก็คงไม่ได้พัฒนาผลงานให้ดีขึ้น ไม่ได้มีกำลังใจในทำงานที่ยากขนาดนี้ รู้สึกว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะทุกคนมีส่วนเลย ขอบคุณมากครับ”