สัญญาณร้าย! ว่ารักครั้งนี้ไม่ควรไปต่อ

ความรักเป็นเรื่องซับซ้อนนะว่าไหม? ที่บอกรักคงยังไม่พอ สำหรับพี่คือเรื่องจริงสุด ๆ ! เพราะความรักต้องอาศัยการเข้าใจกันและกัน ยอมรับในทัศนคติของอีกฝ่าย รวมถึงให้เกียรติกันและกันด้วย

แน่นอนว่าเราคาดเดาความรักในอนาคตไม่ได้ แรก ๆ แฟนอาจจะเทคแคร์ดี ใส่ใจสุด แต่พอนานวันเข้าจากคนที่แสนดีก็กลายเป็นคนน่ากลัว ชอบทำให้อึดอัด พูดจาทำร้ายจิตใจ ข่มขู่ควบคุม หนักสุดคือพยายามทำร้ายร่างกายกัน

ถ้าใครมีความรักคล้ายกับลักษณะที่กล่าวมา ก็อาจเป็นไปได้ว่ากำลังอยู่ในความสัมพันธ์แสนเป็นพิษที่เรียกว่า ‘Abusive Relationship’ อยู่

โดยด็อกเตอร์ Sherry Benton ผู้ก่อตั้งและประธานของ TAO connect กล่าวว่า Abusive Relationship สามารถระบุได้ง่ายหากอีกฝ่ายทำร้ายร่างกาย แต่ถ้าเป็นเรื่องของอารมณ์ก็จะซับซ้อนและระบุยากมากขึ้น เพราะบางทีก็ดูเป็นพฤติกรรมเล็กน้อยที่ไม่ทันสังเกต อีกทั้งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นเมื่อคบกันไปได้สักระยะหนึ่งอีกด้วย

ฟังแบบนี้อาจจะกังวลว่า อ้าว แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่ากำลังตกอยู่ในความสัมพันธ์แสนสุ่มเสี่ยงนี้อยู่ ไม่ต้องกังวลไปค่ะ วันนี้เรานำสัญญาณร้ายว่าอาจกำลังตกอยู่ใน Abusive Relationship มาฝากกัน

ควบคุมทุกอย่าง

ฝ่ายข่มเหงมักพยายามควบคุมและตามเช็คทุกอย่างไม่ว่าจะข้อความในโทรศัพท์ อีเมล การใช้เงิน หรือแม้แต่สั่งห้ามให้เราคบเพื่อนที่คบมานานด้วยเหตุผลของเขา

ชอบตะโกนหรือพูดจาเสียงดังใส่

เวลาโกรธ หงุดหงิด มันก็ต้องมีกันบ้างแหละที่เผลอพูดจาเสียงดังใส่กัน ซึ่งปกติเราจะรับรู้อยู่แล้วว่านี่เป็นสิ่งไม่ดี ไม่ควรทำนะ แต่ความสัมพันธ์แบบ Abusive Relationship กลับชอบเลือกสิ่งนี้มาเป็นอาวุธในการข่มอีกฝ่ายให้กลัว ไม่กล้าต่อต้าน และยอมอยู่บ่อย ๆ

ตั้งฉายาเชิงลบที่ไม่ชอบให้

น้อง ๆ หลายคนอาจจะคิดว่า เอ…ข้อนี้ก็ปกตินะที่เราจะตั้งชื่อเรียกน่ารัก ๆ ให้กัน ซึ่งใช่ค่ะ ถ้าเป็นการตั้งแบบทุกฝ่ายรู้สึกดี น่ารักกรุบกริบก็ดีไป แต่ถ้าเอาข้อด้อย จุดเซนซิทีฟมาเรียก อันนี้ไม่น่าจะโอเคเท่าไหร่

โดยด็อกเตอร์ Jennifer Genovese นักสังคมสงเคราะห์ ที่ Syracuse University กล่าวว่า การตั้งฉายาเชิงลบเป็นสิ่งที่ไม่เคยถูกยอมรับ เพราะแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้เคารพและให้เกียรติกันและกันเลย 

แม้อาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่การตั้งฉายาเชิงลบให้กัน มีผลอย่างมากต่อความมั่นใจในตัวเอง ทำให้ Self-esteem ลดลง สูญเสียตัวตน

ดูถูก 

ด็อกเตอร์ Sherry Benton กล่าวว่าความสัมพันธ์ที่ดี จะต้องเปิดใจรับฟังกัน ไม่คาดหวังให้อีกฝ่ายเป็นในแบบที่ตนต้องการ เพราะฉะนั้นหากคนรักชอบใช้แต่คำดูถูก พูดจาเสียดสี ไม่เชื่อใจ บอกว่าเราไม่ดียังงั้นยังงี้ ก็คงไม่เวิร์คแน่ ๆ  

กังวลและรู้สึกว่าต้องปกป้องตัวเองตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน

อีกหนึ่งสัญญาณว่าอาจกำลังอยู่ในความสัมพันธ์ Abusive Relationship คือ เรามักรู้สึกไม่ปลอดภัยและเป็นกังวลอยู่เสมอเวลาที่อยู่ด้วยกัน ทั้งในแง่ร่างกายและความรู้สึก ที่ไม่เคยสบายใจเลย

งานวิจัย Deinera Exner-Cortens, John Eckenrode, Emily Rothman ได้สำรวจผู้หญิงอายุ 18-25 ปี ที่เคยมีประสบการณ์อยู่ในความสัมพันธ์ Abusive Relationship พบว่ามักมีปัญหาเรื่องสุขภาพจิตอย่างการเป็นโรคซึมเศร้า มีความคิดอยากฆ่าตัวตาย ติดแอลกอฮอล์ และติดบุหรี่มากกว่าผู้ที่ไม่เคยมี ส่วนผู้ชายที่เคยติดกักอยู่ในความสัมพันธ์ที่เป็นพิษก็มักจะมีปัญหาเรื่องการเข้าสังคม มีความคิดฆ่าตัวตาย และเสพติดกัญชา 

มาถึงตรงนี้แล้ว จะทำอย่างไรต่อดี? หากเรากำลังอยู่ในความสัมพันธ์แสนทุกข์ทรมานใจอยู่ มาค่ะ พี่มีคำตอบมาช่วย

ยอมรับและเข้าใจวงจรของ Abusive Relationship 

เข้าใจดี การจะยอมรับว่าคนรักแย่มันยากมาก แต่ก็ต้องระลึกไว้เสมอว่าสิ่งที่เขาทำสร้างความทุกข์ใจให้แก่เรามากแค่ไหน

โดยวงจรของ Abusive Relationship มักมีลักษณะทำร้ายเสร็จ ขอโทษ แล้ววนกลับไปทำร้ายใหม่เป็นวัฏจักรที่อีกฝ่ายไม่คิดจะแก้ไข เพราะฉะนั้นเราต้องคิดไตร่ตรองและบอกกับตัวเองเสมอว่าวัฏจักรวงจรนี้จะวนไปเรื่อย ๆ และอาจไม่มีอะไรดีขึ้นถ้ายังฝืนอยู่ต่อ

ยุติความสัมพันธ์

ถ้ามั่นใจแล้วว่ากำลังอยู่ในความสัมพันธ์ดังกล่าวจริง สิ่งที่ควรทำคือไม่อยู่เฉยและยอมโดนกระทำไปเรื่อย ๆ สำคัญสุดคือการพาตัวเองออกจากความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ ยุติทุกอย่างแบบไม่ลังเล เพื่อความปลอดภัยของตัวเองนะคะ

หันมาดูแลตัวเอง

เวลาที่เราโดนทำร้ายและบั่นทอนอยู่บ่อย ๆ เป็นปกติที่จะรู้สึกอ่อนแอ ไม่มีความสุข พาลไม่มีเรี่ยวมีแรง 

ทางที่ดีที่สุดคือหันกลับมาตั้งสติ หันกลับมาดูแลกายและใจบ้าง อาจไปออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ หากิจกรรมที่อยากทำ การย้อนมาดูแลตัวเองจะทำให้เรารักและอยากจะปกป้องตัวเองมากขึ้น ปล่อยวางกับความสัมพันธ์แย่ ๆ ได้

ขอความช่วยเหลือหากโดนทำร้ายร่างกาย

การทำร้ายร่างกายถือเป็นเรื่องใหญ่มาก ที่ไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหน นั่นก็ถือว่าเป็นการทำร้าย เพราะฉะนั้นแล้วสิ่งที่ควรทำคือการขอความช่วยเหลือ อาจเริ่มจากเพื่อน คนที่ไว้ใจ หรือสายด่วนต่าง ๆ 

พี่ยังคงยืนยันเสมอว่าความรักที่ดี จะต้องเป็นความรักที่ส่งเสริมกัน ไม่ใช่การทำร้ายกัน ที่สำคัญทุกคนมีสิทธิ์ที่จะมีความสุขและได้รับสิ่งดี ๆ ถ้าความรักครั้งนี้มันห่วย ก็ปล่อยมือพักใจตัวเองสักหน่อยก็ไม่ได้เสียหายอะไรนะ