ปังไม่ไหว! พูดคล่องได้เหมือนเจ้าของภาษามาเองด้วยเทคนิค shadowing (ใช้ได้กับทุกภาษา)

เพื่อนๆ ชาว Dek-D เคยได้ยินมั้ยว่า ถ้าอยากเก่งภาษาต้องเริ่มจากการฟังและพูดก่อน ทักษะอื่นๆ ถึงจะตามมาเอง ก็ตามนั้นเลย ถ้าอยากพูดได้เหมือนเจ้าของภาษา แต่จะทำยังไงก็ไม่กล้าสักที ยิ่งนานๆ ทีจะได้เจอเจ้าของภาษาก็ได้แต่ยืนตัวแข็ง พูดไม่ออก หัวโล่งไปหมด ถ้าเพื่อนๆ เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ อยากจะบอกว่า เป็นเรื่องปกติเลย ถ้าอยากเก่งขึ้นก็ต้องกล้าขึ้น แต่สำหรับใครที่ยังไม่พร้อมเรามีตัวช่วยกับเทคนิคพูดพร้อมแบบ Shadowing ไปดูกันเลย

Shadowing คืออะไร

เป็นเทคนิคการพูดแบบหนึ่ง ซึ่ง ศ.อเล็กซานเดอร์ อาร์กูเลส นักวิชาการชาวอเมริกาได้คิดค้นเทคนิคนี้ เพื่อให้ทุกคนสามารถฝึกพูดได้ทุกวัน โดยไม่จำเป็นต้องมีคนคุยด้วย เทคนิคนี้เป็นการฝึกพูดพร้อมกับเสียงที่ได้ยิน เพียงแค่เปล่งเสียงพูดตามหลังเสียงที่ได้ยินทันทีให้เหมือนมากที่สุดดัง “เงา” นั่นเอง โดยที่เราจะฝึกวันหนึ่งแค่ 10-15 นาทีเท่านั้น เพราะเป็นช่วงสมองยังมีสมาธิ และซึมซับได้รวดเร็วที่สุด

ทำ Shadowing แล้วได้ผลดียังไง

เปรียบง่ายๆ ว่า ร่างกายของเราเป็นกล่องใบหนึ่ง เราต้องรับความรู้ และประสบการณ์ในการเรียนรู้ใหม่ๆ ในทุกๆ วัน พอไม่ได้ทำอะไรนานๆ ก็จะลืมของเก่า แล้วจำได้แต่สิ่งที่พิ่งเรียนรู้มา โดยเทคนิคนี้จะทำให้เราได้พัฒนาการพูด ให้สามารถโต้ตอบได้ทันที พัฒนาการฟัง ยิ่งฟังบ่อยๆ ก็จะเก็บรายละเอียดของข้อมูลได้มากขึ้น รวมทั้งชินกับความต่างของสำเนียงแต่ละคน โดยไม่ต้องกังวลเลย ช่วยเรื่องการออกเสียง จากการสังเกตเสียงสูง-ต่ำ การเน้นคำว่าเป็นคำถาม หรือต้องการจบประโยคกันแน่ และยังช่วยเพิ่มพูนคลังศัพท์ในหัวให้ได้ศัพท์ วลีใหม่ๆ คำสแลงที่นิยมใช้เหมือนเจ้าของภาษาอีกด้วย

ก่อนจะแนะนำเทคนิคนี้ เราต้องรู้จักตัวเองก่อนว่า “ระดับภาษาที่เราจะฝึกนั้นอยู่ระดับไหนแล้ว” อาจจะเข้าเว็บไซต์วัดระดับภาษาฟรี หรือลองอ่านดูคร่าวๆ ถ้าไม่เข้าใจให้เปลี่ยนเรื่องที่จะฝึกไปเลย

1.ค้นหาคลิปสำหรับเลียนเสียง

แนะนำให้เริ่มจากคลิปเสียงไม่เกิน 5 นาที ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของภาษา แต่ควรมีความเชี่ยวชาญและออกเสียงได้ชัดเจน เข้าใจง่าย อาจเป็นข่าวสั้นๆ หรือ Ted Talk เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเลย

2.“ปิดตาไว้” ก็คือการฟังเสียงจากคลิปและออกเสียงตาม  

เน้นฟังน้ำเสียงและจังหวะการพูด ไม่ต้องเข้าใจความหมาย ไม่ต้องดูสคริปต์ แค่ออกเสียงตามเสียงที่ได้ยินดังๆ เน้นเลียนแบบเสียงที่ได้ยิน พร้อมทำท่าทางตามสถานการณ์นั้น ฝึกแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพูดได้คล่อง และจำได้โดยไม่ต้องรอเสียง

ให้เริ่มต้นโดยการออกเสียงตามแค่ 20-30 วิก่อน จะได้ไม่เหนื่อยเกิน กฎเหล็กที่ต้องจำไว้ก็คือถ้าสะดุดหรือพูดตามไม่ทันปั๊บ ให้เริ่มพูดใหม่ทันที  

แต่ละคนใช้เวลาเรียนรู้ได้ช้าเร็วต่างกัน แค่ทำทุกวัน ไม่ต้องเทียบกับใคร ไม่นานเกินรอเราจะพูดตามได้แบบไม่เสียเวลาคิดเลย  

3.บันทึกเสียง

เมื่อเรามั่นใจว่าเราออกเสียงตามทันในคลิปแล้ว ให้ลองบันทึก ใส่หูฟัง แล้วลองฟังดูอย่างไม่ Bias เพื่อที่จะก้าวสู่ขั้นตอนต่อไปอย่างมั่นใจ

4.เลียนเสียงเป๊ะ ดูสคริปพร้อมพูดตามที่ได้ฟัง

4.1 หูฟัง ปากออกเสียงตาม ตามองสคริปต์ภาษาที่ฝึกอยู่ ให้ทำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะอ่านตามสคริปทัน

4.2 หูฟัง ปากออกตาม แต่ตามองสคริปต์ที่แปลเป็นภาษาแม่ไว้ เพื่อที่จะเข้าใจความหมายของสิ่งที่ฟัง ทำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะฟังเข้าใจความหมายทั้งหมด

4.3 รอบที่สามให้ทำแบบเดิม แต่ตาต้องดูทั้งสคริปต์ และภาษาแม่เพื่อเชื่อมโยงข้อมูล

5.ทำความเข้าใจเนื้อหา คำศัพท์ บริบท และรูปประโยค

การอ่านสคริปต์เรื่องที่เราจะฝึก เราต้องตรวจสอบความเข้าใจว่า “เราเข้าใจถูกมั้ย” ด้วยคำถาม 5 who (ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร และเกิดผลลัพธ์ตามมายังไง) โดยแบ่งการฝึกเป็นดังนี้

สัปดาห์แรก ฝึกพูดบทที่ 1-3 โดยใช้วิธีแบบปิดตา หลังจากคล่องแล้วก็กระโดดมาพูดตามสคริปต์แบบขั้นตอนที่ 2 และในช่วงเวลาเดียวกันก็ฝึกของบทที่ 4-6 แบบปิดตาเพิ่มไปด้วย จะช่วยให้ได้ฝึกภาษาอย่างต่อเนื่องในทุกๆ วัน

สามารถฟังคลิปสั้นในยูทูปเพียงค้นหาว่า "Shadowing และตามด้วยภาษาที่เราเรียน" ก็จะขึ้นคลิปสั้นแค่ 5-10 นาทีเต็มไปหมดเลย แค่นี้เพื่อนๆ ก็สามารถเรียนเพิ่มตอนรอรถ หรือระหว่างเดินทางได้

6.พาตัวเองเข้าใกล้กับเจ้าของภาษามากขึ้น

นอกจากจะเรียนรู้ และประเมินด้วยตัวเองแล้ว วิธีที่ดีที่สุดก็คือการพาตัวเองเข้าไปในบรรยากาศที่ได้ใช้ภาษาที่ฝึกกับเจ้าของภาษา แนะนำลองฝึกเข้าร่วมไลฟ์ของ Hello Talk หรือเข้าร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนของทางโรงเรียนก็ได้ เราจะรู้ทันทีเลยว่า “ผลการฝึกของเรามันดีขึ้นแค่ไหน”

เรามาลองดูเว็บไซต์แนะนำสำหรับเริ่มต้น shadowing กันดีกว่า

หลายคนไม่เคยลองทำมาก่อน แล้วไม่แน่ใจด้วยว่าคลิปแบบไหนที่เหมาะกับตัวเอง เราเลยอยากจะแนะนะเว็บไซต์ 3 ภาษาที่เราเคยฝึก แล้วรู้สึกว่าได้ผลจริงมาให้เพื่อนๆ ได้ลองฝึกกัน

ภาษาญี่ปุ่น

สำหรับภาษาแรกเป็นภาษาที่เรากำลังเรียนอยู่ และรู้สึกว่าหาเพื่อนคนญี่ปุ่นค่อนข้างยาก เลยอยากแนะนำเว็บไซต์ และหนังสือที่น่าสนใจพร้อมกับเรียนรู้ด้วยตัวเองก่อน

1.NHK Easy News  

เว็บไซต์ข่าวที่แปลข่าวมาจากเว็บ NHK.com โดยเนื้อหาจะอัปเดททุกๆ วันสามารถอ่านย้อนหลังได้ 5 วัน และทุกวันจะมีข่าวเด่นประจำวันทั่วทั้งญี่ปุ่นมาย่อยให้เราอ่านเข้าใจได้ง่าย ทุกข่าวสามารถฟังคลิปเสียงและอ่านตาม โดยเลือกปรับให้เป็น 0.5 หรือปรับเร็วขึ้นให้เหมาะกับระดับของเราก็ได้ คำศัพท์ยากจะมีแปลให้โดยการคลิกหนึ่งครั้ง

ข้อแนะนำ ควรเลือกฝึก shadowing จากคลิปเสียงทีละประโยค พอทำครบทุกประโยคแล้วให้พูดพร้อมออกเสียงทั้งบทความทีเดียวเลย  

ข่าวที่คิดว่าอ่านง่ายคือข่าวโควิด ส่วนข่าวที่มือใหม่ควรหลีกเลี่ยงก็คือ ข่าวการเมือง เพราะถึงจะทำให้ย่อยง่ายขึ้นก็ตาม แต่ก็มีศัพท์ที่ยากเกินระดับ N3 เช่นเดียวกัน

หนังสือ 200 วลีญี่ปุ่นระดับกลางของ TPA  

เป็นหนังสือที่ออกแบบมาให้ฝึก shadowing โดยเฉพาะ เนื้อหาเข้าใจง่ายมีการยกตัวอย่างคำที่ใช้บ่อย ความหมาย และสถานการณ์ทุกรูปแบบที่สามารถใช้คำนั้นมาอัดแน่นอยู่ในเล่มเดียว  

ข้อแนะนำ ควรฝึกวันละ 20 คำ คำหนึ่งจะมีประมาณ 5 สถานการณ์ตัวอย่าง ให้ลองพูดพร้อมกับฟัง cd ที่มาพร้อมกับเล่ม หรือฟังใน App TPA ที่สามารถโหลดไฟล์เสียงของหนังสือทุกเล่มมาได้เลย พอขึ้นวันใหม่อย่าลืมทบทวนคำเดิมก่อนด้วยนะ จะได้ไม่ลืม

Nihongo SWiTCH

ช่องยูทูปที่ทำให้เราสอบพูดภาษาญี่ปุ่นผ่าน ต้องขอคารวะจริงๆ เป็นช่อง Podcast ที่นำมาลงยูทูปพร้อมกับซับภาษาญี่ปุ่นที่เนื้อหาเข้าใจง่าย อัปเดทใหม่ๆ อยู่เสมอ ทั้งเรื่องสอนแกรมม่า ศัพท์ธรรมดา ความรัก อาหาร สิ่งที่ชอบ กระแสที่้ป็นนิยมต่างๆ แบบครบมาก ช่องนี้มีคลิปให้เลือกมากกว่า 100 คลิป อีกทั้งสำเนียงฟังง่ายมากๆ มีคลังศัพท์แค่ระดับ 3-4 ก็ฟังได้

ข้อแนะนำ ฟังบนรถ หรือฟังตอนนอน จะทำให้ซึมซัมบทสนทนาได้ง่ายขึ้น ลองทำสักสัปดาห์จะรู้เลยว่าเราแต่งประโยคง่ายๆ ได้โดยไม่ต้องนึกเลย

ภาษาจีน

เป็นภาษที่มีสื่อการเรียนในยูทูปเยอะมาก จนเลือกไม่ถูกเลยว่า ควรเรียนคลิปไหนดี เราเลยจะมาแนะนำคลิปที่เข้าใจง่ายๆ ตอนที่เราเริ่มเรียนภาษาจีนกันดีกว่า

Mandarin Click

ช่องยูทูปที่สอนภาษาจีนระดับต้นจากเรื่องสั้นไม่เกิน 3 นาที ฟัง-พูดตามได้ง่ายมากๆ เพราะใช้ศัพท์แค่ hsk1-2 เท่านั้น อีกทั้งยังมีเฉลยข้อสอบฟังถึงระดับ 3 อีกด้วย  

ข้อแนะนำ ให้เริ่มทำตามวันละ 1-2 เรื่องก่อน ไม่ต้องรีบร้อนเกินไป พูดตามทีละประโยคจนครบ แล้วลองแต่งประโยคเองจากศัพท์ที่เราได้เรียนในวันนี้มาสัก 5 ประโยค จะทำให้นึกคำออกเวลาได้ใช้ภาษาจีนจริงๆ

ภาษาอังกฤษ  

English Coach Chad  

ช่องแรกที่ทำให้กล้าพูดภาษาอังกฤษ โค้ชจะอ่านให้เราฟัง 1 รอบแล้วให้เราพูดตาม 3 ครั้งในทุกๆประโยค เนื้อหาจะเข้าใจง่ายครอบคลุมทุกสถานการณ์ และมีคลิปสอนพูดเยอะมาก อัปคลิป 1 เดือน/ครั้ง แต่มาทีเดียวพร้อมกับคลิปใหม่ 5-6 คลิปเลย

ข้อแนะนำ พยายามดูรูปปากของแต่ละคำให้ชัดเจน เพราะจะทำให้ออกเสียงได้อย่างถูกต้องและง่ายขึ้น

Easy English

ที่สุดแห่งการอัปบ่อย ช่องนี้เหมาะสำหรับคนที่ลองทำ shadowing มาแล้วสัก 1-2 เดือนเป็นอย่างต่ำ เพราะคลิปค่อนข้างยาว แต่มีแบ่งหมวดหมู่เข้าใจง่าย และที่น่าสนใจก็คือ story ในเรื่องมีหลายอย่างที่แทรกประเด็นสังคมที่โลกกำลังติดตามอยู่เสมอ อาทิ ข่าวดารา ไอดอล หรือเกร็ดความรู้ที่อาจไม่เคยรู้มาก่อน เช่น อเมริกาก็มีเมืองชื่อปารีสด้วย แถมสำเนียงฟังง่ายแต่หลากหลายทั้งเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ เป็นอีกช่องที่อยากให้ทุกคนลองไปตามดูเลย

เทคนิคที่เราใช้แล้วก็มีประมาณนี้เลย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความมีวินัย และความสม่ำเสมอ ถ้าเพื่อนๆ อยากจะพูดให้เก่งขึ้นจริงๆ ก็ต้องทำทุกวัน ถึงแม้ว่ามันจะยากมากก็ตาม ไม่ต้องตึง ไม่ต้องฝืนเกินไป อย่าลืมความรู้สึกที่สนุกกับการเรียนไปโดยเด็ดขาดเลยนะ  

เพื่อนๆ เคยลองใช้เทคนิคกันมั้ย ถ้าใครเคยลองใช้ หรือวันนี้ลองกลับไปใช้ อย่าลืมมารีวิวตรงคอมเมนต์กันเยอะๆ เลยนะ