Spoil

  • คำว่า “Bromance” มาจาก "Brother" ผสมกับ "Romance"
  • Bromance ไม่ได้หมายถึงความสัมพันธ์แบบโรแมนติก แต่หมายถึงมิตรภาพดีๆ ของผู้ชาย
  • ผู้ชายเองก็สามารถแสดงด้านที่อ่อนไหวได้ ไม่จำเป็นต้องทำเป็นเข้มแข็งตลอดเวลา

สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com น้องๆ ที่เป็นคอหนัง คอซีรีส์น่าจะเคยได้ยินคำว่า ‘Bromance’ กันมาบ้างใช่ไหมละคะ และมีบางคนที่ไม่เข้าใจความหมายจริงๆ ของคำนี้ และคิดว่าเป็นคำที่เกี่ยวกับคู่จิ้น แต่จริงๆ แล้วความหมายของ bromance นั้นไม่ได้หมายถึงคนที่มีความสัมพันธ์โรแมนติกกันนะคะ แต่จะหมายถึงอะไรก็ตามมาอ่านกันเลย!

ภาพจาก freepik.com
ภาพจาก freepik.com

Bromance คืออะไร

ถึงแม้ว่าคำว่า “Bromance” จะเป็นคำผสมระหว่าง "Brother" และ "Romance" แต่ก็ไม่ได้หมายถึงความสัมพันธ์แบบโรแมนติก คำนี้เป็นคำแสลงที่หมายถึงมิตรภาพของผู้ชายที่สนิท และรักกันมากๆ และไม่จำเป็นต้องมีแค่ผู้ชายสองคน รักกันเหมือนพี่ชาย น้องชาย มีอีกชื่อนึงก็คือ Brotherhood และไม่ว่าจะมีรสนิยมทางเพศแบบไหน จะเป็นสเตรทหรือเป็นเกย์ก็มีความสัมพันธ์แบบโบรแมนซ์ได้ทั้งนั้น

โดยปกติแล้วคนจะมองว่าความสัมพันธ์ของกลุ่มเพื่อนผู้หญิงนั้นจะมีการซัพพอร์ตทางอารมณ์ และใกล้ชิดกันมากกว่า ในขณะที่ผู้ชายคนมักจะมองว่าแค่แลกเปลี่ยนกิจกรรมและความสนใจกัน ไปกินเหล้ากันเท่านั้น แต่ความจริงแล้วในความสัมพันธ์โบรแมนซ์นี้ ผู้ชายก็อ่อนไหวได้ และคอยดูแลกันเรื่องสภาพจิตใจและอารมณ์ได้เหมือนกัน แต่จะชอบมีหลายคนแซวว่าคบกันหรือเปล่าตลอด ทั้งที่ตอนผู้หญิงดูแลกันไม่เห็นจะโดนแซวแบบนี้เลย ซึ่งการที่ผู้ชายมีเพื่อนที่ซัพพอร์ตกันด้านใช้ชีวิตและอารมณ์ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยสักนิด แต่เพราะผลพวงจากชายเป็นใหญ่หรือปิตาธิปไตยเองก็ทำร้ายผู้ชายเหมือนกัน เลยทำให้เกิดค่านิยมว่าผู้ชายต้องเข้มแข็ง ผู้ชายต้องไม่ร้องไห้ ผู้ชายต้องแสดงออกมาไม่เป็นอะไรตามกรอบของสังคม 

ภาพจาก freepik.com
ภาพจาก freepik.com

มีความสัมพันธ์แบบ bromance ดียังไง?

ช่วยลดความเครียด

การมีเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขกับ มีคนที่สามารถแบ่งปันความรู้สึกได้ เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการลดความเครียด จากการวิจัยพบว่าการมีเพื่อนสนิทสามารถลดระดับของคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียดได้เยอะเลย

ได้เป็นตัวเอง

การได้อยู่กับเพื่อนที่เราสบายใจ จะทำให้เป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ เพราะไม่ต้องห่วงว่าจะโดนมองแปลกๆ หรือโดนมองว่าไม่เข้าพวก อยากเศร้าก็เศร้าได้โดยไม่ต้องกลัวโดนแซวว่าผู้ชายเขาไม่ร้องไห้หรอก

ดีต่อสุขภาพ

เมื่อโตขึ้น การมีเพื่อนที่สนิทกันก็ยิ่งสำคัญ เพราะจากการวิจัยพบว่า ผู้สูงอายุที่มีมิตรภาพที่ใกล้ชิดหรือมีกลุ่มเพื่อนที่ยังติดต่อกันเป็นประจำ จะมีโอกาสเป็นโรคสมองเสื่อมและโรคแทรกซ้อนทางจิตอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัยชราน้อยกว่าคนที่ไม่ได้ติดต่อกับใคร

คู่ Bromance จากหนัง

Buzz & Woody  

Toy Story  (
Toy Story  (Pixar Animation Studios)

เริ่มแรกมาก็เหมือนกับความสัมพันธ์ของคู่หูสุดคลาสสิคที่ตัวละครทั้งสองเกลียดกันในตอนแรก และในตอนท้ายกลับกบายเป็นเพื่อนกัน วู้ดดี้และบัซไม่ถูกกัน วู้ดดี้รู้สึกอิจฉาที่ตัวเองเหมือนจะถูกบัซเข้ามาแทนที่ในตำแหน่งของเล่นชิ้นโปรดของแอนดี้เพราะบัซดูมีลูกเล่นเยอะกว่า จนวันหนึ่งที่ทั้งสองถูกลืมไว้นอกบ้านอย่างไม่ได้ตั้งใจ เลยต้องหาทางกลับบ้านกันเอง ในระหว่างกลับบ้านนั้นก็ทำให้ทั้งสองได้ผจญภัยไปด้วยกัน ได้รู้จักกันมากขึ้น จนทำให้เกิดมิตรภาพดีๆ ขึ้นมา

Harry Potter & Ron Weasley 

Harry Potter  (
Harry Potter  (Warner Bros.)

ตอนที่ไปถึงฮอกวอตส์ เดรโก มัลฟอยได้พูดดูถูกรอนว่า "ผมแดง เสื้อคลุมที่ถูกส่งต่อกันมาแบบนี้ ต้องเป็นวีสลีย์แน่” แล้วบอกว่าแฮร์รี่ว่าเดี๋ยวก็จะรู้ว่าครอบครัวพ่อมดตระกูลไหนดีกว่าคนอื่น แต่แฮร์รี่ก็ได้ปกป้องรอนด้วยการปฏิเสธมิตรภาพเดรโก “ฉันแยกแยะได้เอง ขอบใจ”  เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ความเป็นเพื่อนของสองคนนี้พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว และถึงจะรู้จักกันได้ไม่นานมาก แต่รอนก็ยอมเสี่ยงชีวิตเล่นหมากรุกพ่อมดที่อันตรายมากๆ เพื่อช่วยเปิดทางให้เพื่อนอีกสองคนไปต่อได้ ไหนจะตอนที่รอนยอมเสี่ยง แอบเอารถฟอร์ดแองเกลียบินได้ของพ่อไปพาแฮร์รี่ที่โดนป้าขังไว้ในบ้านหนีออกมาเพื่อพากลับฮอกวอตส์อีก แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ของสองคนนี้แน่นแฟ้นมากๆ จนยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อกันได้เลยทีเดียว

Sherlock Holmes & John H. Watson

Sherlock (BBC)
Sherlock (BBC)

เชอร์ล็อก โฮล์มส์ต้องการรูมเมท และหมอวัตสันเองก็กำลังหาห้องเช่าอยู่พอดี หลังจากที่ได้มาหารค่าเช่ากันอยู่ เชอร์ล็อกก็ลากคุณหมอวัตสันไปไหนมาไหนด้วยตลอด เพราะวัตสันใช้ความรู้ทางการแพทย์ช่วยสืบสวนได้ จากความสัมพันธ์ของคนหารค่าเช่ากันก็ขยับมาเป็นเพื่อนที่ขาดกันไม่ได้ ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ต้องไปด้วยกัน  เป็นคู่หูที่ขาดกันไม่ได้เลยละค่ะ

 

สุดท้ายนี้พี่ป่านก็อยากย้ำว่าผู้ชายก็อ่อนไหวได้ และคอยดูแล เป็นห่วงเป็นใยกันได้เหมือนกัน การที่ผู้ชายมีเพื่อนที่ซัพพอร์ตกันด้านใช้ชีวิตและอารมณ์ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยสักนิด การดูแลเอาใจใส่กันไม่ได้ทำได้แค่คู่รัก พี่ป่านคิดว่าการมีเพื่อนที่สามารถคุยได้ด้วยทุกเรื่อง มีเพื่อนที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นพี่เป็นน้องกันนั้นทำให้สบายใจสุดๆ เลยนะ ทุกคนคิดเหมือนกันไหมคะ?

 

 

ข้อมูลอ้างอิงhttps://mensgroup.comhttps://www.liveabout.comhttps://www.psycom.net
พี่ป่าน
พี่ป่าน - Columnist คอลัมนิสต์มือใหม่ที่ชอบดูอนิเมะและฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น