5 อาหารที่คนแพ้เยอะที่สุด พร้อมอาการ และการดูแลตัวเองเมื่อต้องรับประทานอาหารนอกบ้าน!

Spoil

  • การแพ้อาหาร คือการที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำปฏิกิริยากับอาหารบางชนิดผิดปกติ
  • อาการแพ้นม 90% มักพบในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 3 ปี และอาการนี้จะหายได้เมื่อโตขึ้น
  • ส่วนใหญ่แล้วคนที่มีอาการแพ้ไข่ มักจะแพ้ไข่ขาวมากกว่าไข่แดง

สวัสดีน้อง ๆ ชาว Dek-D.com ทุกคนนะคะ  เมื่อวันก่อนพี่เห็นข่าวเรื่องการแพ้อาหาร วันนี้พี่เลยได้รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับการแพ้อาหารมาให้น้อง ๆ  ได้อ่านค่ะ รับรองว่าความรู้แน่น! สำหรับใครที่มีอาการแพ้อาหาร หรือมีคนรอบตัวแพ้อาหาร บอกเลยต้องอ่านบทความนี้! 

แพ้อาหาร คืออะไร? 

ภาพจาก freepik.com
ภาพจาก freepik.com

การแพ้อาหาร คือการที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำปฏิกิริยากับอาหารบางชนิดอย่างผิดปกติ แม้ว่าอาการแพ้ส่วนใหญ่จะไม่รุนแรง แต่ก็สามารถร้ายแรงได้ในอนาคต อาการแพ้อาหารสามารถส่งผลกระทบต่อส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ในเวลาเดียวกัน อาการที่พบได้ทั่วไป ได้แก่ อาการคันภายในปาก คอหรือหู

5 อาหารที่มีคนแพ้มากที่สุด 

ภาพจาก freepik.com
ภาพจาก freepik.com

1. นม 

อาการแพ้นม 90% มักพบในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 3 ปี และอาการนี้จะหายได้เมื่อโตขึ้น ซึ่งอาการทั่วไปของคนที่แพ้นม  คือ  ท้องเสีย และอาการอื่น ๆ ที่พบ คือ ปากบวม รู้สึกแสบร้อนในช่องปาก มีผื่นขึ้น สำหรับคนที่มีอาการแพ้อย่างรุนแรงเฉียบพลัน อาจทำให้หลอดลมบวมจนปิดกั้นระบบทางเดินหายใจ จนเสียชีวิตได้

สำหรับอาหารที่คนแพ้นมควรหลีกเลี่ยง ได้แก่  นมผง ชีส เนย โยเกิร์ต วิปครีม ไอศกรีม หรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ผสมนม  

2.  ไข่

ไข่เป็นส่วนประกอบที่อยู่เกือบในทุกอาหาร แต่น่าเสียดายที่มีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่มีอาการแพ้ไข่ บางคนที่มีอาการแพ้ไข่อาจจะเกิดจากพันธุกรรม  ส่วนใหญ่แล้วอาการแพ้ไข่มักจะพบอาการแพ้ทางผิวหนังบ่อยกว่าระบบอื่น ๆ  เช่น ผิวหนังบวม เป็นลมพิษ ผื่นแดง หรือผิวหนังอักเสบ แต่ก็พบอาการแพ้จากระบบทางเดินอาหารด้วยเช่นกัน เช่น   ปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ และอาเจียน เป็นต้น

ส่วนใหญ่แล้วคนที่มีอาการแพ้ไข่ มักจะแพ้ไข่ขาวมากกว่าไข่แดง  หรือบางคนแพ้เฉพาะไข่ดิบหรือไข่ที่ยังสุกไม่ดี เช่น ไข่ในน้ำสลัดครีม ไข่ลวก ไข่ในโจ๊ก เป็นต้น 

3.  ถั่วลิสง

ส่วนใหญ่แล้วคนที่แพ้ถั่วลิสงมักจะมีอาการแพ้ถั่วเปลือกแข็งชนิดอื่น ๆ ด้วย เช่น  อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ พิซตาชิโอ วอลนัท  ซึ่งอาการแพ้ถั่วลิสงนั้นค่อนข้างรุนแรงและอันตรายต่อชีวิต

  อาการทั่วไปของคนที่แพ้ถั่วลิสง  คือ  ผิวหนังเป็นตุ่มบวม คันตามผิวหนัง ใบหน้าและลำคอบวมขึ้น อาเจียน หายใจไม่ออก ปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน  ซึ่งถือว่าเป็นอาการแพ้ที่ค่อนข้างรุนแรง  ฉะนั้นน้อง  ๆ คนไหนที่มีอาการแพ้ถั่วลิสง ต้องระวังในเรื่องของการทานอาหารมาก ๆ

4.  ถั่วเหลือง 

ถั่วเหลืองเป็นถั่วที่เด็กไทยมีอาการแพ้มากที่สุด! ส่วนอาการแพ้ถั่วเหลือง จะมีตั้งแต่อาการคันปาก น้ำมูกไหล ไปจนถึงผื่น หอบหืด หรือหายใจลำบาก  ซึ่งคนที่มีอาการแพ้ถั่วเหลืองไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงถั่วทุกชนิด  เช่น ถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วลิสง เพราะอยู่คนละกลุ่มกัน  แต่ควรปรึกษาแพทย์ว่าสามารถทานถั่วชนิดได้บ้าง

ถั่วเหลืองเป็นถั่วที่มีประโยชน์เยอะมาก ทำให้อาหารหลาย ๆ  อย่างมีส่วนผสมของถั่วเหลือง  เช่น นมถั่วเหลือง หรือซีอิ๊ว ถ้าน้อง ๆ คนไหนมีอาการแพ้ถั่วเหลือง  แนะนำว่าให้อ่านฉลากอาหารก่อนทุกครั้ง ว่ามีส่วนผสมของถั่วเหลืองไหม จะได้หลีกเลี่ยงอาการแพ้ที่จะตามมาในภายหลัง  

5.สัตว์ทะเลที่มีเปลือก 

การแพ้สัตว์ทะเลที่มีเปลือก เกิดจากการที่ร่างกายของของเราต่อต้านโปรตีนจากตระกูลสัตว์น้ำที่มีเปลือกแข็ง  เช่น กุ้ง  หอย  ปู และปลาหมึก  แต่จะไม่แพ้ปลาทะเลเนื่องจากสารก่อภูมิแพ้แตกต่างกัน ส่วนใหญ่คนที่แพ้สัตว์ทะเลที่มีเปลือกมักจะมีอาการแพ้ที่รุนแรง และเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว  บางคนจะมีการตอบสนองถึงแม้จะสัมผัสแค่ไอน้ำ หรือควันจากอาหารทะเลที่ปรุงแล้ว

ซึ่งอาการทั่วไปของที่แพ้สัตว์ทะเลมีเปลือก มักจะมีอาการแน่นหน้าอก ผื่นขึ้น เป็นลมพิษ มีอาการบวมที่ตา หน้า ลิ้น ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน และถ้าหากใครมีอาการแพ้ขั้นรุนแรง จะมีอาการชีพจรเต้นเร็ว ความดันโลหิตลดลงอย่างรวดเร็ว วิงเวียนศีรษะ มีอาการช็อก หายใจลำบา ถ้าหากเกิดอาการแบบนี้ควรรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดเพื่อเข้ารับการรักษา 

เราจะรู้ตัวเองได้ไง ว่าเราแพ้อาหาร? 

มีหลายคนมาก ๆ ที่ไม่รู้ว่าตัวเองแพ้อาหาร  เพราะอาการแพ้ที่แสดงออกมาไม่รุนแรง  ซึ่งโดยปกติแล้วอาการแพ้อาหารจะเกิดขึ้นภายในไม่กี่นาทีไปจนถึง 2, 4 และ 6 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหาร  และอาการที่แสดงออกมาจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน  ซึ่งอาการแพ้นั้นจะแสดงออกตามระบบของร่างกาย 4 ระบบ ดังนี้  

  • อาการทางผิวหนัง เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุด เช่น ลมพิษฉับพลัน ตาบวมปากบวม ผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบ ผื่นแพ้จากการสัมผัส
  • อาการทางระบบทางเดินอาหาร เช่น อาเจียน ท้องเสียเรื้อรัง อุจจาระมีเลือด เลือดออกในทางเดินอาหาร เป็นต้น
  • อาการทางระบบทางเดินหายใจ เช่น คัดจมูก น้ำมูกเรื้อรัง ไอ หายใจไม่สะดวก หอบ
  • อาการทางระบบหัวใจและหลอดเลือด เช่น หน้ามืด เป็นลม หมดสติ

ความรุนแรงของการแพ้อาหารนั้นสังเกตได้จาก ระยะเวลาหลังจากทานอาหารเช้าไป ยิ่งเกิดขึ้นเร็ว หรือเกิดขึ้นพร้อมกันหลายระบบในร่างกาย แสดงว่าเป็นอาการแพ้อาหารรุนแรงที่ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจทำให้เสียชีวิตได้

เผลอรับประทานอาหารที่แพ้เข้าไป จะทำยังไงดี? 

บางครั้งเราเองอาจจะไม่ทันระวังตัว เผลอไปรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมที่เราแพ้  ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมา เราจะแก้ปัญหายังไงดีล่ะ? 

  • ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อที่จะได้ปัสสาวะออกมา
  • ล้วงคอให้อาเจียนออกมา
  • ใช้ยาแก้แพ้
  • ถ้าแพ้เฉียบพลัน ต้องรีบไปโรงพยาบาล

การดูแลตัวเองเมื่อเราต้องไปทานอาหารนอกบ้าน 

การรับประทานอาหารนอกบ้านนั้น เป็นเรื่องที่น่ากลัวสำหรับคนแพ้อาหารมากค่ะ  เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าเขาใส่ใจกับอาการแพ้อาหารของเรามากแค่ไหน แต่เราสามารถดูแลตัวเองและระมัดระวังตัวเองได้ เมื่อไปรับประทานอาหารนอกบ้าน ตามวิธีข้างล่างเลยค่ะ!  

ภาพจาก freepik.com
ภาพจาก freepik.com

ถามพนักงานร้านอาหารว่าพวกเขาจัดการกับอาการแพ้อาหารอย่างไร

ข้อนี้เป็นข้อที่สำคัญมากค่ะ คนที่มีอาการแพ้อาหารควรสอบถามทางร้านอาหารว่า  ได้สอนพนักงานในร้านเรื่องการรับมือกับคนที่มีอาการแพ้อาหารไหม? มีวิธีรับมือยังไง?  เพื่อดูความพร้อมว่าเขาสามารถดูแลเราได้ไหม หากเราเกิดอาการแพ้อาหาร 

พูดคุยเกี่ยวกับวิธีการเตรียมอาหารเพื่อที่จะได้หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ที่ซ่อนอยู่

สำหรับคนที่แพ้อาหารนั้น ต้องระมัดระวังเรื่องอาหารเป็นอย่างมาก เมื่อไปรับประทานอาหารข้างนอก อาจจะต้องมีการสอบถามเพื่อความปลอดภับของตัวเราเอง เช่น ใช้น้ำมันอะไรในการปรุงอาหาร  ในอาหารจานนี้มีส่วนผสมของอะไรบ้าง เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของอาหาร การสอบถามเป็นสิ่งที่สำคัญค่ะ และควรบอกให้แน่ชัดไปเลยว่าเราต้องการอะไรแบบไหน เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง  

หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่ร้านอาหาร หากพนักงานรู้สึกไม่สบายใจกับคำขอของคุณ

หากเราไปรับประทานอาหารข้างนอกบ้าน แล้วทำตามสองข้อข้างบนแต่พนักงานมีอาการไม่พอใจ หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่เราขอ แนะนำว่าให้เปลี่ยนร้านอาหารจะดีที่สุดค่ะ 

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพนักงานที่รับออเดอร์สื่อสารโดยตรงกับพนักงานในครัวเรียบร้อยแล้ว

 เมื่อสั่งอาหารเสร็จแล้ว ลองถามพนักงานที่รับออเดอร์ของเราอีกครั้งว่าได้พูดคุยและย้ำกับพนักงานในครัวแล้วใช่ไหม? หากคุณไม่แน่ใจ อาจจะลองขออนุญาตทางร้านเพื่อเข้าไปคุยกับพนักงานในครัวโดยตรงก็ได้ค่ะ 

เลือกเวลารับประทานอาหารช่วงที่คนไม่พลุกพล่านเกินไป

การเลือกรับประทานอาหารในเวลาที่คนไม่พลุกพล่าน  จะทำให้การรับออเดอร์ค่อนข้างแม่นยำ  คนทำอาหารเขาจะไม่สับสน และไม่เผลอใส่ส่วนผสมที่เราแพ้ลงไปในอาหารนั่นเองค่ะ  แต่ยังไงก็ต้องย้ำอยู่ดีนะคะ! 

พกยาแก้แพ้ติดตัวเสมอ 

การพกยาแก้แพ้เป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดค่ะ! ถึงแม้ว่าเราจะทำตามทุกข้อด้านบนแล้ว แต่ก็อาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันได้เสมอ ฉะนั้นการพกยาแก้แพ้ติดตัวไว้ เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ๆ  ค่ะ 

 

พี่หวังว่าน้อง ๆ ทุกคนที่มีอาการแพ้อาหาร จะระมัดระวังตัวเองในการรับประทานอาหาร และมีสติอยู่เสมอ อย่าเผลอกินอาหารที่เราแพ้เชียวล่ะ เดี๋ยวจะแย่เอานะ!  

 

ข้อมูลจาก https://www.healthline.com/nutrition/common-food-allergies#types-of-food-allerghttps://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/egg-allergy/symptoms-causes/syc-20372115 https://www.webmd.com/allergies/eating-out-food-allergies https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/milk-allergy/symptoms-causes/syc-20375101 https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/food-allergy/symptoms-causes/syc-20355095 https://www.medicinenet.com/what_are_the_four_types_of_allergic_reactions/article.htm

 

พี่หมิวหมิว
พี่หมิวหมิว - Columnist นักเขียนมือสมัครเล่น เป็นคนใช้ชีวิตไปวันๆ เพราะใช้ทีละสองวันไม่ได้

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น