ต้องลอง! ฟัง “เพลงคลาสสิก” ช่วยให้ความจำดีขึ้น

มีใครที่เคยอ่านหนังสือไปแล้วฟังเพลงไปด้วยบ้าง? เดาว่าน่าจะมีเยอะเลยแหละ จากที่พี่อ้างอิงข้อมูลจากงานวิจัยในคำพูดข้างบนไป เพราะอย่างพี่เองก็ฟังเพลงไปด้วยตอนทำงานเหมือนกัน

แล้วถ้าทุกคนฟัง เพื่อนๆ ฟังเพลงแนวไหนกัน.. เป็นแนวป๊อปทั่วไป แนวฟังสบายๆ หรือจะเป็น Lo-Fi ที่เป็นที่นิยมไปทั่วโลกจนเป็น เพลย์ลิสต์อ่านหนังสือ (Study Playlist) ที่มีคนใช้ฟังกันทั่วโลกเพื่อให้ตัวเองมีสมาธิจดจ่อมากยิ่งขึ้น

แต่แล้วถ้าเราจะคาดหวังผลลัพธ์ล่ะ “เพลงแนวไหนที่จะช่วยเรื่องการเรียนได้ดีที่สุด” คำตอบนี้มีในต่างประเทศเขามีการศึกษากันมาให้แล้ว และเขาบอกว่า “เพลงคลาสสิก ช่วยในเรื่องความจำได้ดี” ซึ่งก่อนที่เราจะไปค้นหาว่า เพลงแนวนี้ทำไมมันถึงได้ตอบโจทย์เรื่องการจำหนังสือเนี่ย เราก็ต้องมารู้จักก่อนว่ามันคืออะไร เดี๋ยวพี่แทนนี่จะเล่าให้ฟังฮะ..

แล้ว “เพลงคลาสสิก” คืออะไร

นิยามของ “ดนตรีคลาสสิก” คือเพลงที่บรรเลงด้วยเครื่องดนตรีทางตะวันตกเป็นหลัก ส่วนใหญ่จะบรรเลงโดยเปียโน เป็นเพลงบรรเลง ไม่มีเนื้อร้อง  การดำเนินเพลงแบ่งเป็นตอนย่อย มีความไหลลื่นและมี mood ความผ่อนคลาย

ฟังแล้ว สมองฟิต สตาร์ทติดง่าย ?

เพลงคลาสสิกนั้นมีหลากหลายงานวิจัย ที่ออกมาสนับสนุนว่าสามารถช่วยในเรื่อง ความจำและการเก็บข้อมูลลงใส่สมอง ซึ่งในหลายงานวิจัยนั้น เพลงคลาสสิกให้ผลที่ดีอย่างมากในเรื่องของความจำ โดยปัจจัยที่ทำให้เพลงคลาสสิกช่วยเรื่องความจำได้หลักๆ สรุปจากงานวิจัยก็จะมีดังนี้เลย!

เป็นเพลงที่ไม่มีเนื้อร้อง

บางครั้งการที่เราฟังเพลงที่มีเนื้อร้องตอนอ่านหนังสือ แล้วดันเป็นเพลงที่ร้องได้อีก เหมือนปากมันจะขยับไปได้เองเลยนะ ผลคือเราจะร้องเพลงไปอ่านไป ซึ่งนั่นทำให้เราไม่ได้จดจ่อกับตัวหนังสือที่อ่านนั่นเอง

ฟังแล้วผ่อนคลาย

เป็นเพลงจังหวะช้าๆ บรรเลง ฟังสบาย ลื่นหู ซึ่งเป็นลักษณะกายภาพของเพลงคลาสสิกเดิมอยู่แล้ว แต่ในเพลงแนวอื่นก็มีเช่นกัน โดยสามารถไปฟังทางแนวอย่าง Lo-Fi หรือ Ambient ก็ได้เช่นกัน ช่วยให้สมองไม่ทำงานหนักเพื่อแยกประสาทการฟังและการอ่านมากเกินไป

แนวเพลงที่เครื่องดนตรีประสานเสียงกันลงตัว

ในหมวดดนตรีคลาสสิกนั้นขึ้นชื่อเรื่องการสอดประสานของเครื่องดนตรีนานาชนิด ที่ฟังแล้วรู้สึกไม่ขัดหูจนเกิดความหงุดหงิดใจ แถมมีเรื่องของจังหวะที่บรรเลงไปเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน ทำให้ฟังแล้วรู้สึกเพลิน มากกว่าจะเป็นการตั้งใจฟังเพลง

แล้ว “ไม่ฟังเพลงเลย” มันไม่ดีกว่าเหรอ?

ในงานวิจัยของ Anderson และ Fuller เมื่อปี 2010 เนี่ยได้ทดลองและได้ข้อสรุปว่า "การไม่ได้ฟังอะไรเลย (เงียบ) เนี่ยก็ไม่ได้มีผลดีหรือเสียกับความจำอะไร" เฉยๆ กลางๆ มากกว่า 

ด้วยปัจจัยทั้งหมดข้างบนนี้ เป็นตัวสนับสนุนทำให้เพลงคลาสสิกนั้นเป็นตัวเลือกที่ดีในการใช้ฟังตอนอ่านหนังสือ ขนาดหลากหลายช่องบน Youtube ก็ทำเพลย์ลิสต์อ่านหนังสือไว้ให้ทุกคนเข้าไปฟังกันเยอะแยะเลย บางช่องมีเป็นเหมือนคลื่นวิทยุเปิดเป็น Live เลยด้วย หรือในพวก Streaming แอปฟังเพลงก็จะมีจัดเพลยลิสต์ให้ไว้สำหรับอ่านหนังสือ รวมเพลงคลาสสิกให้อยู่บ่อยๆ เป็นการทำให้เราโฟกัสได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง

• น้องที่อยากเข้าไปลองฟัง.. คลิกเลย

สำหรับพี่เอง พี่ก็ฟังเพลงตอนอ่านหนังสือมาตั้งแต่ช่วงเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว เพราะรู้สึกว่ามันทำให้เราไหลไปกับตัวหนังสือได้ง่ายขึ้น ยิ่งเวลาไปอ่านตามคาเฟ่ หรือ Co-working space ข้างนอกอะไรแบบนี้ การหาหูฟังสักอัน แล้วเปิดเพลงเนี่ยมันช่วยตัดเสียงรบกวนจากรอบนอกได้ด้วยแหละ

แล้วทุกคนล่ะครับ คิดเหมือนพี่มั้ย มาแชร์กันได้นะ! พี่เองก็อยากหาแนวร่วมเหมือนกันว่ามีใครเขาฟัง Mozart ตอนอ่านหนังสือนอกจากพี่อีก (ฮ่าๆ)