Alyn Wee ส่งเพลง “เลิกรักเขาทีเถอะ” เป็นกำลังใจให้คนที่รักเขาแต่เขาไม่รัก พร้อมเปิดตัวตนที่หลายคนไม่รู้มาก่อน!

Spoil

  • เพลง "เลิกรักเขาทีเถอะ" เป็นเพลงที่ถ่ายทอดจากมุมมองของคนนอกที่มองเห็นได้ชัดกว่า
  • ทุกๆ เพลงที่อลินแต่งขึ้นมา ต้องการให้เป็นการบันทึกช่วงเวลาที่รู้สึกแบบนั้น
  • ความฝันในลำดับต่อไปคืออยากมีโอกาสได้ร้องเพลงให้คนหลายๆ ประเทศได้ฟัง

สวัสดีค่ะชาว Dek-D ทุกคน วันนี้พี่ซาร่ามีโอกาสได้พูดคุยกับ Alyn Wee (อลิน วี) หนุ่มหล่อเสียงดีที่แต่งเพลงเพราะๆ มาแล้วมากมาย ในโอกาสที่เพิ่งปล่อยซิงเกิลล่าสุด “เลิกรักเขาทีเถอะ” ในอัลบั้ม Alyn ซึ่งเป็นอัลบั้มเต็มของเขาเองด้วย โดยเพลงนี้เป็นเพลงความหมายดีส่งท้ายปี 2021 เลยล่ะค่ะ เพราะพี่ซาร่าคิดว่าหลายๆ คนที่ได้ฟังเพลงนี้ หากมีโอกาสได้รีวิวช่วงชีวิตตัวเองในช่วงปีที่กำลังจะผ่านพ้นไปคงตัดสินใจออกจากความสัมพันธ์พังๆ แล้วเริ่มต้นใหม่ได้อย่างมีความสุขแน่นอน 

และนอกจากซิงเกิลใหม่ที่นำมาฝากกันแล้ว เรายังมีโอกาสได้รู้จักกับ Alyn ให้มากขึ้นกันด้วย มาดูกันว่าเบื้องหลังเพลงเพราะๆ ของอลิน มีอะไรให้เราค้นหาตัวตนเขาบ้าง

“เลิกรักเขาทีเถอะ” – เพลงที่ถ่ายทอดจากสายตาของ “คนนอก”

“สวัสดีครับ ผมอลินนะครับ เป็นศิลปินจากค่าย LOVEiS ครับผม ตอนนี้มีผลงานเพลง “เลิกรักเขาทีเถอะ (Please Stop)” เป็นซิงเกิลที่ 4 ของอัลบั้ม Alyn ครับ เพลงนี้เป็นเพลงที่เล่าจากมุมมองของคนนอก ที่คอยห่วงใยคนคนหนึ่งอยู่เสมอ เพราะบางทีความรักอาจบิดเบือนมุมมองของใครคนหนึ่งอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่มีเพียง “คนนอก” เท่านั้นที่จะมองเห็นความจริงครับ”

ครอบครัวผมมีแต่เสียงเพลงมาโดยตลอด

ความที่คุณพ่อชอบฟัง The Beatles มาก อลินจึงโตมากับเสียงเพลง ส่วนใหญ่เป็นเพลงสากลเนื่องจากคุณพ่อเป็นชาวสิงคโปร์ ทุกคนที่บ้านชอบเพลง จึงถูกปลูกฝังและซึมซับเรื่องของเสียงเพลงมาโดยตลอด

“ในบ้านจะมีแต่เสียงเพลงแจมกันตลอด คุณพ่อชอบฟัง The Beatles พี่ชายก็เล่นกีตาร์ ผมก็ชอบดนตรีมาตั้งแต่เด็ก พอเริ่มโตก็เริ่มอยากแต่งเพลงของตัวเอง ปล่อยเพลง ทำเพลงครับ inspiration จริงๆ จะเป็นภาษาอังกฤษเป็นหลักครับ เพราะใช้สองภาษามาตั้งแต่เด็ก พูดภาษาอังกฤษกับคุณพ่อ ใช้ภาษาไทยกับคุณแม่ แต่สำหรับโปรเจ็กต์ล่าสุดนี้จะเป็นเพลงภาษาไทยครับ”

ถึงอย่างนั้น ก็มีเพียงอลินที่มีอาชีพศิลปินเต็มตัวในขณะนี้

อลินเล่าว่าช่วงมัธยมเรียนโรงเรียนอินเตอร์ที่จังหวัดระยอง มีเพื่อนเป็นชาวต่างชาติเยอะ สังคมเพิ่งมาเปลี่ยนไปตอนเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปคือเขายังรักในเสียงเพลงอยู่เสมอ

“ตอนมัธยมก็มีฟอร์มวงกับเพื่อนขึ้นมาเล่นสนุกๆ แต่ไม่ได้มีภาพชัดว่าเราอยากเป็นศิลปิน แค่รู้ว่าเราชอบเพลงมากๆ แล้วก็อยากทำมัน ไม่ว่าจะเป็นอาชีพหรือแค่งานอดิเรกครับ รู้แค่อยากทำ”

และถึงแม้ว่าครอบครัวจะให้อิสระในการใช้ชีวิตอย่างมาก มีเพียงเรื่องการเรียนที่ขอให้เรียนจบเท่านั้น ส่วนเรื่องแพชชัน ไม่ว่าลูกอยากทำอะไร ครอบครัวพร้อมสนับสนุนเต็มที่ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีเพียงอลินที่เลือกเส้นทางศิลปินเต็มตัว และเขาก็ทำได้ดีมากด้วย

“คุณพ่อชอบเพลง ชอบเล่น ชอบร้อง แต่ไม่ได้ทำอาชีพเกี่ยวกับดนตรี ครอบครัวผมสนับสนุนเต็มที่มากๆ ครับ พี่ชายก็เล่นกีตาร์ ทุกคนรักในเสียงดนตรีเฉยๆ แต่ไม่ได้ทำเป็นอาชีพครับ”

ใช้เวลาเกือบ 5 ปี กว่าที่เพลงแรกของอลินจะพร้อมให้ทุกคนฟัง

จากความชอบฟังเพลงและชอบร้องเพลง อลินเริ่มหัดร้องเพลงตอนอายุประมาณ 15-16 ปี และตอนนั้นเองที่เขารู้สึกว่าอยากแต่งเพลงเอง อยากมีเพลงของตัวเอง โดยอลินมีโอกาสได้ร่วมแสดงซิทคอมเรื่อง “ครัวซองทำนองรัก” และได้แต่งเพลงประกอบซิทคอมหลายเพลงด้วย แต่กว่าจะได้ปล่อยเพลงที่นับว่าเป็นของตัวเองจริงๆ ออกมา ก็ใช้เวลาไปเกือบ 5 ปีทีเดียว

“ที่ทิ้งช่วงนานเพราะฝึกแต่ง ฝึกร้องมาเรื่อยๆ ยังรู้สึกว่ายังไม่พร้อม พอประมาณอายุ 20 ปีก็รู้สึกว่าพร้อมแล้ว แล้วก็ทำเพลงเสร็จ แต่งเพลง produce เรียบร้อย ทำมิวสิควิดีโอเพลงแรก ตอนนั้นเป็นตอนที่เปิดชาแนล Alyn Wee เพลงแรกที่ลงชาแนลคือ “ย้อนเวลา” กับ “Addicted” ผมปล่อยสองเพลงพร้อมกันเลยครับ เป็นเพลงอังกฤษกับเพลงไทย”

ทุกเพลงเป็นความทรงจำ เป็นการบันทึกช่วงเวลาชีวิต

หลายคนเปิดชาแนลเพื่อรายได้หรือชื่อเสียง แต่อลินหวังเพียงให้ชาแนล Alyn Wee เป็นไดอารีของเขา โดยการเปิดชาแนลของอลินและลงเพลงที่แต่งเองทั้งหมดในเวลานั้น ไม่ได้คาดหวังให้โด่งดังอะไร แต่เพราะภูมิใจในผลงาน และต้องการบันทึกไว้เป็นความทรงจำ

“ตอนนั้นก็ไม่ได้คาดหวังให้มันโด่งดังอะไรครับ แต่เราภูมิใจกับผลงานของเรา แล้วอยากปล่อยออกไปเป็นความทรงจำที่เรามี เวลาที่ปล่อยเพลง ผมรู้สึกว่าทุกเพลงเป็นเหมือนการบันทึกช่วงเวลาช่วงนั้นที่เรารู้สึกแบบนั้น แล้วเราก็แต่งเพลงออกมา เราแค่รู้สึกว่าเราทำเพลงที่เราชอบในช่วงเวลานั้นครับ”

และแน่นอนว่าแต่ละเพลงที่อลินแต่ง คนที่ได้รับเกียรติชื่นชมเป็นคนแรกก็คือคนในครอบครัว

“คนแรกที่ได้ฟังเพลงก็ไม่พ้น พ่อ แม่ พี่ชาย ครับ พวกเขาก็จะมีฟีดแบ็กมาบ้าง แต่ส่วนมากก็จะอวยกันมากกว่า (หัวเราะ) แบบ โอ๊ย! ดีจังเลยลูก คือเค้าจะชอบอะไรก็ตามที่เราทำ เค้าชอบหมดครับ”

เพลงของอลินพิเศษตรงที่ ทำนองมักจะมาก่อนเนื้อร้อง

อลินเล่าว่าคนแต่งเพลงบางคนเขาจะเขียนเรื่องที่เขาต้องการจะสื่อก่อน แล้วจึงนำมาใส่ทำนองทีหลัง แต่เพลงในแบบของอลินนั้นต่างออกไป อลินซีเรียสเรื่องทำนอง เกือบจะทุกๆ เพลงจะเริ่มจากทำนองที่ชอบมาก่อน แม้ตอนที่เริ่มแต่งทำนองจะมีเนื้อเพลงบางส่วนมาด้วยแล้ว แต่ก็เป็นเพียงเนื้อเพลงที่ฟังดูสละสลวยสำหรับเขาเท่านั้น ยังไม่ได้เป็นเรื่องราวที่ต้องการจะเล่าจริงๆ

“เพลงเกือบทุกเพลงของผมทำนองจะมาก่อนครับ แล้วเนื้อจะมาพร้อมทำนอง แต่ผมไม่ได้คิดเรื่องราว แต่เป็นการพูดหรือร้องเนื้อที่ไม่ได้มีความหมายอะไร แล้วผมค่อยมาหาความหมายจากเนื้อที่ผมร้องมามั่วๆ ทีหลัง ก็เป็นแบบนี้มาสักพักนึงเลยที่เราจะเน้นทำนองเพลง”

อลินออกตัวว่า เป็นเพราะก่อนหน้านี้เขาไม่ได้มีประสบการณ์ที่จะเล่ามากนัก อาจจะด้วยวัยที่อายุยังน้อย เขารู้สึกว่าเรื่องที่จะนำมาเล่านั้นยังมีไม่พอ เนื้อร้องในเพลงจึงมาทีหลังทำนองที่เขาชอบ และบางทีเรื่องที่จะเล่าในเพลงก็ไม่ใช่เรื่องของเขาด้วย แต่เป็นการได้ยินได้ฟัง ได้ใกล้ชิดกับคนที่มีประสบการณ์เหล่านั้น

“จริงๆ ผมเองก็ไม่ได้มีประสบการณ์ความรักมากมายเลยครับ แต่ก็มีหลง มีชอบ มีผิดหวังเหมือนทุกๆ คนครับ เราก็แค่นำเสนอความรักที่เราผ่านมาในเพลงในหลายๆ มุม ผมก็เชื่อว่าหลายๆ คนจะมีความรู้สึกแบบเดียวกัน”

และถึงแม้ว่าที่ผ่านมาภาพจำ Alyn Wee จะเป็นเพลงเศร้า แต่ที่จริงอลินยังพยายามทำเพลงที่หลากหลาย ทั้งเพลงเร็ว เพลงร็อค เพลงเศร้า และเพลงสดใส ในอนาคตก็อาจจะได้เห็นอลินในแนวเพลงอื่นๆ ด้วย

“ผมก็เริ่มจะเบื่อเพลงช้าแล้วเหมือนกัน อาจจะได้เห็นแนวมู้ดแฮปปี้มากขึ้นครับ” อลินกล่าวทิ้งท้าย

ไม่ได้ติสต์ และติดที่เป็นคนเขินอายมาก่อน

ภาพลักษณ์แรกที่เราได้เห็นอลินคือหนุ่มที่มีสไตล์ชัดเจนทั้งแฟชั่นและการร้องเพลง อลินเล่าว่า สไตล์การแต่งตัว ทรงผม ในตอนนั้นอาจทำให้อลินดูเหมือนเป็นคนนิ่งๆ ที่เข้าถึงได้ยาก แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่เลย ออกจะเขินอายด้วยซ้ำ

“ผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นยังไงเหมือนกันนะ แต่ผมก็ชอบสังสรรค์ พูดคุย ชอบอยู่กับคนนะครับ ไม่ได้เป็นคนติสต์หรือเงียบๆ อย่างที่คนเข้าใจกัน แต่มันอาจจะมีติดเขินติดอายแบบเมื่อก่อน ทำให้ถูกมองแบบนั้น หรืออาจจะเพราะผมมีสไตล์การแต่งตัว ทรงผม ที่มันดูทำให้เหมือนติสต์ เข้าถึงยาก จริงๆ เป็นคนนิ่งๆ แต่ก็เข้าได้กับทุกคนครับ”

การเจอเพื่อนที่ดี เป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาก

จากที่ได้คุยกับอลิน พี่ซาร่าคิดว่า “บิลลี่” (บิลลี่ Tilly birds) เป็นมากกว่าเพื่อนสนิทแล้ว (ฮ่าๆ) บิลลี่เป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีมากสำหรับการทำเพลงของอลิน บิลลี่อยู่เบื้องหลังหลายๆ ผลงาน แม้กระทั่งเพลง “เลิกรักเขาทีเถอะ” ซิงเกิลล่าสุดนี้บิลลี่ก็เป็น Producer ให้อลินด้วย

“ครั้งแรกที่เจอกันคือผมจัดคอนเสิร์ตการกุศลแล้วก็ชวนวง Tilly birds มาเล่น แล้วก็เลยได้เจอบิลลี่ตอนนั้น บิลลี่ก็ชวนผมทำ cover ลงช่องเค้า ก็เลยสนิทกัน เราทำ cover หลายเพลงมากๆ ในช่องบิลลี่ มีร่วมงานกันมาเรื่อยๆ ทั้งโปรเจ็กต์เล็กโปรเจ็กต์ใหญ่ เพลงผมเองก็มีบิลลี่ช่วย Produce ด้วยครับ บิลลี่กลายเป็น producer หลักของผมเลย หลายๆ ซิงเกิลที่ผ่านมา ตั้งแต่เข้า LOVEiS ก็ว่าได้ครับ”

(“บิลลี่เป็นคนเก่งมากๆ” - เติร์ด Tilly birds เคยบอกกับเราในรายการ Dek-D Live)

เคยกลัวว่าการอยู่ในค่ายใหญ่ จะทำให้ถูกเปลี่ยนตัวตน

แม้ว่าศิลปินอิสระมากมายจะประสบความสำเร็จในเส้นทางของตนเองได้ แต่ในความเป็นจริงศิลปินหลายคนก็ยังต้องการร่วมงานกับค่ายเพลงที่ชื่นชอบ เพื่อโอกาสในการทำงานกับคนที่มีความสามารถตลอดได้รับคำแนะนำและการสนับสนุนที่ดี อลินก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่เพราะความกลัวว่าจะถูกเปลี่ยนตัวตน เขาจึงกลัวการอยู่ในสังกัดค่าย แต่สุดท้าย LOVEiS ก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงอะไรในตัวเขา

“รู้สึกว่าถ้าเข้าค่ายแล้วเราไม่ได้ถูกบีบบังคับให้เราเสียตัวตนมาก เราก็แฮปปี้ที่จะอยู่ค่ายครับ คือผิดกับที่คิดไว้เหมือนกัน เรากลัวว่าจะถูกเปลี่ยนตัวตนไปมาก เราก็เลยกลัวมาตลอด แต่พอมาที่ LOVEiS ก็ผิดจากที่คิดมาก ค่ายซัพพอร์ตเราเต็มที่ ทั้งยังช่วยให้ตัวตนเราชัดขึ้นด้วยซ้ำ”

ไม่เพียงเท่านั้น LOVEiS ยังให้อิสระกับอลินให้เขาได้ใช้ความสามารถตัวเองเต็มที่ในการทำสิ่งที่เขารัก

“คนที่เราได้ทำงานด้วย ล้วนเป็นคนที่เราเลือกมาทำเพลงกับเราตั้งแต่ก่อนอยู่ค่าย เช่น บิลลี่ เรามีอิสระในการทำเพลงเหมือนเดิมเลย เพียงแต่มีคนคอยชี้แนะและซัพพอร์ตมากขึ้นครับ”

อยากมีโอกาสไปร้องเพลงให้คนหลายๆ ประเทศได้ฟัง

เมื่อถามถึงความพึงพอใจในตอนนี้ อลินบอกว่า การที่เขาได้ทำสิ่งที่เขารักและมีผลตอบแทนที่พอให้เขาอยู่ได้ เขาแฮปปี้มากแล้ว ในด้านความพึงพอในก็ถือว่าประสบความเร็จแล้ว แต่สำหรับในวงการเพลง อลินก็มีฝันเดียวกับศิลปินหลายๆ คน

“สำหรับในวงการเพลงผมเชื่อว่าก็เป็นความฝันของศิลปินหลายๆ คน คือต้องการให้เพลงของเราเป็นที่รู้จัก ให้เราได้มีโอกาสไปทัวร์ ไปเล่นให้คนฟังมากขึ้น ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นที่มีความฝันอยากเป็นศิลปินระดับโลกที่มีโอกาสได้ไปร้องเพลงให้คนหลายๆ ประเทศฟัง”

นอกจากนี้ สิ่งที่อลินชื่นชอบรองจากการร้องเพลงก็คือการแสดง หากมีโอกาสก็อยากทำอีก ขอเพียงแค่ไม่กระทบกับงานเพลงที่เขารัก อย่างตอนนี้เขาทำเพลงใหม่ “เลิกรักเขาทีเถอะ” เป็นงานหลักที่โฟกัสอยู่ตอนนี้ ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาสำหรับงานอื่น

การผ่านความสุขและความเศร้า ทำให้เราใช้ชีวิตได้ดีขึ้น

อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าเพลง “เลิกรักเขาทีเถอะ” ถูกเล่าจากมุมมองของ “คนนอก” ที่คอยห่วงใยคนคนหนึ่งอยู่เสมอ โดยการเป็นคนนอกนี้เองทำให้มองเห็นภาพความสัมพันธ์ชัดเจนกว่าคนที่กำลังจมอยู่ในห้วงความรู้สึกแย่ๆ นั้น ความหมายเพลงที่ลึกซึ้งนี้ถูกถ่ายทอดมาจากมุมมองของ Alyn ด้วยเสียงร้องที่มีเสน่ห์ และเช่นเดียวกัน อลินก็หวังว่าเพลงของเขาจะเป็นกำลังใจให้ใครหลายๆ คนได้ด้วย

“ผมเชื่อว่าทุกคนก็ต้องผ่านความสำเร็จ ความผิดหวัง ความเศร้า ความสุข มันเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตอยู่แล้วครับ ผมว่าการที่เราผ่านอะไรพวกนี้มาทำให้เรารู้จักใช้ชีวิตมากขึ้น และรู้จักทั้งความสุขความเศร้ามากขึ้น อะไรที่ไม่ดีๆ ขอให้จำเป็นบทเรียนนะครับ แล้วก็ในอนาคตก็เชื่อว่าเราจะใช้ชีวิตได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม อย่างเพลงเลิกรักเขาทีเถอะก็เป็นมุมมองของคนนอกที่มองคนที่กำลังอยู่ในความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยจะดี เวลาที่เราอยู่กับคนที่ไม่เคยเห็นค่าเรา ไม่ได้รักเราแบบที่เรารักเขา ก็ควรที่จะเลิกรัก ยังไงก็ขอให้ทุกๆ คนที่รู้ตัวว่าอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ เดินออกมาจากตรงนั้นเพื่อไปหาความรักที่เหมาะสม ความรักที่ดีกว่า เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ”

 

สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณ เจมส์ อลิน วี ผู้ชายที่อบอุ่นที่สุดในเวลานี้ หากใครชื่นชอบมุมมองความคิด และผลงานเพลงของอลิน สามารถติดตาม Alyn กันได้ที่ LOVEiS Entertainment ค่ะ นอกจากนี้ อลินยังมีผลงานเพลงก่อนหน้าอีกมากมาย ทั้งทางชาแนล Alyn Wee และ BILLbilly01 ตามไปฟังย้อนหลังกันได้ แต่ตอนนี้ขอยกพื้นที่ให้เพลง “เลิกรักเขาทีเถอะ” ซิงเกิลล่าสุดพร้อม Official MV ที่เพิ่งปล่อยออกมาสดๆ ร้อนๆ ไปชมกันเลยค่ะ

ศิลปิน Alyn Wee
อัลบั้ม Alyn 
สังกัด LOVEiS Entertainment
Facebook : https://www.facebook.com/alynwee/ 
Instagram : https://www.instagram.com/alynwee/ 
Twitter : https://twitter.com/AlynWeeOfficial

พี่ซาร่า
พี่ซาร่า - Columnist คอลัมนิสต์ประจำคอลัมน์ Lifestyle

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น