Spoil

  • การสื่อสารในชีวิตประจำวัน ใช้ Body Language มากถึง 60-65%
  • มีงานวิจัยค้นพบว่า คนที่ใบหน้ายิ้มแย้มสม่ำเสมอ มีแนวโน้มจะสติปัญญาดีกว่าคนที่ใบหน้าบึ้งตึง
  • ใครที่เรายอมให้เข้าใกล้มากกว่าระยะ 1 ไม้บรรทัด หมายความว่าคนนั้นใกล้ชิดเราแบบค่อนข้าง special!

ถ้าน้องๆ โกรธ แต่ไม่อยากพูดว่าโกรธ จะแสดงออกยังไงบ้างคะ?

แล้วเวลาที่น้องๆ ชอบใครบางคน มันมีอาการยังไงบ้างที่เก็บไม่อยู่?

สิ่งเหล่านี้เรียกว่า Body Language หรือ ภาษากาย ซึ่งเป็นหนึ่งใน อวัจนภาษา (nonverbal signals) ที่ผู้เชี่ยวชาญต่างบอกว่าเป็นส่วนสำคัญของการสื่อสาร ไม่ว่าจะการแสดงออกทางสีหน้า การแสดงออกด้วยท่าทาง การแสดงออกผ่านสายตา หรืออะไรก็ตามที่ไม่ต้องใช้คำพูดแต่สามารถบอกสิ่งที่เราต้องการสื่อสารได้ ซึ่งในชีวิตประจำวันเราใช้ Body Language มากถึง 60-65% เลยทีเดียว

ในเมื่อสำคัญขนาดนี้ เรามาเรียนรู้วิธีการสังเกต Body Language ไว้บ้างดีกว่า

ภาพจาก unsplash.com
ภาพจาก unsplash.com

การแสดงออกทางสีหน้า (Facial Expressions)

ยิ้ม = แฮปปี้ หน้าบึ้ง = โกรธ การแสดงออกทางสีหน้าเป็นการสื่อสารที่หลายคนคุ้นเคยกันอยู่แล้ว แต่อาจมีบางเหตุการณ์ที่เราแสดงออกไปตรงข้ามกับความรู้สึก เช่น ยิ้มทั้งที่เศร้า มีผลการวิจัยหนึ่งพบว่า การแสดงออกทางสีหน้าที่เชื่อถือได้ที่สุดคือเมื่อมนุษย์เลิกคิ้วและยิ้มเล็กน้อย หมายความว่า ผู้นั้นกำลังรู้สึกเป็นมิตรและมีความมั่นใจ

นอกจากนี้นักวิจัยยังพบว่าการแสดงออกทางสีหน้าอาจเกี่ยวพันกับระดับสติปัญญาได้ เช่น คนที่มีใบหน้าเรียวและจมูกโด่ง มีแนวโน้มจะเป็นคนที่มีระดับสติปัญญาสูง และคนที่มักมีรอยยิ้มและดูอารมณ์ดีเป็นประจำ ก็มีแนวโน้มจะสติปัญญาดีกว่าคนที่หน้าบึ้งจนเป็นนิสัยด้วย

การแสดงออกทางดวงตา

ใครๆ ก็บอกว่า “ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ” เพราะอวัยวะส่วนนี้มักจะเปิดเผยสิ่งที่ผู้คนรู้สึกหรือกำลังนึกคิดอยู่ การมองดวงตาคู่สนทนาจึงเป็นเรื่องสำคัญ เราไปดูกันว่ามีอะไรที่พอสังเกตได้จากดวงตาบ้าง

การจ้องมอง เมื่อคู่สนทนาสบตาเราตรงๆ ระหว่างคุยกัน นั่นหมายความว่าเขากำลังสนใจในสิ่งที่เราพูด แต่ถ้าคนๆ นั้นไม่สบตา หรือชอบมองไปทางอื่น อาจหมายถึงคนนั้นกำลังไม่มีสมาธิ รู้สึกไม่สะดวกในการคุย หรืออาจจะกำลังปิดบังความรู้สึกบางอย่างไว้

               การกะพริบตา คนเรากะพริบตาตามธรรมชาติก็จริง แต่ถ้าใครที่กะพริบตาถี่ๆ อาจแสดงให้เห็นว่าเขามีเรื่องกังวลใจ หรือกำลังไม่สะดวกใจ ในทางกลับกัน คนที่ไม่ค่อยกะพริบตาเลยอาจหมายความว่าเขากำลังพยายามควบคุมตนเองอยู่ เช่น เมื่อเล่นบอร์ดเกมกับเพื่อน ใครที่พยายามกะพริบตาน้อยที่สุด อาจหมายความว่าเขาไม่อยากให้เรารู้ว่ากำลังตื่นเต้นก็เป็นได้

               ขนาดลูกตาดำ รู้ไหมว่าลูกตาดำก็สามารถบอกอะไรได้หลายอย่าง เช่น เมื่อลูกตาดำของใครขยายตัว อาจหมายความว่าคนนั้นกำลังสนใจมากๆ หรือกำลังรู้สึกตื่นตัวจากอะไรบางอย่างนั่นเอง

ภาพจาก unsplash.com
ภาพจาก unsplash.com

การแสดงออกด้วยริมฝีปาก

โดยไม่ต้องพูด บางครั้งแค่มองปากก็รู้ได้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร เช่น การเห็นอีกฝ่ายกัดปาก หรือปิดปาก ยกเว้นแต่รอยยิ้มเท่านั้นที่อาจมีความหมายได้หลายแบบ ทั้งมีความสุข ประชดประชัน หรือแม้แต่เยาะเย้ย แต่ถ้าหากอยากเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการอ่าน body language แล้วล่ะก็ ยังไงต้องไม่พลาดการสังเกตปาก และการขยับของริมฝีปากเด็ดขาดค่ะ

ทำปากจู๋ การห่อปากอาจบ่งชี้ว่ากำลังรู้สึกไม่ชอบ ไม่เห็นด้วย หรือไม่เชื่อถือ

กัดริมฝีปาก หลายคนกัดริมฝีปากตัวเองเมื่อกังวล ร้อนใจ หรือเกิดความเครียด

ปิดปาก คนเราจะปิดปากเมื่อต้องการปิดบังความรู้สึกบางอย่าง เช่น เวลาที่ไม่อยากให้ใครเห็นว่าเราหลุดยิ้ม เป็นต้น

อ้าปาก/หุบปาก การที่ปากค่อยๆ อ้าหรือหุบก็อาจบ่งบอกได้ถึงความรู้สึกของผู้นั้น เช่น เมื่อเห็นใครค่อยๆ อ้าปากออก อาจหมายถึงคนนั้นกำลังมีความสุข หรือเกิดความรู้สึกในแง่บวก ในทางกลับกัน คนที่ค่อยๆ หุบปากอาจหมายถึงความรู้สึกเศร้า ไม่เห็นด้วย หรืออารณ์ไม่ดีนัก

ภาพจาก unsplash.com
ภาพจาก unsplash.com

 การแสดงออกด้วยแขน-ขา

แขนและขาก็เป็นอวัยวะที่สามารถถ่ายทอดอวัจนภาษาได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการกอดอก หรือไขว้ขา ดังนั้นเมื่อต้องการอ่านภาษากายของใคร อย่าลืมสังเกตสัญลักษณ์ที่แสดงออกผ่านทางแขนและขาด้วย

กอดอก อาจเป็นสัญญาณว่าคนนั้นกำลังตั้งรับอะไรบางอย่าง หรือต้องการป้องกันตัวเอง หรือมีกำแพงที่ปิดกั้นตัวเองจากบางอย่าง

ยืนเท้าเอว อาจเป็นสัญญาณว่าคนนั้นพร้อมในการทำบางสิ่งแล้ว รวมถึงอาจแสดงให้เห็นว่าคนนั้นกำลังหงุดหงิดก็ได้ด้วย

เกี่ยวมือตัวเองไว้ด้านหลัง หากเจอใครทำท่าแบบนี้ อาจหมายความว่าเขาเบื่อ กังวล หรืออาจโกรธอะไรบางอย่างค่ะ

เคาะนิ้วบ่อยๆ หรือขยับนิ้วไปมา แบบนี้อาจเป็นสัญญาณว่าเขากำลังเบื่อ หมดความอดทน และเซ็งมากๆ

นั่งไขว่ห้าง อาจหมายความว่าคนนั้นรู้สึกไม่อยากเปิดรับใคร และต้องการความเป็นส่วนตัวในเวลานี้

ภาพจาก unsplash.com
ภาพจาก unsplash.com

การแสดงออกด้วยท่าทางการนั่ง

ท่าทางการนั่งของเราก็แสดงออกถึงความรู้สึกได้หลายอย่าง และยังสามารถบอกบุคลิกภาพของแต่ละคนได้ด้วย ว่าท่านั่งไหนเป็นของคนที่มีความมั่นใจ ใจกว้าง หรืออ่อนน้อม

คนที่นั่งหลังตรง อาจหมายถึงว่าคนๆ นี้กำลังมีสมาธิ และใจจดจ่อกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น

คนที่นั่งโน้มตัวมาข้างหน้า แบบนี้อาจหมายความว่าเบื่อ และรู้สึกไม่ใส่ใจสิ่งตรงหน้าเท่าที่ควร

คนที่นั่งเก็บแขนและขา หรือคนที่เก็บแขนไว้ข้างลำตัว นั่งไขว่ห้าง ประเภทนี้สามารถบ่งบอกได้ว่ากำลังอยู่ในช่วงที่รู้สึกไม่เป็นมิตร และมีความกังวลใจ

คนที่นั่งปล่อยแขนขาตามสบาย มักจะเกิดขึ้นกับคนที่เฟรนด์ลี่ ใจกว้าง และเต็มใจในการทำสิ่งต่างๆ

ภาพจาก unsplash.com
ภาพจาก unsplash.com

การแสดงออกด้วยการเว้นระยะห่าง

เคยรู้สึกไหมคะ ว่าบางคนเราสามารถให้เขายืนใกล้ๆ ได้ แต่บางคนพอเข้ามาใกล้แล้วเราถอยห่างโดยอัตโนมัติ เพราะรู้สึกไม่สบายใจ สิ่งนี้เรียกว่า Personal Space เป็นระยะห่างระหว่างบุคคลในการติดต่อสื่อสาร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอวัจนภาษาเช่นกัน Edward T. Hall นักมานุษยวิทยาได้อธิบายระดับต่างๆ ของ Personal Space ไว้ตามนี้

ระยะคนใกล้ชิด : 6 – 18 นิ้ว

ระยะห่างระดับนี้ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับคนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดต่อกัน และรู้สึกสบายใจต่อกันและกันเป็นพิเศษ เพราะเป็นระยะห่างที่มักจะเกิดขึ้นในเวลากอด กระซิบ หรือสัมผัสร่างกายกันและกัน

ระยะส่วนตัว : 1.5 – 4 ฟุต

ระยะห่างระดับนี้มักเกิดขึ้นกับคนในครอบครัว หรือเพื่อนสนิท เพราะการที่เรารู้สึกสบายใจที่ใช้ความห่างระดับนี้ในการพูดคุยกับใคร หมายความว่าเราใกล้ชิดกับคนนั้นนั่นเอง

ระยะสังคม : 4 – 12 ฟุต

ระยะห่างระดับนี้คือระยะที่เราจะใช้กับคนรู้จักในระดับหนึ่ง เช่น เพื่อนเรียนพิเศษ ที่เจอกันอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ทำให้เรารู้สึกสะดวกใจที่จะคุยด้วยในระดับหนึ่ง แต่ถ้าเป็นคนรู้จักที่ไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยนัก เช่น ญาติที่เจอกันเดือนละครั้ง ระยะห่างก็จะอยู่ที่ระดับ 10-12 ฟุต

ระยะสาธารณะ : 12 – 25 ฟุต

ระยะห่างระดับนี้ใช้ในการบรรยายตามที่สาธารณะต่างๆ รวมถึงการพรีเซนต์งาน หรือพูดหน้าชั้นเรียนด้วย แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นกับวัฒนธรรมของแต่ละประเทศอีกทีค่ะ

ภาพจาก unsplash.com
ภาพจาก unsplash.com

ทีนี้เห็นรึยังคะ ว่า Body Language หรือ อวัจนภาษา นั้นมีมากมาย และถ้าหากเราสามารถเข้าใจได้ ก็จะช่วยให้การสื่อสารชัดเจนยิ่งขึ้น!

มี Body Language อะไรอีกมั้ยที่น้องๆ ชาว Dek-D เคยสังเกตได้ ลองมาลิสต์เพิ่มได้เลยจ้า

 

ข้อมูลจากverywellmind.com/
พี่กวาง
พี่กวาง - Columnist พลเมืองบางบัวทอง ผู้ตามทันทุกเทรนด์ฮิต เพราะไถทวิตเตอร์ระหว่างรถติดแยกแคราย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด