Work ไร้ Balance! 5 วิธีแก้ปัญหา เรียนอยู่บ้านทำไมเหนื่อยกว่าไปโรงเรียน

Spoil:

  • แบ่งเวลางานและเวลาส่วนตัวให้ชัดเจน
  • สร้างพื้นที่สำหรับทำงานโดยเฉพาะ
  • ยอมรับว่าเราไม่สามารถทำทุกอย่างได้

มีเพื่อนๆ ชาว Dek-D คนไหนกำลังรู้สึกเพลียๆ เหนื่อยๆ รู้สึกว่างานที่ต้องทำมันช่างมากมายจนหัวหมุนทุกวันไหมคะ อยู่ๆ ก็รู้สึกเบื่องานที่ทำ ไม่อยากเรียนวิชาที่ชอบและรู้สึกหมดไฟไปเสียเฉยๆ ไม่แน่ว่าเพื่อนๆ อาจกำลังเจอกับปัญหา Work ไร้ Balance อยู่ก็ได้ค่ะ นี่คือปัญหาใหญ่จากการที่เราไม่สามารถจัดการเวลาพักผ่อนของเรากับการเรียนการทำงานได้ให้สมดุลกันได้

ก่อนอื่นเรามารู้จักกับคำว่า Work life balance กันก่อนดีกว่าว่ามันคืออะไร สิ่งนี้ก็คือการสร้างความสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตของเราและการทำงานหรือการเรียน การสร้างความสมดุลที่ว่านี้หมายถึงการที่เรารู้จักจัดลำดับความสำคัญของความต้องการในชีวิตส่วนตัวของเรากับสิ่งที่เราจำเป็นต้องทำให้เท่าๆ กัน เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่ 2 สิ่งนี้มีอย่างใดอย่างหนึ่งที่มากเกินไป นั่นอาจจะส่งผลต่อชีวิตประจำวันหรือสุขภาพจิตของเราได้นะ! และยิ่งในยุค Covid-19 ที่ผู้คนต้องทำงานกันที่บ้าน ต้องเรียนออนไลน์ Work life balance ก็ยิ่งเป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม และวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับวิธี Work life balance อย่างไรให้ชีวิตลงตัว ไปดูกันเลย

ภาพจาก Unsplash.com
ภาพจาก Unsplash.com

กำหนดเวลาในการทำงาน

ไม่ว่าจะเรียนออนไลน์ที่ Work from home ก็ควรจะกำหนดขอบเขตเวลาให่ชัดเจน! ปัญหาของการเรียนออนไลน์และทำงานที่บ้านคือการที่เรารู้สึกว่าเราไม่ได้พักผ่อนเลยแม้จะอยู่ที่บ้านก็ตาม นั่นก็เป็นเพราะว่าในเวลาปกติเราไปทำงานที่บริษัทเลิกงานกลับบ้าน บ้านก็คือที่พักผ่อน ในเวลาที่เราไปเรียนที่โรงเรียนพอกลับมาถึงบ้าน บ้านก็คือที่ผ่อนคลาย แต่เมื่อเราต้องทั้งเรียนทั้งพักผ่อนในสถานที่เดียวกัน ปัญหาจึงเกิดขึ้นว่าแล้วเมื่อไหร่ล่ะคือเวลาพักผ่อนของฉัน? ดังนั้นแล้วสิ่งสำคัญที่ควรจะต้องทำมากๆ ก็คือการกำหนดขอบเขตของเวลาในการเรียนและทำงานในแต่ละวันนั่นเองค่ะ เช่น วันนี้เรามีเรียนตั้งแต่ 8 โมงถึง 4 โมงเย็น พอเรียนเสร็จเราก็เผื่อเวลาทำการบ้านไว้จนถึง 6 โมงเย็น และเมื่อหลังจาก 6 โมงไปแล้วนั่นจะเป็นเวลาพักผ่อนของเราที่ไม่ต้องคิดเรื่องเรียนอีก

ภาพจาก Unsplash.com
ภาพจาก Unsplash.com

ลำดับความสำคัญของงานที่ต้องทำ

รู้สึกเหมือนกันไหมคะว่าพอมาเป็นการเรียนออนไลน์หรือทำงานออนไลน์เนี่ย ทำไมงานมันเยอะกว่าเดิมมากๆ เลย งานเยอะจนงงว่าจะต้องทำงานไหนก่อนดี หนักเข้าก็กลายเป็นว่าเราพยายามจะทำทุกงานจนสุดท้ายแล้วไม่เสร็จสักงานเลย เครียดเพิ่มไปอีก วิธีแก้ของปัญหานี้สามารถทำได้ง่ายๆ โดยการลองทำ To do list เรียงลำดับความสำคัญของสิ่งที่เราต้องทำดูค่ะ เช่น วันนี้อาจจะมีทั้งการบ้านเลข อังกฤษ สังคม เราก็ลองมาเรียงลำดับความสำคัญของงานดูค่ะว่างานไหนรีบเร่งที่สุด เช่น การบ้านวิชาเลขส่งสัปดาห์หน้า ส่วนสังคมส่งพรุ่งนี้ เราก็มาทำสังคมก่อน ส่วนวิชาเลขก็อาจจะเก็บไว้ทำในเวลาอื่นได้ค่ะ

สร้างพื้นที่ทำงาน

สาเหตุหนึ่งที่เรารู้สึกว่าการเรียนออนไลน์หรือการทำงานออนไลน์นั้นรบกวนเวลาพักผ่อนส่วนตัวในชีวิตประจำวันนั้นอาจเป็นเพราะว่าเราไม่มีพื้นที่ในการทำงานที่มีไว้เพื่อการทำงานจริงๆ ก็ได้ เช่นว่าพื้นที่ในการเรียนออนไลน์ของเราทุกวันนี้อาจเป็นบนเตียง ตื่นมาก็เรียนบนเตียง เวลาจะพักผ่อนก็นอนบนเตียงอีก กลายเป็นว่าเตียงที่ควรจะเป็นที่พักผ่อนอย่างเดียวต้องกลายเป็นพื้นที่สำหรับการเรียนของเราด้วย เวลาจะพักก็พักได้ไม่สุด ร่างกายก็เริ่มงงว่า เอ๊ะ แล้วตรงไหนคือที่พักผ่อนของฉันล่ะ? ดังนั้นเราจึงควรจัดมุมทำงานส่วนตัวของเราที่มีไว้เพื่อนการเรียนการทำงานโดยเฉพาะ การได้จัดโต๊ะก็จะเป็นการสร้างสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ให้เราไม่เบื่อด้วย!

ภาพจาก Unsplash.com
ภาพจาก Unsplash.com

ปฏิเสธให้เป็น

ข้อจำกัดหลายอย่างในการเรียนออนไลน์หรือทำงานออนไลน์อาจทำให้เราต้องเผชิญกับหลายสิ่งที่เกินความสามารถของเรา เราไม่จำเป็นต้องเอาทุกสิ่งทุกอย่างมากองไว้ที่ตัวเองเพียงคนเดียว อะไรที่เรารู้สึกว่ามันเกินความสามารถของเราจริงๆ ก็ควรรู้จักปฏิเสธให้เป็นและปฏิเสธอย่างประนีประนอมที่ไม่ทำให้อีกฝ่ายเสียความรู้สึก เช่น ในการทำงานกลุ่มกับเพื่อน เพื่อนอาจจะอยากให้เราเป็นคนทำสไลด์ส่งอาจารย์คนเดียว แต่ถ้าเรารู้สึกว่ามันเกินความสามารถของเราจริงๆ ก็ควรหาทางประนีประนอมกัน อาจจะเปลี่ยนเป็นให้ช่วยกันแบ่งส่วนไปทำเพื่อลดภาระที่จะไปหนักที่คนคนเดียวดูก็ได้นะ

สุขภาพของเราสำคัญที่สุด

การเรียนและการทำงานสำคัญมากก็จริง แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือสุขภาพของเรานะคะ ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพกายหรือสุขภาพจิตก็ตาม ยิ่งเป็นการทำทุกอย่างผ่านออนไลน์คนเราจะมีความเครียดเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากว่าเราขาดการสื่อสารกับคนในสังคม อดคุยสนุกๆ กับเพื่อนเหมือนตอนที่อยู่ที่โรงเรียน ดังนั้นแล้วเมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึกว่าไม่ไหวแล้วก็อย่าฝืนตัวเอง ลองไปปรึกษากับนักจิตวิทยาดูอาจช่วยได้นะ! หรือถ้ามีปัญหาสุขภาพกายที่จำเป็นต้องไปหาคุณหมอก็อย่าฝืนตัวเองให้นั่งเรียนนั่งทำงานต่อไปเพราะหากร่างกายของเราไม่แข็งแรงก็จะไม่สามารถทำงานออกมาให้สมบูรณ์ได้นะ!

ภาพจาก Unsplash.com
ภาพจาก Unsplash.com

 

และนี่ก็คือเคล็ดลับง่ายๆ ที่จะช่วยให้เราสามารถจัดการกับปัญหา Work ไร้ Balance ได้ เพื่อนๆ ชาว Dek-D คนไหนมีวิธีดีๆ ในสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันได้อีกก็ลองคอมเมนต์มาบอกเล่ากันได้นะคะ เรารออ่านอยู่น้า

  ข้อมูลจากhttps://www.roche.com/careers/our-locations/asia/india/service/folder/20_tips_for_maintain.htmhttps://www.businessnewsdaily.com/5244-improve-work-life-balance-today.html 
พี่หมิง
พี่หมิง - Columnist คอลัมนิสต์

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น