อ่านก่อนสมัครผิด! เปรียบเทียบ ‘TOEFL ITP’ กับ 'TOEFL iBT’ ต่างกันตรงไหน? ใช้ยื่นกรณีอะไรบ้าง?

สวัสดีค่ะน้องๆ Dek-D ทุกคน มีใครกำลังเตรียมตัวเรียนต่อมหา’ลัยต่างประเทศกันอยู่บ้างเอ่ย? หลายคนอาจกำลังเจอโมเมนต์ปวดหัวกับเอกสารที่เยอะแยะไปหมด และยังมีด่านสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ ‘คะแนนสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ’ ซึ่งคะแนนที่น้องๆ คุ้นชื่อกันดีแน่นอนคือ ‘TOEFL’ แต่การสอบ TOEFL ก็ไม่ได้มีแค่แบบเดียว เพราะยังมีแตกแยกย่อยเป็น Primary, Junior, iBT และ ITP (เยอะมากกก)

พี่เมนี่เองก็เคยคิดว่า TOEFL แต่ละแบบคงยื่นสอบเข้าได้เหมือนกัน แต่จริงๆ มันต่างกันมากเลยค่ะ ขืนสอบผิดขึ้นมาทีล่ะยุ่งเลย วันนี้เราเลยจะขอพาไปเปรียบเทียบ 2 ประเภทที่เห็นบ่อยๆ คือ iBT และ ITP ว่าเหมือนและต่างกันยังไงบ้าง? แล้วเราควรสอบแบบไหน? 

........

TOEFL iBT และ TOEFL ITP คืออะไร?

หลักๆ คือทั้งคู่ล้วนเป็นแบบทดสอบเพื่อวัดทักษะภาษาอังกฤษของชาวต่างชาติในระดับอุดมศึกษา สำหรับเด็กตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไปนั่นเองค่ะ แต่บอกเลยว่าทั้งสองแบบมีจุดที่ต่างกันมาก เลื่อนมาดูต่อกันค่ะ

TOEFL iBT

คนที่อยากเรียนต่อต่างประเทศ (หรืออาจจะหลักสูตรนานาชาติในประเทศก็ตาม) มีโอกาสสูงที่จะได้ใช้ผลสอบ TOEFL iBT ค่ะ คำนี้ย่อมาจาก ‘Internet-Based Testing’ แปลว่าจะได้สอบบนคอมพิวเตอร์เท่านั้น ไม่มีแบบกระดาษนะคะ ถ้าเทียบความยากกับ TOEFL ITP จากประสบการณ์ส่วนตัวของพี่เมนี่เอง ก็คงต้องบอกว่ายากกว่าเยอะเลย เพราะมีพาร์ตเขียนกับพูดเข้ามาด้วย (และค่าสอบทำเอาน้ำตาตกเลยละค่ะ T-T)

แต่บอกเลยว่าถ้าสอบได้คะแนนดีก็คือโพรไฟล์จะปังมากก เพราะข้อสอบนี้ได้รับการยอมรับและนิยมใช้ในหลายๆ ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในอเมริกา แคนาดา และประเทศขึ้นชื่อเรื่องการศึกษาแบบออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ส่วนในเอเชียถึงไม่ได้นิยมมาก แต่มหา’ลัยชั้นนำหลายๆ แห่ง ทั้งในจีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลี และมาเลเซีย กำหนดว่าสามารถยื่นคะแนน TOEFL iBT ได้เหมือนกันค่ะ

TOEFL ITP

ITP นี้ย่อมากจาก ‘Institutional Testing Program’ ถ้าให้พูดง่ายๆ เลยก็คือส่วนมากสถาบันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย จะนำการสอบนี้มาวัดผลภาษาอังกฤษของนักเรียน โดยจะต่างจาก iBT ตรงที่มีจัดสอบทั้งแบบกระดาษและคอมพิวเตอร์เลย

ข้อแตกต่างของจุดประสงค์ในการใช้

**ข้อนี้สำคัญมาก** เพราะแม้ iBT และ ITP จะมีไว้วัดผลภาษาอังกฤษเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้ใช้แทนกันได้ เพราะคะแนน iBT นั้นใช้เพื่อยื่นเข้ามหาวิทยาลัย แต่ส่วนมาก ITP จะเอาไว้วัดผลสำหรับคนที่ศึกษาอยู่ในมหา’ลัยนั้นๆ แล้ว (แต่ก็มีบางสถาบันที่นำมาใช้ยื่นสอบเข้าเหมือนกันค่ะ) เพื่อเช็กพัฒนาการทางด้านภาษาอังกฤษของเรา ซึ่งบางคนที่เรียนโรงเรียนอินเตอร์อาจจะได้ลองสอบกันมาบ้าง และคะแนนสอบนี้ในบางมหา’ลัยที่อเมริกาก็รับนะคะ ทำให้ไม่ต้องสอบวัดผลอื่นๆ เพิ่มเพื่อเข้าเรียน 

ดังนั้นน้องๆ คนไหนจะไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยต่างประเทศ ถ้ามีคะแนน iBT ก็จะชัวร์กว่าว่าใช้ได้แน่ๆ แต่ถ้าอยากฝึกเฉยๆ พี่ก็อยากแนะนำให้ไปลองสอบ ITP ก่อนดีกว่า เพราะค่าสอบต่างกันพอสมควรเลยค่ะ

ใช้ทำอะไรได้บ้าง?

TOEFL iBT

  • สอบเข้ามหาวิทยาลัยหรือวิทยาลัย
  • สอบเข้าเรียนในระดับบัณฑิตศึกษา
  • ยื่นขอทุนการศึกษาและทุนมิตรภาพ (Fellowship)
  • ยื่นขอวีซ่าและย้ายถิ่นฐาน
  • ยื่นขอใบรับรองการเป็นครู

TOEFL ITP

  • สอบเข้าและจบการศึกษาจากสถาบันหรือโปรแกรมภาษาอังกฤษ
  • วัดพัฒนาการทางภาษาอังกฤษ
  • ยื่นขอทุนการศึกษา (ในบางที่)
  • ยื่นเข้าเรียนหลักสูตรระยะสั้น (ไม่ใช่ระดับปริญญา)
  • เป็นข้อสอบฝึกทักษะและเตรียมตัวสอบ TOEFL iBT

........

รายละเอียดข้อสอบ

 TOEFL iBTTOEFL ITP
รูปแบบการสอบสอบบนคอมพิวเตอร์มีทั้งแบบสอบบนกระดาษ และคอมพิวเตอร์
ระดับมีระดับเดียว

มี 2 ระดับ

  • Level 1 (ระดับกลาง - ระดับสูง)
  • Level 2 (ระดับงต่ำ - ระดับกลาง)
ระยะเวลาในการสอบ3 ชั่วโมง

Level 1: ประมาณ 2 ชั่วโมง 

Level 2: ประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที

คะแนนรวม0 - 120 คะแนน

Level 1: 310 - 677 คะแนน 

Level 2: 200 - 500 คะแนน

มีสอบอะไรบ้าง?

ทั้งสองอันจะมีส่วนที่เหมือนกันคือพาร์ตการฟังและการอ่าน แต่ใน ITP จะมีเรื่องไวยากรณ์เข้ามาและ iBT เองก็จะมีการพูดและการเขียนเรียงความ (Essay) เพิ่มเข้ามาเหมือนกันค่ะ

TOEFL iBT: สอบทั้งหมด 4 พาร์ต

 เวลาจำนวนคำถาม
การอ่าน (Reading)54 - 72 นาที

3 - 4 บทความ

รวม 30 - 40 คำถาม

การฟัง (Listening)41 - 57 นาที
  • 3 - 4 เลกเชอร์ (6 คำถามต่อ 1 เลกเชอร์)
  • 2 - 3 บทสนทนา (5 คำถามต่อ 1 บทสนทนา)
  • รวม 28 - 39 คำถาม
เวลาพัก10 นาที-
การฟัง (Speaking)17 นาที4 คำถาม
การเขียน (Writing)50 นาที2 คำถาม

TOEFL ITP: สอบทั้งหมด 3 พาร์ต

*** Level 1 เป็นระดับที่สูงกว่า***

Level 1 (ระดับกลาง - ระดับสูง)

 จำนวนคำถามเวลาคะแนน
การฟัง (Listening Comprehension)50 คำถาม35 นาที31–68  คะแนน
ไวยากรณ์ (Structure and Written Expression)40 คำถาม25 นาที31–68  คะแนน
การอ่าน (Reading Comprehension)50 คำถาม55 นาที31–67  คะแนน
รวมทั้งหมด140 คำถาม115 นาที310–677  คะแนน

Level 2 (ระดับต่ำ - ระดับกลาง)

 จำนวนคำถามเวลาคะแนน
การฟัง (Listening Comprehension)30 คำถาม22 นาที20 - 50  คะแนน
ไวยากรณ์ (Structure and Written Expression)25 คำถาม17 นาที20 - 50 คะแนน
การอ่านและคำศัพท์ (Reading and Vocabulary)40 คำถาม31 นาที20 - 50 คะแนน
รวมทั้งหมด95 คำถาม70 นาที200 - 500 คะแนน

เนื้อหาข้อสอบ

TOEFL iBT

  • ในส่วนของ iBT เนื้อหาจะค่อนข้างยากหน่อย เพราะเกี่ยวกับเรื่องที่เรียนในระดับมหาวิทยาลัยทั้งนั้นเลย โดยพาร์ตการอ่านเค้านำมาจากหนังสือเรียนจริงๆ ส่วนพวกพาร์ตการฟังก็จะเป็นแนวบทสนทนาและเลกเชอร์ในมหา’ลัย ดังนั้นภาษาและศัพท์ก็อาจจะโหดหินทีเดียว // สู้ๆ ค่า

คำแนะนำ

  • ดูคลิปในยูทูบ หรือลองเรียนคอร์สฟรีภาษาอังกฤษในเน็ตแล้วจด short note ไปด้วย (ลองดูได้ที่เพจ FB: One More Course เลยยย) จะได้ไม่ประหม่าจนฟังไม่ทัน
  • ฝึกพูดโดยการตอบคำถามแนววิชาการ
  • ฝึกเขียนควบคู่กับการอ่าน เพราะจะมีพาร์ตที่ต้องอ่านบทความและฟังเลกเชอร์สั้นๆ เพื่อเขียนตอบด้วย

TOEFL ITP

  • ข้อสอบ ITP จะมีเนื้อหาแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่เริ่มจากด้านวิชาการ เช่น ศิลปะ มนุษยศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสัมคมศาสตร์ รวมถึงเรื่องทั่วไปในแคมปัส อย่างวิชาเรียน ที่พัก กิจกรรม การเรียนต่อนอก หรือการฝึกงานก็มีด้วยค่ะ และในส่วนที่ 2 นั้นจะเกี่ยวกับสัมคมหรือชีวิตประจำวัน อย่างเช่น ครอบครัว อาหาร และสภาพแวดล้อมต่างๆ เพราะฉะนั้นถ้าเตรียมตัวดีๆ ก็ทำได้แน่ค่ะ!

ค่าใช้จ่าย

  • TOEFL iBT: ต่างกันในแต่ละประเทศ แต่ราคาที่ไทยคือ $215 หรือประมาณ 6,900 บาท (อมกก แพงมากจริงๆ ค่ะ)
  • TOEFL ITP: แล้วแต่สถาบันหรือศูนย์ที่จัดสอบ ราคาปกติอยู่ที่ประมาณ 1,000 - 2,000 บาท

อายุการใช้งาน

  • TOEFL iBT: 2 ปี หลังจากวันสอบ
  • TOEFL ITP: 2 ปี หลังจากวันสอบ

........

จบไปแล้วสำหรับรีวิวความต่างของ TOEFL iBT และ TOEFL ITP หวังว่าวันนี้น้องๆ จะเข้าใจมากขึ้น และไม่(เกือบ)ใช้ผิดแบบพี่นะคะ 5555 เพราะข้อสอบนั้นมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างแพงมาก ดังนั้นเวลาจะยื่นเข้ามหา’ลัย เราควรเตรียมตัวให้ดีก่อนสอบแต่ละครั้ง ทั้งศึกษารายละเอียดจากประกาศรับสมัครว่าต้องใช้คะแนนอะไรบ้าง ขั้นต่ำเท่าไหร่ สอบแบบไหน และประเภทอะไร ไม่ว่าจะเป็น TOEFL IELTS หรือ TOEIC ก็ตาม รวมทั้งฝึกฟังพูดอ่านเขียนเยอะๆ ตอนไปสอบจริงก็ขอให้ทุกคนพักผ่อนให้เพียงพอ ถ้าเราพร้อมตอนสอบก็จะไม่ตื่นเต้นและทำได้แน่นอนค่ะ 

 

Sources:https://www.ets.org/toefl/test-takers/ibt/why/accepted-preferred https://global-exam.com/blog/en/toefl-ibt-or-toefl-itp-what-are-the-differences/#:~:text=Main%20Tests%20Differences%3F-,TOELF%20ITP%20vs%20TOEFL%20IBT%3A%20What%20Are%20The%20Main%20Tests,English%20as%20a%20foreign%20language. https://www.ets.org/s/toefl_family/pdf/toefl_family_brochure.pdf https://www.ets.org/toefl_itp/content/ https://www.ets.org/toefl/test-takers/ibt/about/content/#:~:text=TOEFL%20iBT%20%C2%AE%20Test%20Content,in%20response%20to%20a%20question  https://v2.ereg.ets.org/ereg/public/testcenter/availability/seats?_p=TEL
พี่เมนี่
พี่เมนี่ - Columnist ปัจจัย 3 ในการดำรงชีวิต: ดูซีรีส์ กิน ชอปปิง

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด