บอกต่อ! 5 วิธี "ขอโทษ" ที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า "ได้ผล!"

Spoil

  • อย่าเคลียร์กันนานเกิน 10 นาที เพราะไม่อย่างนั้นเรื่องเก่าๆ จะถูกขุดขึ้นมา
  • บางกรณี ขอโทษไม่พอ ควรบอกด้วยว่าจะแก้ไขอย่างไร
  • ภาษากายสำคัญมาก หลีกเลี่ยงการกอดอก ยืนสูงกว่า และตอนพูด อย่าลืมสบตาด้วย

การขอโทษมักเป็นเรื่องยากเพราะเรามักไม่ยอมรับว่าตัวเองผิดตั้งแต่แรก  แต่เมื่อไหร่ที่รู้สึกเอาล่ะอยากจะขอโทษขึ้นมาจริงๆ แต่อีกฝ่ายดันไม่ยอมให้อภัยง่ายๆ ซะงั้น อย่าเพิ่งกังวลใจไปวันนี้พี่เบเบสนำเอาเคล็ดลับตามหลักวิทยาศาสตร์มาบอกเพื่อนๆ สำหรับวิธีการขอโทษที่ได้ผลดีที่สุด!

 ให้เวลาอีกฝ่ายบ้าง

จากการศึกษาของ Aaron Lazare ผู้เขียนหนังสือ On Apologies  มีข้อแนะนำว่า การพูด "ขอโทษ" เร็วเกินไป ก็อาจทำให้พลาดขั้นตอนสำคัญบางอย่าง เช่น ไม่มีเวลาให้ฝ่ายตรงข้ามได้แสดงความรู้สึกโกรธ ผิดหวัง ไม่มีเวลาให้ได้ไตร่ตรองร่วมกัน หรือชดเชยในสิ่งที่เกิดขึ้น การรีบร้อนขอโทษจึงถือเป็นวิธีแก้ปัญหาแบบผิวเผิน แต่ยังไม่ตรงจุดเสียทีเดียว 

รูปภาพจาก freepik.com
รูปภาพจาก freepik.com

อย่าเคลียร์กันนานเกินไป

งานวิจัยในปี 2013  ที่ตีพิมพ์ใน Western Journal of Communication พบว่า เมื่อคู่รักจับเข่าคุยกันถึงปัญหาในความสัมพันธ์ที่กำลังเกิดขึ้น (อาทิ เรื่องนิสัยที่ไม่พึงประสงค์ หรือเรื่องการจัดการเวลา) หากใช้เวลาเคลียร์กันนานเกิน 10 นาทีแล้วยังไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งขอโทษ ก็จะเริ่มลามไปรื้อฟื้นปัญหาอื่นๆ ขึ้นมา ไม่ว่าจะเรื่องหึงหวง เชื่อใจ ฯลฯ สาเหตุก็เพราะคนเราต้องการความแน่นอนในความสัมพันธ์ เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่ามีปัญหาเล็กๆ เกิดขึ้น มันก็อดจะคิดมากไปถึงปัญหาอื่นๆ ที่ยังคาอยู่ในใจไม่ได้

รูปภาพจาก freepik.com
รูปภาพจาก freepik.com

อย่าขอโทษเพื่อตัวเอง

 Kimberly Eclipse จากเว็บไซต์ Psychology Today นิยามว่า คำขอโทษ "เป็นผลงานของผู้กล้า" เพราะคนเราต้องรวบรวมความกล้าเป็นอย่างมาก ในการยอมรับว่าตนเองเป็นฝ่ายผิด แต่แม้จะอยากได้รับการให้อภัยมากแค่ไหน Eclipse ก็เน้นย้ำว่าห้ามลืมเด็ดขาดว่า หัวใจของการขอโทษ ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อเยียวยาความรู้สึกของอีกฝ่าย จำไว้ว่าเมื่อขอโทษทุกครั้ง ให้คิดถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่แค่คิดแต่อยากให้เขาให้อภัยเรา เพื่อความสบายใจของตัวเราเองเท่านั้น

รูปภาพจาก freepik.com
รูปภาพจาก freepik.com

ขอโทษไม่พอ แก้ไขด้วย

แค่พูดว่า "ขอโทษ" ใครๆ ก็พูดได้ แต่จะดีกว่ามากๆ ถ้าเราขอโทษพร้อมบอกวิธีการแก้ไข หรือปรับปรุงตัวเองในอนาคต เช่น หากเผลอพูดทำร้ายจิตใจใคร ก็ต้องรับปากว่าจะไม่ทำพฤติกรรมแบบนี้อีก หรือเมื่อแม่บ่นว่าเราไม่ช่วยงานบ้าน ก็ควรขอโทษและช่วยเหลือในสิ่งที่ทำได้  การทำแบบนี้นอกจากจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าเราขอโทษอย่างจริงใจ ยังเป็นโอกาสดีที่เราจะได้แก้ไขข้อเสียของตัวเองด้วย เหมือนที่โบราณบอกว่า "การกระทำเสียงดังกว่าคำพูด"  ยังไงล่ะคะ

รูปภาพจาก freepik.com
รูปภาพจาก freepik.com

 ใช้ภาษากายช่วยให้การขอโทษดูน่าเห็นใจ

ยิ่งคนที่เราขอโทษเป็นคนที่เราแคร์มากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งเครียดในการพูดคำว่า "ขอโทษ" มากเท่านั้น ดังนั้นนอกจากระวังคำพูดแล้ว เรายังต้องระวังภาษากายให้มากๆ  Dr. Gary Wood นักจิตวิทยาท่านหนึ่งได้ให้คำแนะนำว่าเราไม่ควรกอดอก หรือยืนในตำแหน่งที่สูงกว่า แต่ควรเปิดร่างกายให้ชัดเจน และยืนในระดับเดียวกันกับคนที่เราต้องการขอโทษ และที่สำคัญคือควรสบตาผู้พูดด้วย เพื่อให้เราดูจริงใจมากยิ่งขึ้น

รูปภาพจาก freepik.com
รูปภาพจาก freepik.com

ถึงแม้จะไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับคำขอโทษที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกคนและทุกสถานการณ์ แต่เชื่อพี่เบเบสเถอะว่าคำขอโทษอย่างจริงใจ ยังไงก็จบสวยเสมอ แต่อย่าลืมว่าต้องทำใจเย็นๆ ห้ามใช้อารมณ์ และพูดคุยกันด้วยเหตุผลด้วยนะคะ

เป็นยังไงบ้างคะ? ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะ อย่าลืมลองนำไปใช้กันนะคะ แล้วได้ผลยังไงบ้างก็อย่าลืมคอมเมนต์มาบอกพี่เบเบสและเพื่อนๆ ชาว DEK-D กันบ้างนะ

 

 ที่มาข้อมูลhttps://www.bustle.com/articles/143920-whats-the-best-way-to-apologize-heres-the-science-behind-effective-apologies
พี่เบเบส
พี่เบเบส - Columnist คอลัมนิสต์

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น