กำลังเศร้าอยู่หรือเปล่า? 6 วิธีง่ายๆ ช่วยให้หายเศร้าได้อย่างไว!

       พี่เบเบสเชื่อว่าคงไม่มีใครที่อยากรู้สึกเครียดหรือเศร้าไปนานๆ หรอกใช่ไหมล่ะคะ แม้เราจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเศร้าได้ แต่เราก็สามารถปรับอารมณ์ให้ดีขึ้นและลืมเรื่องที่เศร้าไปได้ไม่ยากเช่นกัน วันนี้พี่เบเบสมีวิธีที่จะช่วยให้ทุกคนหายเศร้าแบบไวๆ บอกเลยว่าง่ายมากๆ จะมีวิธีไหนบ้าง ไปดูกันนน

ฟังเพลงช่วยให้รู้สึกดีขึ้น

เป็นที่ทราบกันดีว่าดนตรีสามารถเปลี่ยนแปลงอารมณ์ และช่วยลดความเครียดได้ดีเยี่ยม โรงพยาบาลหลายๆ แห่งจึงใช้ดนตรีในการรักษาบำบัดทั้งร่างกายและจิตใจ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยพบด้วยว่า ดนตรีบางประเภทมีผลต่อความสุข (happiness) ในบุคคลได้จริงๆ

นักวิจัยจาก Osaka University ประเทศญี่ปุ่น ได้ศึกษาระดับคอร์ติซอล   (Cortisol)  หรือฮอร์โมนความเครียดในน้ำลายและการตอบสนองทางร่างกายส่วนอื่นๆ   พบว่า ดนตรีมีส่วนสัมพันธ์ในการลดความเครียดและเพิ่มความสุขในร่างกาย ดังนั้นรู้สึกโหยหาความสุขเมื่อไหร่ ลองเปิดเพลงสนุกๆ ดูสิ

เสียงหัวเราะเป็นยาชั้นดี

พี่เบเบสคิดว่า น้องๆ ต้องเคยได้ยินคำนี้แน่ๆ 'เสียงหัวเราะคือยาวิเศษ' (Laughter is the best medicine)  เพราะประโยชน์ของการหัวเราะไม่ได้มีแค่ทำให้เราอารมณ์ดีเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน และทำให้อายุยืนด้วย!  ดังนั้นใครที่กำลังเศร้า หรือเคร่งเครียดจนรอยยิ้มหายไปจากใบหน้า ก็ลองเปิดรายการตลกๆ หรือคลิปขำๆ ขึ้นมาดูสิ แต่จะให้ดี ควรทำให้ตัวเองเป็นคนอารมณ์ดี มีอารมณ์ขันอยู่เสมอ เพราะการหัวเราะสามารถนำความสุขมาให้เรา และทำให้เศร้าน้อยลงค่ะ

 เปลี่ยนมุมมองความคิด

บ่อยครั้งความพึงพอใจในชีวิตเราก็ถูกผูกติดเอาไว้กับความคาดหวังและการเปรียบเทียบ เช่น อยากได้ อยากมี อยากเก่งเหมือนคนอื่น จนทำให้รู้สึกไม่พอใจในตนเอง ในทางกลับกัน หากเรานำความสามารถที่มีไปใช้ช่วยเหลือผู้อื่น เราก็จะเข้าใจว่าเราไม่ได้แย่ขนาดที่ตัวเองคิดเลย

ดังนั้น วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้หายเศร้าได้ก็คือ ลองเปลี่ยนมุมมอง จากการโฟกัสในสิ่งที่เราไม่มีหรือทำไม่ได้ เปลี่ยนเป็นโฟกัสในสิ่งที่เราทำได้ดี โลกนี้อาจจะมีคนที่เก่งและดีกว่าเราอีกมากมาย แต่เราก็เองยังเก่งและดีกว่าคนอีกมากมายเช่นกัน เมื่อเราเห็นคุณค่าและรักตัวเอง เราก็จะมีความสุขมากขึ้นไปเองค่ะ

ทำความดีแลกเปลี่ยนความสุข

เคยไหม? รู้สึกแฮปปี้ในเวลาที่ได้ช่วยเหลือใครสักคน เรื่องนี้อาจไม่ได้คิดไปเองนะคะ เพราะมีงานวิจัยแสดงให้เห็นว่า ผู้ที่เป็นอาสาสมัครนั้นมีแนวโน้มจะสุขภาพแข็งแรงและมีความสุขมากกว่าคนอื่นๆ เกิดขึ้นจากสาเหตุ 2-3 ข้อด้วยกัน

ข้อแรก  ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ (altruism)  ย่อมนำความสุขมาให้ผู้กระทำ เพราะเราได้ย้ายจุดโฟกัสจากตัวเอง หรือปัญหาของตัวเอง ไปโฟกัสที่การช่วยเหลือให้ผู้อื่นมีความสุข อีกข้อก็คือ รอยยิ้มที่เรามอบให้คนอื่นนั้น มีอานุภาพรุนแรงคล้ายโรคติดต่อ และยังสามารถช่วยส่งต่อความสุขให้ผู้รับได้ด้วย ส่วนข้อสุดท้าย เมื่อคนเราเจอคนที่ต้องการความช่วยเหลือ เราจะเปลี่ยนโฟกัสจากสิ่งที่เราไม่มี เป็นสิ่งที่เรามีและพอจะช่วยคนอื่นได้นั่นเอง

จริงๆ แล้วการทำความดี ไม่จำเป็นต้องเป็นอาสาสมัคร หรือลงมือช่วยผู้อื่นเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการพูดจาดีๆ ต่อกันด้วย เคล็ดลับการมีความสุขก็ไม่มีอะไรมาก แค่เราได้แชร์ความสุขให้คนอื่น เราก็จะรู้สึกมีความสุขในตัวเองไปด้วยแล้ว

สมาธิช่วยให้ผ่อนคลาย

               หลายคนคิดว่าการทำสมาธิเป็นวิธีจัดการความเครียดมากกว่าการเพิ่มความสุข ทั้งที่ความจริงแล้วสามารถช่วยได้ทั้ง 2 อย่าง  เพราะการทำสมาธิแค่เพียงไม่กี่นาทีก็ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย และยังมีงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการทำสมาธิเป็นประจำสามารถเพิ่มระดับความสุขให้มากขึ้นได้อีกด้วย 

เลือกทำในสิ่งที่มีความสุข

Robert Holden ผู้เชี่ยวชาญด้านความสุข และผู้เขียนหนังสือ Successful 8-Week Course of  the Development of Happiness บอกว่า  จริงๆ เราไม่ต้องพยายามทำอะไรให้ยุ่งยากเพื่อให้มีความสุขหรอก แค่ มีความสุข  ไปเลยก็พอ เพราะเราทุกคนต่างรู้อยู่แล้วว่าต้องทำยังไงถึงจะมีความสุข แล้วทำไมจึงไม่เริ่มทำสิ่งนั้นตั้งแต่ตอนนี้เลย

อีกสิ่งที่สามารถทำได้เช่นกันคือ เมื่อตื่นนอนให้บอกตัวเองว่าวันนี้ฉันจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และคิดถึงสิ่งที่จะทำให้เรามีความสุขได้ในวันนั้น จำไว้ว่าเราไม่ต้องรอจนกว่าความสุขจะมาหาเราเลย แต่เราสามารถเลือกที่จะมีความสุขได้ ด้วยการทำในสิ่งที่มีความสุขค่ะ

  นอกเหนือจากวิธีที่บอกไป พี่เบเบสก็อยากแนะนำให้เพื่อนๆ ไม่จมปักอยู่กับความรู้สึกแย่ๆ Move on และมองโลกในแง่ดีเข้าไว้นะคะ วันนี้เราอาจเจอเรื่องแย่ๆ แต่วันพรุ่งนี้อาจมีเรื่องดีๆ ที่รอเราอยู่ก็ได้  คิดเห็นอย่างไรกับบทความนี้อย่าลืมคอมเมนต์พูดคุยกันได้เช่นเคยน้าาา