พูดไม่ออกบอกไม่ถูกแต่ชอบพิมพ์: ‘Textrovert’ บุคลิกคนยุคใหม่ที่ถนัดสื่อสารด้วยตัวอักษร (ใช่เรามั้ยนะ?)

สวัสดีครับชาว Dek-D ทุกคน ยุคนี้เวลามีอะไรใหม่ๆ ก็ต้องอัปเดตเทรนด์ตามกระแสโซเชียลกันใช่ไหมล่ะครับ ทุกวันนี้แค่พิมพ์ข้อความ กดส่ง ทุกคนก็เข้าใจอารมณ์และความรู้สึกสิ่งที่อยากจะบอกโดยไม่ต้องอ้าปากพูดแม้แต่คำเดียว 

ว่าแต่น้องๆ รู้ไหมครับว่ามันมีคำศัพท์เกิดใหม่คำนึงที่น่าสนใจมาก นั่นก็คือ Textrovert (เท็กซ์โทรเวิร์ต) สื่อถึงคนที่มีความมั่นใจในโลกออนไลน์ แต่มีแนวโน้มขี้อายในชีวิตจริง // เอ๊ะ เราคือหนึ่งในนั้นรึเปล่านะ? ไปรู้จักคำนี้ให้มากขึ้นกันครับ

เมื่อตัวอักษรสื่อความหมายดีกว่า ‘คำพูด’

เล่าก่อนว่า ‘Textrovert’ นี้เป็นศัพท์ที่อิงมาจากชื่อหนังสือของลินเซย์ ซัมเมอร์ (Lindsey Summers) นักเขียนนวนิยายชาวอังกฤษ ที่เล่าเรื่องราวของ ‘คีลีย์’ นักเรียน ม.ปลายที่เผลอหยิบโทรศัพท์สลับเครื่องกับ ‘ทาลอน’ นักฟุตบอลโรงเรียน ทั้งคู่จึงตัดสินใจส่งข้อความเพื่อขอแลกโทรศัพท์คืนครับ แต่ระหว่างที่ต้องรอโรงเรียนเปิดอีก 1 สัปดาห์ คีลีย์ก็ค้นพบว่าเวลาที่คุยในแช็ตกับทาลอน เธอกล้าเป็นตัวของตัวเองเต็มที่ ไม่ได้ขาดความมั่นใจเหมือนตอนพูดคุยต่อหน้า

มีใครกำลังรู้สึกเหมือนคีลีย์มั้ยครับ? ลักษณะเด่นของ Textrovert คือชอบเก็บตัวเงียบๆ เวลาเห็นอะไรก็คิดดังๆ ในใจ ไม่กล้าพูดออกมาให้คนอื่นรู้   ตรงข้ามกับตอนอยู่ในโลกโซเชียลที่กล้าพิมพ์ข้อความชวนคุยกับคนอื่นผ่านแอปพลิเคชันแช็ตต่างๆ แบบลื่นไหล ถนัดถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกผ่านตัวอักษรมากกว่าการพูดออกต่อหน้า แถมยังร่าเริงต่างกับตัวจริง จนหลายคนก็สงสัยว่าตกลงเขามีบุคลิกแบบไหนกันแน่เนี่ย! 

..................................

Textrovert VS นักเลงคีย์บอร์ด 

น้องๆ อาจจะสงสัยกันว่าคนสองกลุ่มนี้ต่างกันยังไง? เพราะทั้งคู่ดูจะชอบสิงอยู่ในโลกออนไลน์และคอมเมนต์หรือแช็ตกับคนอื่นเหมือนกัน? คำตอบคือคนที่มีลักษณะ 'Textrovert' จะชอบคุยหรือทำงานด้วยการพิมพ์เพราะมองว่าจะทำให้คนเข้าใจได้ง่ายกว่าสื่อสารด้วยคำพูด ซึ่งก่อนจะกดส่งข้อความ ก็ได้ผ่านกระบวนการคิดและเรียบเรียงมาก่อนแล้ว

ดังนั้นจึงต่างกับ ‘นักเลงคีย์บอร์ด’ ที่ใช้คำพูดแง่ลบ ด่าทอคนอื่นแบบไร้เหตุผล สร้างเรื่องให้เกิดความเข้าใจผิดเพื่อหวังปั่นกระแส หรือถ้าเจอคนเห็นต่างก็อาจทักแช็ตไปด่าแล้วบล็อกหายไปทันทีก็ได้

..................................

ลิสต์ข้อควรรู้! ของคนชอบพิมพ์

การแสดงความรู้สึก โดยการพิมพ์ก็จะสะดวกสบายและมีเวลาให้คิด แต่ก็มีเช็กลิสต์สิ่งที่ควรรู้ไว้อยู่เหมือนกัน

1.ใช้เหตุผล คิดหน้าคิดหลังก่อนพิมพ์เสมอ ทุกข้อความมีโอกาสถูกส่งต่อและย้อนกลับมาทำร้ายเราในภายหลังได้

2.ไม่จำเป็นต้องตอบทันที พักแช็ตบ้างก็ได้หากต้องการเวลาส่วนตัว ยกเว้นเรื่องฉุกเฉินจริงๆ

3.อย่าลืมให้ความสำคัญกับคนข้างๆ การก้มหน้าก้มตาพิมพ์ตลอดเวลาทำให้เสียทั้งสุขภาพและความสัมพันธ์กับคนในชีวิตจริง

..................................

สายงานไหนเหมาะกับมนุษย์โลก(ออนไลน์) 

ใครพบว่าตัวเองมีแนวโน้มมีบุคลิกภาพแบบ Textrovert วันนี้พี่มีตัวอย่างสายงานที่เหมาะมาฝากครับ

1. นักเขียน 

เรียกได้ว่าอาชีพนี้เป็นช้อยส์แรกๆ ของบรรดาชาว Textrovert เพราะนักเขียนส่วนใหญ่จะต้องใช้สมาธิไปกับการเขียนและหาไอเดียใหม่ๆ  นอกจากนี้ยังต้องการเวลาและพื้นที่ส่วนตัว เหมาะกับคนที่ค่อนข้างจะอายในชีวิตจริง ชอบคุยผ่านตัวอักษรเสียมากกว่าการพูดครับ // แต่ก็ไม่ใช่ว่างานนี้จะเอาแต่เขียนอย่างเดียวนะ ยังไงสุดท้ายก็ต้องมีการสื่อสารกับคนในทีมและเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ อยู่ดี 

2. โปรแกรมเมอร์ 

อาชีพนี้ก็ต้องใช้เวลาส่วนใหญ่จดจ่อสมาธิเขียนโค้ดหน้าจอคอมพ์เหมือนกันครับ แต่ก็มีช่วงที่ประสานงานกับคนอื่นบ้างเหมือนกัน  

3. ช่างถ่ายภาพวิวธรรมชาติ 

สำหรับคนที่ชอบตั้งแคมป์หรือ backpack คนเดียวชิลล์ๆ รักความเป็นธรรมชาติ อาชีพนี้ก็น่าสนใจเหมือนกันครับ แค่ต้องเก็บข้อมูลว่าสถานที่ไหนวิวดี มุมไหนสวย แล้วอัปสกิลถ่ายรูปพื้นฐานไว้พร้อมออกเดินทาง ภาพไหนถ่ายแล้วองค์ประกอบออกมาดี มีสิทธิที่คนจะขอซื้อต่อไปใส่ทั้งในงานบทความ อินโฟกราฟิก หรือจะลงเว็บ Stock ออนไลน์ไว้หารายได้เสริมก็ได้ครับ 

4. กราฟิกดีไซน์ 

อีกหนึ่งสายเน้นความครีเอทีฟสุดๆ นอกจากต้องใช้สมาธิแล้วยังต้องวางแผนออกแบบดีไซน์​แสดงความเป็นตัวเอง ใครที่รักอิสระ ชอบลงมือทำมากกว่าการพูดคุยเวลาทำงาน อาชีพนี้อาจใช่ทางเราก็ได้ครับ

..................................

เป็นอย่างไรกันบ้างครับมีใครเห็นแล้วรู้สึกว่า เห้ยยย มันตรงกับตัวเราเลย แบบไม่ค่อยพูดในชีวิตจริงแต่เฟี้ยวมากๆ ในโลกออนไลน์ ชอบใช้ตัวอักษรสื่อถึงความเป็นตัวเองมากกว่า แต่อย่าลืมว่าทุกสิ่งมันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียนะครับ อย่างเช่นเรื่องของคำพูดก็เป็นอีกหนึ่งที่เราต้องระวังเอาไว้มากๆ ถ้าพูดอะไรผิดไปนิดเดียวความหมายอาจจะเปลี่ยน แทนที่จะเป็น Textrovert อาจจะกลายเป็นนักเลงคีย์บอร์ดแทน ดังนั้นไม่ว่าจะพิมพ์อะไรก็เช็กกันดีๆ ก่อนจะกดส่ง สุดท้ายนี้ก็ขอให้น้องๆ มีความสุขกับตัวตนที่เราชอบนะครับ :)