ไม่สายที่จะเรียนรู้! รวมลิสต์ 9 เว็บ-แอปฯ ฝึกภาษาต่างประเทศต้อนรับปี 2021

สวัสดีค่ะชาว Dek-D ช่วงใกล้ปีใหม่แบบนี้ หลายคนคงเริ่มตั้งภารกิจ New Year Resolutions 2021 ที่จะทำให้สำเร็จในปีหน้านี้ และหากเป้าหมายของใครคือ “การฝึกภาษาเพิ่ม” วันนี้พี่มีตัวช่วยเป็น 9 เว็บไซต์เจ๋งๆ ให้ตามไปเรียนกันตามความสนใจเลยค่ะ บอกเลยว่าภาษาไม่ใช่แค่เรียนแล้วสนุก แต่ยังเป็นประตูที่พาเราไปเจอโอกาสใหม่ๆ ทั้งแหล่งข้อมูล การเรียน และการทำงานในอนาคต //เลื่อนลงมาดูกันเลยว่ามีเว็บไหนน่าสนใจบ้าง ^^

1. Duolingo

เริ่มที่แอปพลิเคชันฝึกภาษาที่เป็นขวัญใจของใครหลายคนอย่าง Duolingo กันค่ะ ความเจ๋งคือแอปฯ นี้มีให้เลือกเรียนถึง 20 ภาษา เช่น ภาษาสเปน, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อังกฤษ, จีน, รัสเซีย, อิตาเลียน, กรีก, โปรตุเกส และอีกเพียบ โดยเนื้อหาทั้งเข้าใจง่าย สนุก และมีคลาสเรียนที่ให้เราฝึกภาษากับผู้ใช้งานคนอื่นๆ ได้จริง มีการเก็บสถิติการเรียนของเราในแต่ละวัน รวมทั้งมีตารางจัดอันดับและควิซสนุกๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานเรียนรู้ภาษาต่างประเทศได้ด้วยตัวเองได้อย่างรวดเร็วด้วย

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งในระบบ iOS, Android และ Windows phones โหลดติดเครื่องไว้ เปิดมาฝึกได้ทุกที่ทุกเวลาเลยค่ะ

เว็บไซต์: https://www.duolingo.com/  

 2. Babbel

มาต่อกันที่ Babbel กันบ้างค่ะ ในแอปพลิเคชันนี้ได้บรรจุบทเรียนและแบบฝึกหัดมากมายที่จะช่วยอัปสกิลการพูดของเราให้คล่องขึ้น โดยเลือกเรียนได้มากถึง 14 ภาษา ได้แก่ สเปน, เยอรมัน, ฝรั่งเศส, อังกฤษ, รัสเซีย ฯลฯ จุดเด่นของ Babbel คือโหมดสนทนาที่ทำให้เหมือนได้เรียนกับเจ้าของภาษาตัวจริง โดยแต่ละบทเรียนถูกออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา มีการจำลองบทสนาที่พูดคุยโต้ตอบได้ มีโหมดฟังเสียงเจ้าของภาษาและฝึกพูดตาม และผู้เรียนสามารถเข้าไปทบทวนเนื้อหาเก่าๆ ที่เคยเรียนซ้ำได้ด้วย

หากใครสนใจก็ตามไปโหลดกันได้ทั้งในระบบ iOS และ Android โลดเลยค่ะ  

เว็บไซต์: https://www.babbel.com/  

3. Busuu

Busuu เป็นแอปพลิเคชันที่ได้ชื่อว่าเป็นคอมมูนิตี้สำหรับคนรักการเรียนภาษาที่ใหญ่ที่สุด โดยมีจำนวนผู้ใช้งานจากทั่วโลกกว่า 80 ล้านคน และมีภาษาต่างๆ ให้เลือกเรียนทั้งหมด 12 ภาษา ได้แก่ อังกฤษ, ฝรั่งเศส, สเปน, อิตาเลียน, เยอรมัน, จีน, ญี่ปุ่น, โปลิช, รัสเซีย, อาหรับ และตุรกี  

สำหรับฟีเจอร์หลักๆ จะครอบคลุมเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องการทักทาย, การแนะนำตัว, การถามไถ่ทุกข์สุข เป็นต้น  ที่น่าสนใจคือมีฟังก์ชันให้ผู้ใช้งานได้เรียนกับเจ้าของภาษาตัวจริง แถมยังมีโหมด “Community” ให้ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกับเพื่อนที่เรียนภาษาเดียวกับเราด้วย  

อย่างไรก็ดี ทางแอปฯ เค้าเปิดให้เรียนฟรีในเลเวลเบื้องต้นเท่านั้นค่ะ ดังนั้น หากอยากเลือกเรียนหลายๆ ภาษาพร้อมกัน รวมถึงถ้าต้องการเข้าถึงบทเรียนแบบเต็มรูปแบบ ซึ่งจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องคำศัพท์, ไวยากรณ์, บทสนทนา, การฟัง, การฝึกเขียนอย่างละเอียดเหมือนเรียนอยู่ในสถาบันสอนภาษาดังๆ ก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มค่ะ    

เว็บไซต์: https://www.busuu.com/  

4. Memrise

สำหรับใครที่เบื่อวิธีการท่องศัพท์แบบเดิมๆ บอกเลยว่า Memrise ตอบโจทย์แน่นอนค่ะ  เพราะเค้าจะมีคลิปสอนคำศัพท์จากเจ้าของภาษาให้เราได้ดู จากนั้นจะมีเกมสนุกๆ ให้เลือกว่าคำศัพท์ดังกล่าวออกเสียงยังไง หรือบางทีก็สลับให้เลือกว่าคำๆ นั้นเขียนยังไง หรือไม่ก็ให้เลือกความหมายของคำศัพท์วนไปเรื่อยๆ จนเราจำได้เองเลยค่ะ (ช่วยให้จำศัพท์ได้แบบไม่น่าเบื่อเลย) ทั้งนี้เราจะได้เริ่มจากเลเวลง่ายๆ ไม่มีพื้นฐานก็เรียนได้ สามารถตั้งเป้าในแต่ละวันได้ตามต้องการ และมีเก็บแต้มเพื่อให้เห็นพัฒนาการของตัวเองอีกด้วย

จุดเด่นอีกอย่างคือเราสามารถเลือกเรียนหลายภาษาได้พร้อมกันค่ะ ซึ่ง Memrise มีให้เลือกถึง 20 ภาษา!! และถ้าจ่ายเงินค่าซื้อเวอร์ชันเต็มก็จะสามารถเข้าถึงบทเรียนที่หลากหลายและเจาะลึกมากขึ้น แนะนำให้ลองดาวน์โหลดมาใช้งานกันดูก่อนได้เลย  รับรองว่าจำศัพท์ได้เยอะขึ้นแน่นอนค่ะ

เว็บไซต์:  https://www.memrise.com/  

5. Forvo

Forvo เป็นแอปพลิเคชันฝึกภาษาแบบเสียเงินที่ค่อนข้างคุ้มค่าทีเดียวค่ะ โดยจะเป็นพจนานุกรมที่รวบรวมคำศัพท์ในภาษาต่างๆ ไว้มากถึง 335 ภาษาด้วยกัน ผู้ใช้งานสามารถเรียนรู้วิธีการออกเสียงจากเจ้าของภาษาได้โดยตรง ทั้งยังมีสำเนียงต่างๆ มากถึง 4 ล้านสำเนียงให้เลือกฟังอีกด้วย ทำให้เรารู้ว่าในหนึ่งคำสามารถออกเสียงด้วยสำเนียงที่แตกต่างกันได้ยังไงบ้าง และยังสามารถเซฟเสียงคำศัพท์มาเก็บไว้ฟังซ้ำๆ ได้ด้วยนะคะ

เสน่ห์อย่างหนึ่งของแอปฯ นี้คือนอกจากจะฝึกสกิลการฟังแล้ว ยังช่วยฝึกเรื่องการพูดให้ใกล้เคียงเจ้าของภาษา โดยจะมีฟังก์ชันให้เราแชตพูดคุยเรื่องสัพเพเหระ หรือแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้ใช้งานคนอื่นได้ตลอดเวลา หรือใครอยากลองบันทึกเสียงภาษาแม่ของตัวเองแล้วนำไปสอนภาษาให้เพื่อนต่างชาติเพิ่มเติมก็ยังได้ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปลองใช้งานได้ทั้งบนเว็บไซต์และในระบบ iOS ตามที่สะดวกเลยค่ะ

เว็บไซต์: https://forvo.com/  

6.Open Culture

Open Culture เป็นเว็บไซต์รวบรวมทรัพยากรสำหรับการเรียนภาษาต่างประเทศที่ทั้งฟรีและดีเลยค่ะ โดยเค้ามีคอร์สออนไลน์ให้เลือกเรียนมากถึง 1,500 คอร์ส มีภาพยนตร์ให้ชมกว่า 1,150 เรื่อง  หนังสือเสียงอีกกว่า 700 เรื่อง และมีหนังสือประเภทต่างๆ ให้ได้เข้าไปอ่านฟรีอีกประมาณ 800 เล่ม ภายในเว็บไซต์ยังมีเนื้อหาบทเรียนในภาษาต่างๆ มากถึง 48 ภาษา ซึ่งรวมเอาคอร์สเรียนที่สอนโดยอาจารย์มหาวิทยาลัยดังมาให้ได้ดาวน์โหลดไปเรียนแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย ในส่วนของเนื้อหาการเรียนจะครอบคลุมตั้งแต่วิชาภาษาต่างประเทศ, วิศวกรรม, วิทยาศาสตร์, คณิตศาสตร์, ดาราศาสตร์ ฯลฯ นับว่าเป็นการเปิดหลักสูตรให้เลือกเรียนวิชาที่ชอบได้จากที่บ้านเลยค่ะ

เว็บไซต์: https://www.openculture.com/freelanguagelessons  

7. Living Language

Living Language  เป็นแหล่งฝึกภาษาแบบเรียนรู้ด้วยตนเองที่ก่อตั้ง โดยผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาต่างประเทศของอเมริกา แรกเริ่มมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดสอนนักการทูตและเจ้าหน้าที่ที่ไปประจำการในต่างแดน ต่อมาได้พัฒนาเป็นแพลตฟอร์มสอนภาษาที่มีให้เลือกเรียนมากกว่า 22 ภาษาด้วยกัน ได้แก่ ฝรั่งเศส, เยอรมัน, ดัตช์, อังกฤษ, จีน, สเปน เป็นต้น  

สำหรับเนื้อหาการเรียนจะปูพื้นฐานตั้งแต่เรื่องไวยากรณ์, คำศัพท์, วลีและสำนวนที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน ฯลฯ แถมยังมีระบบการบันทึกเสียง เกมต่างๆ รวมทั้ง Flashcards มาให้ท่องศัพท์กันลืมอีกด้วยค่ะ ในส่วนของค่าใช้จ่ายการเรียนต่อเดือนจะอยู่ที่ 25 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 750 บาท นอกจากนี้เค้ายังมีคอร์สเรียนภาษาแบบเฉพาะเรื่อง อย่างเช่น ภาษาต่างประเทศในที่ทำงาน, การเดินทางท่องเที่ยว, การทำธุรกิจ เป็นต้น ซึ่งก็จะมีค่าใช้จ่ายต่อเดือนอยู่ที่ 15 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 450 บาทนั่นเองค่ะ 

เว็บไซต์: https://www.livinglanguage.com/  

8. Readlang

มาต่อกันกับ Readlang หนึ่งในเว็บไซต์ฝึกทักษะภาษาด้านการเรียนรู้คำศัพท์ที่เจ๋งมากๆ อีกเว็บหนึ่ง โดยมีภาษาให้เลือกมากกว่า 40 ภาษา จุดเด่นคือ เว็บไซต์ของเค้านั้นใช้งานง่าย และมีฟีเจอร์สำคัญที่ช่วยแปลคำศัพท์และวลีต่างๆ บนเว็บไซต์ได้แบบเรียลไทม์ แถมยังคำศัพท์ที่เราแปลยังสามารถเซฟเก็บไว้ใน Flashcards แล้วกลับมาทบทวนซ้ำได้ตลอดเวลาอีกด้วย    

เว็บไซต์: https://readlang.com/es/dashboard  

9. Rosetta Stone

ปิดท้ายกันที่โปรแกรมเรียนภาษาต่างประเทศชื่อดังอย่าง Rosetta Stone กันค่ะ สำหรับโปรแกรมนี้จะเหมาะกับคนที่เน้นฝึกสกิลการพูดและการเขียนเป็นหลัก ซึ่งนอกจากภาษาอังกฤษแล้ว ยังมีภาษาอื่นๆ อีกกว่า 17 ภาษาให้ได้ฝึกอัปสกิลกัน  หลักๆ แล้วเนื้อหาครอบคลุมเรื่องการเรียนคำศัพท์ วลีและสำนวนจากบริบท อธิบายให้ความรู้เรื่องไวยากรณ์และการออกเสียงที่ถูกต้อง รวมทั้งมีเกมต่างๆ ที่ช่วยให้การเรียนภาษาเป็นเรื่องสนุก แถมพูดคล่องเหมือนเจ้าของภาษามาเอง!

เว็บไซต์: https://www.rosettastone.com/  

เป็นยังไงกันบ้างคะกับบทความที่นำฝากกันในวันนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังมองหาช่องทางในการเข้าถึงแหล่งเรียนภาษาต่างประเทศไม่มากก็น้อย ยิ่งในปัจจุบันมีแหล่งเรียนภาษาออนไลน์คุณภาพแสนสะดวกที่เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา ดังนั้น คำตอบสุดท้ายของความสำเร็จคงหนีไม่พ้นการลงมือทำอย่างตั้งใจจริง สนุกไปกับการเรียนภาษา และมองเห็นประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับตัวเราในวันข้างหน้านั่นเองค่ะ หากน้องๆ มีเว็บไซต์เรียนภาษาเจ๋งๆ ที่อยากแนะนำก็อย่าลืมแวะมาบอกต่อให้ฟังกันหน่อยนะคะ