เปิดลิสต์ 7 มหาวิทยาลัยดังคุณภาพเลิศใน ‘ฝรั่งเศส’ (ทุนรัฐบาล Franco-Thai กำลังเปิดรับสมัคร!)

Bonjour! ถ้าความฝันของใครคือการไปเรียนต่อ ป.โทหรือ ป.เอก ในดินแดนสุดโรแมนติกอย่าง “ฝรั่งเศส” ตอนนี้ทุน ‘Franco-Thai 2022’ จากรัฐบาลฝรั่งเศสกำลังเปิดรับสมัครอยู่ บอกเลยทุนนี้ดีงามมากเพราะครอบคลุมตั้งแต่ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ, สวัสดิการนักเรียนทุน, ประกันสุขภาพ, เงินค่าใช้จ่ายรายเดือน, หน่วยงานดูแลนักเรียนทุน, ช่วยเหลือเรื่องการจองที่พัก, ยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ฯลฯ ถึงแม้ทุนนี้จะไม่ได้รวมค่าเล่าเรียน แต่มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ที่นั่นค่าเทอมไม่แพงเลยค่ะ รายละเอียดเบื้องต้นคือเป็นทุนระดับปริญญาโทและเอก ไม่จำกัดสาขา หลักสูตร และสถาบัน (มีทั้งรัฐบาลหรือเอกชน) และสมัครได้ทั้งหลักสูตรภาษาอังกฤษหรือภาษาฝรั่งเศสด้วย 

สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเรียนต่อมอไหนดี วันนี้พี่ขอพาไปสำรวจกัน 7 แห่งเลยค่ะ พร้อมแล้วตามมาโลด!

1. Université de Strasbourg

เมือง: Strasbourg
ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 240 ยูโร/ปี (ประมาณ 8,763 บาท)

เริ่มกันที่ University of Strasbourg (French: Université de Strasbourg) มหาวิทยาลัยวิจัยของรัฐ ตั้งอยู่ในเมือง Strasbourg ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักเรียนต่างชาติ สถาบันแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1538 แต่เดิมใช้ภาษาเยอรมันในการเรียนการสอนเป็นหลัก ต่อมาในช่วงประมาณปี 1970 ได้มีการแยกสถาบันออกเป็น 3 มหาวิทยาลัย ได้แก่  Louis Pasteur University, Marc Bloch University และ Robert Schuman University ก่อนจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งในปี 2009  

ทางด้านคุณภาพการศึกษาก็โดดเด่นไม่แพ้ใคร เพราะการันตีด้วยรางวัลโนเบลกว่า 20 รางวัล และรางวัล Fields Medal อีก 2 รางวัล เท่านั้นยังไม่พอค่ะ สถาบันแห่งนี้ยังเป็นสมาชิกกลุ่ม League of European Research Universities ซึ่งเป็นการรวมตัวของสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงด้านงานวิจัยที่โดดเด่นที่สุดในยุโรป และมีมหา’ลัยเพียง 21 แห่งจากทั่วยุโรปที่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิก 

ปัจจุบันมีนักศึกษารวมกว่า 55,000 คน ในจำนวนนี้มีจำนวนนักศึกษาต่างชาติประมาณ 11,000 คน จากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก และมีนักวิจัยทำงานอยู่อีกกว่า 3,300 คน นอกจากมีคนต่างชาติมาเรียนเยอะแล้ว ที่นี่ยังเป็นสถาบันระดับอุดมศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศด้วย ส่วนหลักสูตรระดับบัณฑิตวิทยาลัยที่เปิดสอนก็มีดังนี้ค่ะ

• Complex systems chemistry
• Euridol
• Integrative molecular and cellular biology (ImcBio)
• Quantum science and nanomaterials (QMat)

ทั้งนี้ น้องๆ สามารถเข้าไปอ่านสาขาวิชาที่ตัวเองสนใจเรียนที่เว็บไซต์ http://en.unistra.fr/index.php?id=21783 ได้เลยค่ะ เค้าจะมีบอกรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนการสมัคร ระยะเวลาเรียน ไปจนถึงวิชาที่ต้องเรียนในแต่ละปีด้วย

2. École normale supérieure (Paris)

เมือง: Paris
ค่าเล่าเรียน:  ประมาณ 600 ยูโร/ปี (21,860 บาท)

École Normale Supérieure หรือที่เรียกกันว่า ENS Paris เป็นสถาบันระดับบัณฑิตศึกษาชั้นนำของฝรั่งเศส ตั้งอยู่ในกรุงปารีส ก่อตั้งขึ้นช่วงต้นศตวรรษที่ 18 ปัจจุบันมีจำนวนนักศึกษาราว 2,500 คน ENS เป็นหนึ่งในสถาบันแห่งนี้ที่มีจำนวนนักศึกษาน้อยที่สุดในฝรั่งเศส และมีระบบการคัดเลือกเข้าเรียนค่อนข้างโหดหิน อีกทั้งยังการันตีคุณภาพด้วยรางวัล Nobel และ Fields Medalists ในสัดส่วนที่สูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ เรียกได้ว่ารวมเหล่าคนหัวกะทิไว้ที่นี่เลย

ในส่วนของสาขาที่มีชื่อเสียงและคนอยากเข้าเรียนเยอะก็จะเป็นด้านฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ ทั้งนี้ ทางสถาบันได้แบ่งหลักสูตรเป็น 2 เซกชัน คือ “Sciences” ซึ่งมีคณะด้านคณิตศาสตร์,วิทยาศาสตร์, ฟิลิกส์, เคมี, ชีววิทยา, ธรณีศาสตร์, วิทยาการคอมพิวเตอร์ และสังคมและสิ่งแวดล้อม  ส่วนเซกชัน “Letters” จะประกอบไปด้วยคณะปรัชญา,รัฐศาสตร์, ประวัติศาสตร์, วรรณคดีและภาษาศาสตร์ และภูมิศาสตร์นั่นเองค่ะ สำหรับใครที่สนใจสามารถเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: https://www.ens.psl.eu/en/academics/departments 

3. Université de Montpellier

เมือง: Montpellier
ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 600 ยูโร/ปี (21,860 บาท)

The University of Montpellier (French: Université de Montpellier) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1289 ขึ้นแท่นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในฝรั่งเศส  และมีนักศึกษาราวๆ 41,000 คน (เคยแยกเป็นมหา’ลัย 3 แห่งแล้วกลับมารวมตัวกันอีกในปี 2015) เรื่องที่ตั้งคือดีงามมากกก เพราะตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเมือง “Monrpellier” ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศด้วยค่ะ

ส่วนเรื่องคุณภาพการศึกษา ทาง QS ยกให้ที่นี่เป็นมหา’ลัยที่ดีที่สุดอันดับ 15 ของฝรั่งเศส และติด Top50 มหาวิทยาลัยด้านนวัตกรรมของโลก มีสถาบันวิจัยล้ำๆ หลายแห่งที่เป็นแกนหลักของมหา’ลัย และเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจให้แก่ภูมิภาค ในขณะเดียวกันยังเป็นสถาบันดังด้านการศึกษานิเวศวิทยาและกฎหมายอันดับต้นๆ ของโลก 

ส่วนคณะที่เปิดสอนในระดับบัณทิตวิทยาลัยก็มีหลายหลักสูตรด้วยกัน ได้แก่  

• Law and Political science
• Economics and Management
• Structures & Systems Information
• Language, Literature, Cultures and Civilization
• Balard Chemistry Science
• Chemistry and Biology science for Health
• Science of human movement
• Biodiversity, Agriculture, Food, Environment, Earth, Water
• Territory, Time, Society and Development

 ต้องบอกว่าคณะต่างๆ เหล่านี้ยังประกอบไปด้วยสาขาย่อยอีกหลายสาขา สำหรับใครที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:https://www.umontpellier.fr/en/education/doctoral-education   

4. University of Orléans

เมือง: Orleans
ค่าเล่าเรียน:  ประมาณ 600 ยูโร/ปี (21,860 บาท)

The University of Orléans (French: Université d'Orléans) เป็นมหาวิทยาลัยวิจัยของรัฐที่ตั้งอยู่ในเมือง Orleans ทางตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส ซึ่งมีประวัติความเป็นมายาวนานมาก เพราะก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 14 ต่อมาได้รับสถานะเป็นมหาวิทยาลัยเมื่อปี 1960 นั่นเลยทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยเก่าแก่ของประเทศ กว่าศตวรรษผ่านมา มหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ และยังติดอันดับ top100 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในฝรั่งเศสอีกด้วย 

สำหรับสาขาที่เปิดสอนก็ครอบคลุมตั้งแต่นิติศาสตร์, การจัดการ, เศรษฐศาสตร์, ภาษาศาสตร์, รัฐศาสตร์, ภาษายุคคลาสสิก, วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ (Natural Sciences), วิทยาศาสตร์ชีวภาพ (Life Sciences) และคณิตศาสตร์ ใครที่สนใจก็สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดสาขาที่สนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยค่ะ  https://www.univ-orleans.fr/en/univ/formation/catalogue-des-formations/formations-par-diplome 

5. Sorbonne Université

เมือง: Paris
ค่าเล่าเรียน: 243 - 600 ยูโร/ปี (8,853-21,860 บาท)

Sorbonne University (French: Sorbonne Université) ก่อตั้งขึ้นในปี 1257 โดยใช้ชื่อว่า Sorbonne College ต่อมามหาวิทยาลัยวิจัยของรัฐแห่งนี้ได้รวมสถาบันเข้ากับ Paris-Sorbonne, Pierre et Marie Curie University และสถาบันขนาดเล็กอื่นๆ เมื่อปี 2018  ปัจจุบันมีวิทยาเขตหลายแห่งทั่วกรุงปารีส ไม่ว่าจะเป็นที่ Latin Quarter, Jussieu, Maison de la Recherche, Clignancourt & Malesherbes และ the Institut d’Art et d’Archéologie นอกจากนี้ ยังมีวิทยาเขตในต่างประเทศที่ Abu Dhabi แถมล่าสุด ทาง QS Rankings ก็ได้จัดอันดับให้ที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดอันดับ 83 ของโลก และเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศอีกด้วย

ในส่วนของคณะที่เปิดสอนก็จะมีด้วยกัน 3 คณะหลักๆ ได้แก่ วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์, แพทย์ศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ ซึ่งคณะหลังสุดนี้ก็จะสาขาแยกย่อยอีกมากเลยค่ะ ทั้งนี้ น้องๆ สามารถเข้าไปศึกษาสาขาที่สนใจเพิ่มเติมได้ที่:https://www.sorbonne-universite.fr/offre-de-formation/choisir-sa-formation/formation-initiale 

นอกจากนี้ ใครสนใจการเรียนต่่อท่ีนี่ก็สามารถอ่านเพิ่มในบทความ รีวิวชีวิตใน 'ปารีส' เมื่อได้ทำวิจัย 3 เดือน & ขอทุน Franco-Thai เรียนต่อ Sorbonne Université https://www.dek-d.com/studyabroad/54342/ 

6. Université de Bourgogne

เมือง: Dijon
ค่าเล่าเรียน: 200 ยูโร/ปี (7,286 บาท)

University of Burgundy (French: Université de Bourgogne)  มหาวิทยาลัยรัฐบาลที่ก่อตั้งในปี 1722 ตั้งอยู่ในเมือง Dijon ทางภาคตะวันออกของฝรั่งเศส ปัจจุบันมีนักศึกษาประมาณ 34,000 คน ซึ่งเป็นนักศึกษาต่างชาติไปแล้ว 2,900 คนจากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก

สถาบันนี้มีเปิดสอนกว่า 10 คณะ สถาบันด้านวิศวกรรม 4 แห่ง และสถาบันเทคโนโลยี 4 แห่ง แล้วยังมีหลักสูตรประกาศนียบัตรและคอร์สระยะสั้นอีกเยอะมาก ส่วนหลักสูตรบัณฑิตศึกษาที่ University of Burgundy มีให้เลือกถึง 130 หลักสูตร ส่วนใหญ่สอนเป็นภาษาฝรั่งเศส และมีคอร์สที่สอนเป็นภาษาอังกฤษเปิดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช็กรายละเอียดได้ที่: https://en.u-bourgogne.fr/academics/faculties-and-departments.html 

และนอกจาก University of Burgundy จะเป็นหนึ่งในมหา’ลัยที่มอบทุนการศึกษาและให้ความช่วยเหลือนักเรียนต่างชาติ โดยมีเปิดให้เข้าเรียนในศูนย์การเรียนภาษาฝรั่งเศส (Centre International d'études Françaises :CIEF)  เพื่ออัปภาษาสวยๆ ระหว่างเรียนต่อได้ด้วยนะคะ ><

7. École Polytechnique

เมือง: Palaiseau
ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 12,000 ยูโร/ปี (ประมาณ 437,213 บาท)

ปิดท้ายกันกับ École Polytechnique (l'X) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1794 โดยนักคณิตศาสตร์ชื่อว่า Gaspard Monge ในช่วงยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม สถาบันแห่งนี้ได้กลายเป็นโรงเรียนเตรียมทหารเมื่อปี 1804 ภายใต้การปกครองของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 อย่างไรก็ดี แม้ปัจจุบันมหาวิทยาลัยแห่งนี้จะไม่ได้เป็นโรงเรียนเตรียมทหารแล้ว แต่ก็ยังคงอยู่ในการควบคุมดูแลของกระทรวงมหาดไทยของฝรั่งเศส โดยตั้งอยู่แถบ Palaiseau ย่านชานเมือง ห่างจากใจกลางกรุงปารีสประมาณ 10 ไมล์ ปัจจุบันที่นี่มีจำนวนนักศึกษาราว 3,000 คน โดยเป็นนักเรียนต่างชาติกว่า 900 คน นับว่าไม่น้อยเลยค่ะ

สถาบันแห่งนี้ยังเป็นสมาชิกร่วมก่อตั้งเครือข่ายโรงเรียนเฉพาะทางชั้นสูงด้านวิศวกรรมศาสตร์ หรือที่เรียกว่า ParisTech ศิษย์เก่าหลายคนประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในหลากหลายวงการ อีกทั้งอดีตประธานาธิบดีของฝรั่งเศส 3 คนก็เรียนจบจากที่นี่ด้วยค่ะ นอกจากนี้ทาง  QS Rankings 2021 ยังยกให้ที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดอันดับ 2 ของฝรั่งเศสและที่ 68 ของโลกอีกด้วย

สำหรับหลักสูตรบัณฑิตศึกษาที่ทาง École Polytechnique เปิดสอนก็หลายหลายและครอบคลุมมากทีเดียว ได้แก่ 

• Artificial Intelligence & Advanced Visual Computing
• Cybersecurity: Threats and Defenses
• Internet of Things: Innovation and Management
• Smart Cities and Urban Policy
• Data Science For Business (Joint Degree with HEC)
• Economics, Data Analytics and Corporate Finance
• Ecotechnologies for Sustainability and Environment Management
• Energy Environment: Science Technology and Management

ต้องบอกว่าป.เอกที่นี่ให้บรรยากาศความอินเตอร์ที่แท้ทรู เพราะมีจำนวนนักเรียนต่างชาติอยู่เกือบครึ่งทีเดียวค่ะ หากน้องๆ สนใจอยากเรียนต่อในสถาบันแห่งนี้ก็สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดหลักสูตรเพิ่มเติมได้ที่: https://programmes.polytechnique.edu/en/master/master-of-science-technology 

เป็นยังไงกันบ้างคะกับมหา’ลัยในฝรั่งเศสที่พาไปเปิดรั้วกันวันนี้ ทั้งคุณภาพดีและน่าเรียนทั้งนั้น  ซึ่งส่วนใหญ่แล้วสถาบันแต่ละแห่งจะเปิดสอนทั้งหลักสูตรภาษาฝรั่งเศสและภาษาอังกฤษแตกต่างกันไป ใครสนใจมหา'ลัยไหนก็อย่าลืมศึกษารายละเอียดส่วนนี้เพิ่มเติมกันนะคะ ^^