สร้างวินัยใน Learn & Work From Home ให้มีประสิทธิภาพด้วยสูตร "6 ต" พร้อมแนะนำ App ฟรี

สวัสดีค่ะ สถานการณ์ไวรัส COVID-19 ที่กำลังระบาดทั่วโลก หลายประเทศจึงมีมาตรการของรัฐออกมา เพื่อลดการเเพร่ระบาด    อย่างเช่น ในประเทศไทย  มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้ประชาชนปฏิบัติตัว Social Distancing ลดการรวมกลุ่ม มีหลายจังหวัดสั่งล็อกดาวน์ ห้ามคนเข้า - ออกจังหวัดด้วย

ซึ่งส่งผลให้หลายองค์กรเลือกให้พนักงานทำงานแบบ Work from home ทำงานที่บ้าน และรวมไปถึงนักเรียน นักศึกษา ที่ต้อง Learn From Home เรียนที่บ้านเช่นเดียวกัน จนทำให้หลายคนอาจมีปัญหายังจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าจะ Download แอปพลิเคชันไหนดี สำหรับเอาไว้เรียน หรือทำงาน วันนี้พี่ฟอร์ยจึงขอแนะนำแอปพลิเคชันที่เหมาะในการใช้ได้ทั้งเรียน ทั้งทำงานที่ควรเลือกนำไปใช้ และวิธีที่จะทำให้ Learn & Work From Home ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในภาวะ COVID-19 มาฝากกันค่ะ

 

 
รวมแอปฯ Work from home & Learn From Home ช่วง Covid-19   (เป็น   App   ฟรี   และใช้กับทุกแพลตฟอร์ม   ทั้ง   IOS   และ   Android)
1. Google Hangout
Google Hangout เป็นแอปแชทจาก Google ที่สามารถใช้งานในรูปแบบ Video Call แบบกลุ่มให้ใช้ประชุมออนไลน์ได้ สามารถครีเอทกรุ๊ป และดึงผู้ที่เกี่ยวข้องมาเข้าร่วมกลุ่มประชุมได้มากถึง 10 คน เหมาะกับการประชุมขนาดเล็ก สามารถส่งคำเชิญเข้าร่วมการประชุมได้ทั้ง E-mail และส่งลิ้ง ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถแชร์เอกสาร Google Drive, Google Docs หรือหน้าจอที่ตนเองเปิดอยู่ในคนในทีมดูได้เช่นกัน 

 

 
2. Google Docs
โปรแกรมจัดการเอกสารออนไลน์ยอดนิยม ผู้ใช้สามารถทำงานพร้อมกันแบบออนไลน์ได้ทันที ตอบโจทย์กับการทำงานเป็นกลุ่ม หรือเป็นทีม สามารถ Chat ระหว่างการทำงานได้ โปรแกรมบันทึกงานให้โดยอัตโนมัติ ส่วนการเชิญสมาชิกเข้าทำงานนั้นก็ง่ายมาก เพียงเชิญทาง E-mail หรือสามารถส่งลิงค์ เพื่อเข้าร่วมการทำงานก็ได้เช่นกัน 

 

 
3. Google Drive
อุปกรณ์เสริมเมื่อสมัครใช้งาน E-mail เป็นโปรแกรมสำหรับจัดเก็บข้อมูลแบบออนไลน์ สามารถเก็บข้อมูลในรูปแบบที่หลากหลาย เช่น ไฟล์เอกสาร รูปถ่าย วิดีโอ เป็นต้น สามารถจัดเก็บได้ถึง 15 GB ไม่มีค่าใช้จ่ายในการใช้งาน

 

 
4. Trello
เป็นแอปฯ ที่คล้ายกับกระดานดำ แล้วเรานำ Post it ไปติดนั่นเอง แต่การติด Post it นั้น จะติดตามช่อง 3 ช่อง ได้แก่ To-do List งานที่กำลังจะทำ Do งานที่กำลังทำอยู่ Done งานที่ทำเสร็จเเล้ว ยังมีส่วนเสริมต่าง ๆ เช่น Calendar ที่ใช้งานร่วมกับ Google Calendar  

 

 
5. Line
เป็นอีกหนึ่งแอปฯ ที่หลาย ๆ คนใช้กันเป็นประจำอยู่แล้ว จึงไม่ต้องเสียเวลาในการเรียนรู้เรื่องการใช้งานเพิ่มเติมเลย และเป็นแอปฯ ที่มีวิธีการใช้งานที่สะดวก สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ เช่น ส่งไฟล์เอกสาร รูปภาพ วิดีโอ เป็นต้น โทรแบบกลุ่มได้สูงถึง 200 คน เเละโทรส่วนตัวก็ได้เช่นกัน รวมไปถึงการคุยข้ามประเทศอีกด้วย อีกทั้งยังสามารถถ่ายทอดสดได้ด้วยเช่นกัน แต่มีข้อควรระวังว่าหากส่งไฟล์งานแล้วให้รีบดาวน์โหลด เพราะงานอาจหายได้เมื่อหมดอายุของไฟล์ 

 
6 ต สร้างไฟในยาม Learn & Work From Home ให้มีประสิทธิภาพ
1. ต ตกแต่งที่นั่งทำงานให้สบาย
“บรรยากาศของที่นั่งทำงาน” เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสร้างบรรยากาศในการทำงาน จัดตกแต่งพื้นที่ทำงานเป็นสัดส่วนที่ชัดเจน จะทำให้รู้สึกจดจ่อกับการทำงานเป็นอันดับแรก และเอื้อต่อการใช้ความคิดสร้างสรรค์ หรือการคิดงานได้มากกว่าทำงานอยู่ในบรรยากาศของบ้าน ที่ทำให้เราคุ้นชินกับการพักผ่อนมากกว่าการทำงาน

2. ต ตัดสิ่งรบกวนการทำงานออก
นอกเหนือจากการติดต่อสื่อสารกับทีมงานแล้ว โทรศัพท์  หรือสื่ออื่น ๆ ไม่ใช่เรื่องจำเป็นสำหรับการทำงาน เพราะสื่อจะเป็นสิ่งที่ทำให้เสียสมาธิ หรือดึงดูดให้หลุดออกไปจากการทำงานที่ควรจดจ่อ ทำให้งานเสร็จช้าลง และรวมถึงการกำหนดขอบเขต พูดคุยทำความเข้าใจกับเด็ก สัตว์เลี้ยง คู่สมรส หรือเพื่อนร่วมห้อง ไม่ให้มารบกวนในขณะที่เรากำลังทำงาน เพื่อที่จะได้จดจ่อกับงานอย่างจริงจัง

3. ต ติดตั้งแอปไว้สื่อสาร ส่งงานกับทีมร่วมงาน / เรียน
การทำงานที่บ้าน อาจทำให้เรารู้สึกเหมือนทำงานอยู่คนเดียว การเลือกใช้แอปพลิเคชันในการทำงานร่วมกับคนในทีมเป็นสิ่งจำเป็น อาจเป็นแอปพลิเคชันที่ได้แนะนำไปข้างต้น เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน และสามารถนำมาใช้ในการส่งงานได้อีกด้วย

4. ต ตารางการทำงาน วางแผนการทำงานแต่ละวัน
การวางแผนงานจะทำให้เห็นภาพรวมของการทำงานทั้งหมดช่วยให้แน่ใจว่า อะไรควรทำก่อนหลัง ระยะเวลาที่คิดว่าจะใช้ ในการทำทุกอย่างให้เสร็จตามแผน  การวางแผนที่ดี เป็นระบบ อาจช่วยให้ตื่นตัวทุกวัน ยิ่งไปกว่านั้น อาจทำให้มีเวลาส่วนตัวมากขึ้นสำหรับการออกกำลังกายก่อนทำงาน หรือดูแลตัวเองในด้านอื่น ๆ ด้วย

5. ต ตรวจสอบอินเทอร์เน็ตให้พร้อม
การเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้พร้อมใช้งาน โดยเฉพาะทีมที่มีโอกาสต้องติดต่องานกับบุคคลภายนอก และมักใช้ห้องประชุมเป็นที่ติดต่อหลัก แล้วต้องเปลี่ยนมาใช้ Online Communication Platform แทน ก็ต้องมีการทดสอบความพร้อมของอุปกรณ์ และเครือข่ายด้วยทั้งในแง่ความสะดวกและความปลอดภัยของระบบตามมาตรฐานก่อนที่จะใช้งานจริง

6. ต เตรียมตัวพัฒนาตนเอง จากความเปลี่ยนแปลง
การทำงานที่บ้านอาจเกิดปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงที่ต้องเกิดขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็มีข้อดี ทั้งการได้อยู่ในสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่คุ้นเคย หลายคนมีโอกาสหันมาจัดบ้านใหม่ให้เหมาะสมกับที่ต้องอยู่ทั้งวันมากขึ้น การไม่ต้องเดินทางเองก็ทำให้เรามีเวลามากขึ้น เราสามารถนอนพักผ่อนได้มากขึ้น หรือเอาเวลาไปอ่านหนังสือ ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ในบ้านที่เราไม่มีโอกาสได้ทำหากต้องเดินทาง เช่น ทำอาหารกินเอง ใช้เวลาพูดคุยกับคนที่บ้านมากขึ้น หากลองคิดในแง่บวก ไม่แน่ว่าการ Work & Learn From Home อาจจะเป็นแรงบันดาลใจใหม่ให้ชีวิตเราเจอเป้าหมายใหม่ที่สำคัญสำหรับเราก็เป็นได้

 
เป็นไงกันบ้างคะ สำหรับ 5   แอปพลิเคชันที่เหมาะในการใช้ได้ทั้งเรียน ทั้งทำงานที่ควรเลือกนำไปใช้ และวิธีที่จะทำให้ Learn & Work From Home ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในภาวะ COVID-19   หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับใครหลาย ๆ คน ยังไงก็เลือกแอปพลิเคชันต่าง ๆ ให้เหมาะกับการทำงานหรือการเรียนของแต่ละคนนะคะ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุดค่ะ
พี่ฟอร์ย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด