ความหมายที่แท้จริง ของ 10 emoji ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน!

 

                    ไหนใครเคยใช้ emoji บ้างยกมือขึ้น!  บางครั้งใช้แทนบางประโยคไปเลย บางครั้งก็ใช้เพื่อสร้างสีสันให้บทสนทนาสนุกยิ่งขึ้น!      แต่น้องๆ รู้ไหมว่า emoji แต่ละตัวนั้นมีความหมายแตกต่างกัน  วันนี้พี่แครอลได้รวบรวมเอา emoji แปลกๆ มาฝากน้องๆ กัน จะแปลกแค่ไหน และมีความหมายยังไง ถ้าพร้อมแล้ว  ไปดูกัน

 

ภาพจาก   blog.emojipedia.org
 

                    เอ...นี่มัน  emoji   อะไร?    ทำไมเขาต้องเอาของเล่นมาห้อยด้วย?   แล้วห้อยไว้เพื่ออะไร? ใครที่เจอเจ้า  emoji   ตัวนี้ครั้งแรกต้องสงสัยแบบพี่แครอลแน่นอน แต่จริงๆ นี่ไม่ใช่ของเล่นเด็กนะคะทุกคน เพราะเจ้า  emoji    ตัวนี้คือ    ปินญาต้า (piñata) เป็นการละเล่นในประเทศสเปนและแม็กซิโก โดยมีความเชื่อว่ามีที่มาจากประเทศจีน คล้ายๆ เกมปิดตาตีหม้อของบ้านเรานี่แหละ แต่จะใช้วิธีนำลูกอม ช็อกโกแลต  หรือของขวัญเล็กๆ  น้อยๆ  ใส่ไว้ในเปเปอร์มาเช่หน้าตาเหมือนลูกหมาตัวนี้  แล้วค่อย ตีให้แตกเพื่อนเป็นการเปิดเทศกาลรื่นเริง  ถ้าน้องๆ อยากบอกเพื่อนๆ  ว่าเทศกาลรื่นเริงได้เริ่มขึ้นแล้ว น้องๆ สามารถส่งเจ้า  emoji    ปินญาต้า ไปให้เพื่อนๆ ได้นะ 

ภาพจาก   blog.emojipedia.org
 

                  ครั้งแรกที่พี่แครอลเห็นเจ้า emoji ตัวนี้ ก็คิดถึงแปรงลบกระดานขึ้นมาทันที ความทรงจำในวัยเด็กอะเนอะ 555 พี่แครอลก็เห็นหลายๆ คนในโซเชียลบอกว่ามันคือรำไทย แต่ความหมายจริงๆ ของเจ้า  emoji   ตัวนี้ก็คือ     Pinched Fingers หรือ    WH Question ของชาวอิตาลี  ซึ่งจะทำสัญลักษณ์มือแบบนี้ใส่คู่สนทนาเมื่อชาวอิตาลีต้องการรู้ว่า ใคร อะไร ทำไม เมื่อไร ยังไง หรือที่ไหน หรือเวลาน้องๆ โกรธ ก็สามารถทำมือแบบนี้แล้วเขย่าแรงๆ ก็ได้นะคะ   ถือเป็นภาษามือยอดนิยมของคนอิตาลีเลยก็ว่าได้ 

ภาพจาก   blog.emojipedia.org
 

                  หลายๆ คนอาจจะมองเจ้ากระบอกรูปไข่มีรูตรงกลางนี้เป็นรังไหม แก้วน้ำ หรือเมล็ดถั่วเขียว แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่นะ! น้องๆ พอจะเดาออกกันหรือเปล่าเอ่ยว่าเจ้า emoji ตัวนี้คือ ผลมะกอก (Olive) ที่มีรสเปรี้ยวๆ และสามารถสกัดเอาไว้ใช้ทำมันมะกอกสุดมีประโยชน์นั่นแหละจ้า  รู้ไหมว่าชาวกรีกยึดถือมะกอกเป็นสัญลักษณ์แทนอิสรภาพและความหวังด้วยนะ แถมกีฬาโอลิมปิกสมัยโบราณยังใช้มงกุฎใบมะกอกประดับศีรษะให้นักกีฬาที่ชนะการแข่งขันด้วย   เป็นพืชสารพัดประโยชน์แบบนี้ก็ต้องได้รับเกียรตินำมาทำ    emoji   แล้วแหละ

ภาพจาก   blog.emojipedia.org
 

                            คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจผิด มองเจ้าใบสีเขียว 4 แฉกรูปหัวใจนี้เป็นใบผักชีกันซะงั้น! แต่ความจริงแล้ว เจ้าใบนี้มีชื่อว่า ใบโคลเวอร์  ที่ไม่ใช่ใบโคลเวอร์ธรรมดา แต่ยังเป็น ใบโคลเวอร์ 4 แฉก (Four-Leaf Clover) ซะด้วย เพราะปกติแล้วใบนี้จะมีเพียง 3 แฉกเท่านั้น แต่จะพบใบ     4 แฉกได้เพียงแค่    1 ในพัน!    คนญี่ปุ่นจึงมีความเชื่อเกี่ยวกับเจ้าใบนี้ว่า ถ้าใครเจอใบโคลเวอร์ 4 แฉกจะโชคดี โดยเฉพาะเรื่องความรัก  ดังนั้นถ้าอยากให้เพื่อนคนไหน Lucky in Love    น้องๆ ก็สามารถส่ง   emoji   ตัวนี้ให้เพื่อนได้เลย

ภาพจาก   blog.emojipedia.org
 

                  นี่มันกล่องอะไรกันนะ?    สีดำๆ ทรงสี่เหลี่ยม ดูยังไง้...ยังไงก็เป็นกล่องธรรมดาๆ ที่มีลายสีเหลืองทองคาดประดับเก๋ๆ แต่ไม่ใช่นะคะน้องๆ เพราะนี่คือ Kaaba  หรืออาคารที่ตั้งอยู่ใจกลางของอัลมัสยิด al-Haram  ในนครเมกกะ มีไว้เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาอิลาม  ซึ่งชาวอิสลามทุกคนต่างเชื่อว่า    อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต ต้องได้ไปแสวงบุญที่นี่  ซึ่งเป็นสถานที่ๆ ไม่เคยหลับใหล เพราะมีชาวอิสลามจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางมาที่นี่ หากน้องๆ อยากชวนเพิื่อนๆ ไปชมความยิ่งใหญ่ของ   Kaaba น้องๆ ก็สามารถส่งเจ้า   emoji   ตัวนี้ไปชวนเพื่อนๆ ได้เลย

 

ภาพจาก   blog.emojipedia.org
 

                  หลายๆ คนอาจจะมองว่า   emoji    ตัวนี้เป็นนักเต้นบัลเลต์หรือเปล่านะ?   หรืออาจจะเป็นท่าบอกรักซารังเฮ    แต่ผิดหมดเลยค่ะ!       emoji   ตัวนี้ชื่อว่า Face With Ok Gesture Emoji ใช้แทนการบอกว่า    “ฉันโอเคนะ”  สังเกตดูดีๆ สิว่ามือของอีโมจิตัวนี้ชูจับกันเหนือศีรษะเป็นสัญลักษณ์รูปตัว O ซึ่งเป็นท่าทางน่ารักๆ ที่ชาวญี่ปุ่นชอบทำกันนั่นเอง

ภาพจาก   blog.emojipedia.org
 

                  เนื้อย่างหรือเปล่านะ?    หรือจะเป็นไส้ในของแฮมเบอร์เกอร์? พี่แครอลเชื่อเลยว่าหลายคนคงคิดแบบพี่แครอลแน่ๆ ในเมื่อรูปร่างเหมือนซะขนาดนี้ แต่จริงๆ เจ้า   emoji   ตัวนี้คือ Flat bread หรือ   ขนมปังพีต้า เป็นอาหารโซนตะวันออกกลาง เช่น ตุรกี เลบานอน และแถบเมดิเตอร์เรเนีย   เนื้อสัมผัสนุ่มเหนียว  ใช้จิ้มทานกับซอสหรือผ่าแล้วใส่ไส้ลงไปตรงกลางก็ได้ ว่ากันว่านี่เป็นขนมปังอีกชนิดหนึ่งที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณเลยด้วยนะ

ภาพจาก   blog.emojipedia.org
 

                  หลายๆ คนอาจจะเคยเห็นเจ้า   emoji   ตัวนี้มาบ้างแล้ว รูปทรงเหมือนปุ่มอะไรสักอย่าง หรือจะเป็นจานบินของมนุษย์ต่างดาวนะ!? แต่เอ๊ะ... มองอีกทีก็แอบคล้ายกริ่งหน้าประตูอยู่... แต่จริงๆ แล้ว เจ้า   emoji   ตัวนี้คือ Flying Disc หรือ จานร่อน   นั่นเองจ้า เป็นกิจกรรมที่เป็นทั้งกีฬาและกิจกรรมยามว่างที่มีฮอตสุดๆ มาตั้งแต่ปลายยุค 40's  เวลาไปเที่ยวทะเล  หรือน้องๆ อาจจะใช้ emoji ตัวนี้ในการชวนเพื่อนออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งก็ไม่เลวเลย

ภาพจาก   blog.emojipedia.org
 

                   เดาไม่ได้จริงๆ เหมือนกระดุมหรือเปล่า หรือเหมือนเป้ายิงธนู? พี่แครอลสับสนมากๆ น้องๆ หลายคนก็อาจจะสับสนเหมือนพี่แครอล จริงๆ แล้ว เจ้า   emoji   ตัวนี้คือ   Nazar Amulet  หรือมีอีกชื่อหนึ่งว่า   เครื่องรางป้องดวงตาปิศาจ   นั่นเอง พี่แครอลว่าก็แอบคล้ายพระเครื่องบ้านเราอยู่เหมือนกันนะในด้านคุณสมัติการใช้งาน โดยใน วัฒนธรรมตุรกีเขาจะมีความเชื่อว่า ใครถูกมองด้วยดวงตาปิศาจจะทำให้เจ็บป่วย แต่ถ้ามีเครื่องราง       Nazar Amulet   แล้วละก็ ต่อให้อีกร้อยดวงตาปิศาจก็ทำอะไรเราไม่ได้ ความหมายของเจ้า   emoji   ตัวนี้ก็ดีมากๆ ถ้าน้องๆ ส่ง   emoji   ตัวนี้ให้เพื่อน ก็หมายถึง   น้องๆ  อยากให้เพื่อนสุขภาพดีนั่นเอง ไม่เจ็บไม่ป่วยเนอะ  

ภาพจาก   blog.emojipedia.org
 

                  ผู้ชายใส่สูทลอยได้ พี่แครอลเชื่อเลยว่าหลายๆ คนต้องนึกถึงสิ่งเหนือธรรมชาติกันแน่นอน แต่ช้าก่อน! ก่อนที่จะตัดสินน้องเขา อยากให้น้องๆ ใจเย็นๆ และฟังพี่แครอลก่อน เพราะเจ้า   emoji   ตัวนี้มีชื่อว่า Person in Suit Levitating ใช้แทนเครื่องหมาย  !   หรือ    “เครื่องหมายอัศเจรีย์”    โดยคนที่สร้าง   emoji   ตัวนี้ตั้งชื่อให้มันว่า   Walt Jabsco โดยเรียกการแต่งตัวสไตล์นี้ว่า Rude Boy ตามนักดนตรีสกา Peter Tosh จากปกอัลบั้ม Wailers 'ในปี 1965  The Wailing Wailers โดยความหมายที่แฝงมากับ   emoji   ตัวนี้ก็คือ "ฉันอยู่เหนือเธอนะ" ความหมายแบบกวนๆ เลย     แต่อย่าใช้ตอนเพื่อนของน้องๆ อารมณ์ไม่ดีล่ะ เดี๋ยวจะโกรธกันเอา  

 

                  เป็นยังไงกันบ้างคะ ชอบกันหรือเปล่า emoji บางตัวเราก็รู้จักมาก่อน บางตัวก็เพิ่งเคยเห็น บางตัวก็เคยเห็นแต่ไม่รู้ความหมาย วันนี้ พี่แครอลก็เลยคัดตัวเด็ดๆ มาฝากน้องกัน น้องๆ มี emoji ตัวไหนที่น่าสนใจอีก อย่าลืมมาคอมเมนต์ให้พี่แครอลกับเพื่อนๆ ชาว Dek-D ได้อ่านกันบ้างน้า