สวัสดีชาว Dek-D ทุกคนค่ะ น้องๆ มีแอนิเมชันเรื่องโปรด หรือสวนสนุกในดวงใจไหมคะ? คาดว่าคำตอบที่หลายๆ คนคิดคงจะเป็นหนึ่งในผลงานของทางดิสนีย์แน่ๆ เลย! แล้วเวลานึกถึงสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ (Disneyland) สิ่งแรกที่ทุกคนคิดคงเป็นปราสาทสวยๆ เครื่องเล่นที่อิงตามเรื่องราว ไปจนถึงคาแรกเตอร์ที่หลุดออกมาจากแอนิเมชัน
แน่นอนว่าทุกอย่างที่พูดมานี้ต้องผ่านการออกแบบและสร้างขึ้นมา ทำให้ต้องใช้ทั้งศิลปินและวิศวกรเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางดิสนีย์ก็เรียกรวมผู้อยู่เบื้องหลังเหล่านี้ว่า “Imagineer” นั่นเองค่ะ วันนี้พี่เลยจะพาทุกคนไปรู้จักกับอาชีพนี้กันค่ะ พร้อมแล้วตามมาดูกัน!
“ดิสนีย์แลนด์จะไม่มีวันสมบูรณ์หากขาดจินตนาการ”
วอลต์ ดิสนีย์
Imagineer = ผู้ออกแบบดิสนีย์แลนด์
แบ่งเป็นทีมแยกย่อยอีกเพียบ
Imagineer = คำเรียกรวมๆ ของผู้ออกแบบดิสนีย์แลนด์ ตำแหน่งนี้เลยแยกย่อยออกไปหลายทีมมากๆ แล้วก็ประกอบด้วยคนหลากหลายอาชีพสุดๆ ที่น่าสนใจคือมีอาชีพ digital sculptor ซึ่งทั้งวันทำอยู่อย่างเดียวคือออกแบบหินเพื่อแกะสลักค่ะ
แต่นอกจากนั้นก็มีอาชีพที่เราคุ้นเคยอยู่เหมือนกันนะคะเช่น วิศวกรโยธา วิศวกรเครื่องกล นักคณิตศาสตร์ นักออกแบบเครื่องเล่น สถาปนิก นักออกแบบกลิ่น ดีไซน์เนอร์ นักแสดงตลก นักแกะสลัก สเปเชียลเอฟเฟกต์ ศิลปิน นักแต่งเพลง ฯลฯ
ไม่ใช่แค่ออกแบบสิ่งที่แขก "เห็น"
แต่คือทุกสิ่งที่รับรู้ในทุกประสาทสัมผัส!
ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนว่าดิสนีย์แลนด์เนี่ยเป็นสวนสนุกขนาดใหญ่ที่ประกอบไปด้วย “ธีมพาร์ค” หลายๆ อัน และแต่ละธีมพาร์คก็จะมีธีมของตัวเอง เช่น Animal Kingdom ที่เน้นธีมเกี่ยวกับสัตว์, Pandora ซึ่งเป็นโลกในหนังอวาตาร์ และ Tommorowland ที่เป็นธีมของโลกอนาคต ธีมที่ดีจะต้องคลุมโทนสถานที่นั้นๆ ชนิดที่เดินไปก้าวแรกก็สัมผัสถึงกลิ่นอายบรรยากาศของสถานที่ชัดเจน แถมต้องระวังไม่ให้หลุมธีมด้วย!
และผู้ที่ทำจินตนาการเหล่านั้นให้เป็นจริงก็คือ Imagineer นั่นเองค่ะ ถ้าถามว่างานละเอียดแค่ไหน? บอกเลยว่าทางดิสนีย์ไม่ใช่แค่ต้องการให้แขกมาเที่ยวสวนสนุกสวยๆ แต่เขาต้องให้แขกรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกดิสนีย์จริงๆ ดังนั้นต้องคิดและออกแบบทุกอย่างที่แขกจะได้รับรู้ในทุกประสาทสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ตาได้เห็น จมูกได้กลิ่น เสียงที่ได้ยิน อาหารที่ได้กิน สิ่งที่ได้จับต้อง และไปถึงขั้น “ความรู้สึก” ขณะมาเที่ยวและจดจำหลังจากกลับ เรียกได้ว่าต้องใช้ความพิถีพิถันสูงมากกกก
ตัวอย่างงานของ Imagineer
ทีนี้พอบอกว่าเขาต้องออกแบบละเอียดมากๆ พี่เลยอยากพาไปชมให้เห็นภาพว่าต้องออกแบบอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลยค่า ^^
BATTLE FOR THE SUNKEN TREASURE
ธีมโจรสลัดจาก Pirates of the Caribbean ที่เกี่ยวกับการผจญภัยและอิสระ เครื่องเล่นในพาร์คนี้คือเครื่องเล่นสุดดังของดิสนีย์แลนด์ที่คิวยาวแทบทุกประเทศเลยค่ะ เพราะการออกแบบเครื่องเล่น และเรื่องราวที่เล่าออกมาดีมาก แถมเอฟเฟ็กต์และเทคโนโลยีของเครื่องเล่นก็อลังสุดๆ หรือแม้แต่ตึกที่ออกแบบในธีมนี้ก็ยังสื่อถึงการผจญภัยและอิสระได้ดีไม่แพ้กัน
จอฉายภาพสูงเท่าตึก 4 ชั้น ช่วยให้ Imagineer ควบคุมมุมมองของผู้ชมได้ตามใจ ทำให้ผู้ชมเห็นภาพ 3D ได้โดยม่ต้องสวมแว่น
ตึกที่ไม่เป็นทรงเหลี่ยมเป๊ะๆ แต่ทุกตึกจะมีสไตล์ของตัวเองและมีสีสันสดใส สื่อถึงธีมหลักของพาร์ค
Animal Kingdom
เมื่อตะกี้พูดถึงการออกแบบตึกไป ทีนี้เรามาดูรายละเอียดเล็กๆ อย่างการเลือกประตูสักบานไปใช้ใน Animal Kingdom กันบ้าง พาร์คนี้เน้นธีมเกี่ยวกับธรรมชาติ ถ้าจะใช้ประตูสักบานประตูบานนั้นก็ต้องคิดหลายอย่างมากเลยค่ะ โดยเกณฑ์ที่ใช้ตัดสินใจก็คือดูว่าเหมาะกับธีมธรรมชาติหรือเปล่านั่นเองค่ะ เช่น ประตูต้องทำจากไม้หรือเหล็ก? ถ้าทำจากไม้พื้นผิวควรเรียบหรือขรุขระ? ลูกบิดประตูควรจะเงาวับหรือควรจะขึ้นสนิม?
Pandora - World of Avatar
โลกของเหล่านาวีจากภาพยนตร์อวตาร์ งานนี้แค่ก้าวเท้าเข้าไปก็รู้สึกเหมือนไปอยู่ต่างดาวจริงๆ เลยค่ะ เพราะสภาพแวดล้อมไม่เหมือนบนโลกเลย! ทั้งภูเขาที่ลอยได้ที่ดูขัดกับแรงโน้มถ่วงสุดๆ ไปจนถึงดอกไม้ที่เรืองแสงในที่มืดสุดแปลกตา
ภูเขาลอยได้ที่ทีม Imagineer ต้องทำงานทั้งด้านสถาปัตยกรรม การออกแบบฉาก ไปจนถึงการจำลองแบบในคอมพิวเตอร์ รวมกับความรู้ด้านวิศวกรรมขั้นสูง เพื่อส่งเหล็กและคอนกรีตแกะสลักที่หนักกว่า 6,000,000 ปอนด์ขึ้นไปลอยยในอากาศ (ใช่ค่ะภูเขานี่ทำจากคอนกรีตแกะสลักนะ! แต่เหมือนหินสุดๆ)
ดอกไม้เรืองแสงที่ใช้เทคนิคสีแบลคไลท์ร่วมกับการจัดแสง
STAR WARS: GALAXY'S EDGE
อีกหนึ่งพาร์คที่ช่วยยืนยันความยากของงาน Imagineer เพราะพาร์คนี้ต้องออกแบบภายใต้เงื่อนไขที่ว่า Star Wars มีทั้งภาพยนตร์หลายภาค การ์ตูน หนังสือนวนิยาย เกมและรายการทีวี แล้วจะออกแบบพาร์คยังไงให้ละเอียดพอไม่ให้แฟนๆ ของ Star Wars ผิดหวังล่ะ?
อยากจะแต่งตัวตาม Anakin Skywalker ก็ไปที่ Black Spire Outfitters หรือจะไปทำดาบไลท์เซเบอร์ของตัวเองก็ทำได้ที่ Savi’s Workshop และใครที่อยากจะรู้ว่าเจ้านมสีฟ้ามันรสชาติยังไง Imagineer ก็จัดให้ได้เหมือนกัน! เรียกได้ว่ามาที่นี่สาวก Star wars เหมือนได้เติมเต็มความฝันสุดๆ
Main Street
กลิ่นของสวนสนุกควรเป็นยังไง? ถนนสายหลักของดิสนีย์แลนด์ที่แขกทุกคนต้องเดินผ่านหลังผ่านจุดตรวจตั๋ว เมื่อแขกก้าวเข้าสวนสนุกก็จะมีกลิ่นที่ทำให้อารมณ์ดีและมีความสุขอย่างป๊อปคอร์น สายไหม ซึ่งกลิ่นที่ว่าไม่ใช่กลิ่นจากของจริงแต่จะติดเครื่องปล่อยกลิ่นซ่อนไว้ตามจุดต่างๆ ค่ะ
เห็นทำงานกันละเอียดขนาดนี้เงินเดือนของเหล่า Imagineer ก็สูงมากเหมือนกันนะคะ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ $89,275 หรือประมาณ 2,678,250 บาทต่อปีเลยทีเดียว
ฝันอยากอยู่ในทีม Imagineer
ต้องเรียนด้านไหน?
เห็นทีม Imagineer ประกอบด้วยอาชีพหลากหลายขนาดนี้ แล้วต้องเรียนด้านไหนล่ะเนี่ยถึงจะได้ทำงานนี้? พี่ไปสืบมาให้แล้วค่ะว่าทางดิสนีย์ก็กำหนดวุฒิการศึกษาขั้นต่ำไว้เหมือนกันนะโดยส่วนใหญ่ดิสนีย์จะรับคนที่จบตรงกับสายงาน เช่น คนที่จะสมัครเข้ามาทำด้านการออกแบบจะต้องจบปริญญาโทด้านสถาปนิกหรือสายที่เกี่ยวข้อง คนที่สมัครด้านออกแบบการแสดงต้องมีวุฒิปริญญาตรีสาขาศิลปศาสตร์ และนักเขียนบทหรือสายงานสร้างสรรค์อื่นๆ ควรมีวุฒิด้านวรรณกรรมหรือภาษาอังกฤษ
“ สิ่งหนึ่งที่ฉันชอบเกี่ยวกับงานของฉันคือ เมื่อเราได้ยินคำว่าสร้างสรรค์หรือสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ หลายครั้งที่เราอาจนึกถึงงานศิลปะ แต่วิศวกรที่นี่ออกแบบอย่างต่อเนื่อง ฉันหมายถึงพวกเราคือนักออกแบบ ดังนั้นเราจึงเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์และมีนวัตกรรม”
ASYA CARA PEÑA วิศวกร
เป็นอาชีพที่น่าสนใจมากๆ เลยใช่ไหมคะ? พอเห็นความละเอียดขนาดนี้แล้วก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมดิสนีย์แลนด์ถึงเป็นสวนสนุกระดับโลก พูดแล้วก็อยากไปเลยค่ะ ><
Source:
0 ความคิดเห็น