สวัสดีค่าน้องๆ ชาว Dek-D ช่วงนี้ใครเรียนภาษาแล้วรู้สึกเบื่อๆ ท้อๆ รู้สึกเรียนเท่าไหร่ก็ไม่พัฒนา แถมเอามาใช้จริงก็ไม่ค่อยได้ จนตอนนี้ชักเริ่มหมดไฟแล้ว! ไม่ต้องกังวลนะคะ พี่ไอซ์จะเป็นคนเติมเชื้อเพลิงให้เอง > < วันนี้พี่จะมาแชร์ประสบการณ์การเรียนภาษาผ่าน "Netflix" ที่ทั้งสนุก ผ่อนคลาย และช่วยให้ซึมซับจนนำไปใช้ได้จริง ถ้าใครพร้อมแล้ว ก็ตามพี่มาได้เลยค่าาา
3 เหตุผลที่การดู Netflix
เป็นวิธีฝึกภาษาสุดเวิร์ก!
1. เน็ตฟลิกซ์มีฟังก์ชันเปลี่ยนเสียงพากย์และซับไตเติลเป็นภาษาที่ต้องการได้ เช่น พากย์อังกฤษ-ซับไทย, เสียงพากย์ฝรั่งเศส-ซับอังกฤษ ฯลฯ ทำให้เราพัฒนาทักษะการฟังไปพร้อมกับเรียนรู้ความหมาย
ยิ่งไปกว่านั้นถ้าใครใช้เว็บเบราว์เซอร์ "Google Chrome" ตอนนี้เขามีฟังก์ชันส่วนขยายให้เราสามารถเพิ่มคำบรรยายเป็น 2 ภาษา!! ทำให้เราเปรียบเทียบเสียงและข้อความของภาษาที่เรียนกับภาษาของเราได้ง่ายขึ้น และยังสามารถแปลภาษากับการออกเสียงแบบเฉพาะคำ/วลีได้ด้วยนะคะ (เป็นตัวช่วยที่ดีมากกก)
2. ศัพท์ส่วนมากในหนัง/ซีรีส์ มักเป็นศัพท์ที่เจ้าของภาษาใช้ในชีวิตประจำวัน ทำให้เราจดจำและนำมาใช้ได้ แถมยังค่อยๆ ซึมซับวัฒนธรรมทางภาษาที่มีผลต่อการเลือกใช้คำหรือวิธีสร้างบทสนทนาของภาษานั้นๆ ด้วยค่ะ พูดง่ายๆ ว่าเราจะพูดได้เป็นธรรมชาติเหมือนเจ้าของภาษามาเอง
3. เป็นวิธีฝึกภาษาที่เหมือนได้รีแลกซ์ไปในตัว จะเปิดดูในคอมพ์หรือสมาร์ตทีวีที่บ้าน หรือหยิบแท็บเล็ตกับสมาร์ตโฟนมาเปิดช่วงพักเที่ยง นั่งรถ หรือระหว่างรออาจารย์เข้าสอนก็ยังได้ ใครชอบแนวไหนก็เปิดดูได้ตามความชอบ เพราะมีให้เลือกเยอะมาก ยิ่งถ้าดูแนวเดิมบ่อยๆ ก็ยิ่งทำให้คุ้นเคยกับศัพท์แวดวงนั้นๆ ด้วย *บอกเลยว่ามีหลายคนมากๆ ที่เก่งภาษาเพราะชอบดูหนังต่างประเทศ*
แนะนำตัวอย่างซีรีส์ 4 ภาษา
(อังกฤษ, สเปน, ฝรั่งเศส, โปรตุเกส)
1. ภาษาอังกฤษ
จำนวนภาค: 3 (ยังไม่จบ)
เวลา: 50-60 นาที/ตอน
ถ้าหากใครเป็นแฟนซีรีส์แนว Science fiction (sci-fi) ที่มีเงื่อนงำชวนค้นหา แนะนำเลยว่าห้ามพลาด เรื่องนี้เป็นซีรีส์อเมริกันแนวไซไฟยุค 80 ที่วัยรุ่นในเมืองเล็กๆ ของอเมริกา อยากออกค้นหาความจริงว่าทำไมหนึ่งในเพื่อนเขาถึงหายไปอย่างลึกลับ!
นอกจากเนื้อเรื่องจะสนุกและทำให้เราได้สัมผัสกลิ่นอายวัฒนธรรมสมัยนั้น ยังได้เก็บศัพท์วิทยาศาสตร์และศัพท์วัยรุ่นอีกเพียบค่ะ
จำนวนภาค: 3 (ยังไม่จบ)
เวลา: 50-60 นาที/ตอน
เวลา: 50-60 นาที/ตอน
เรียกว่าเป็นซีรีส์ดราม่าที่มาแรงมากตั้งแต่เปิดตัวเลยทีเดียว ในเรื่องนี้เราจะได้เห็นเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นด้านแฟชัน เทคโนโลยี หรือแม้กระทั่งการเมืองในสมัยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และยังได้ติดตามชีวิตคู่สุดซับซ้อนของพระองค์ด้วย! แน่นอนว่าเรื่องนี้จะทำให้เราซึมซับสำเนียงภาษาอังกฤษแบบ British เต็มๆ ค่ะ
2. ภาษาสเปน
จำนวนภาค: 3 ภาค (ยังไม่จบ)
เวลา: 40-50 นาที/ตอน
สายซีรีส์อาชญากรรมก็คงต้องยกให้เรื่องเลยค่ะ กลุ่มคนที่ไม่รู้จักแม้กระทั่งตัวตนที่แท้จริงของกันเลย แต่ก็สามารถมารวมตัวกันก่ออาชญากรรมใหญ่ระดับประเทศได้ แถมยังมีปณิธานเหมือนโรบินฮู้ดที่จะไม่ทำร้ายใครอีก พล็อตเรื่องน่าสนใจขนาดนี้ คงจะพลาดไม่ได้แล้วค่ะ
ยิ่งไปกว่านั้นคือภาษาที่ใช้ยังเป็นภาษาที่คนสเปนใช้กันในชีวิตประจำวันอีก เหมาะกับคนที่อยากฝึกฝนภาษามากๆ > <
ภาษาฝรั่งเศส
จำนวนภาค: 3 (ยังไม่มีกำหนดภาคต่อ)
เวลา: 50-60 นาที/ตอน
เรื่องนี้เป็นซีรีส์แนวตลกร้ายที่สะท้อนคนทำงานสุดๆ ผู้ถือหุ้นของบริษัทตัวแทนดาราทั้ง 4 คนอยู่ๆ ก็ต้องมาทำหน้าที่ผู้จัดการดารา ดูแลประสานงานต่างๆ ด้วยตนเองเพื่อความอยู่รอดของบริษัทหลังจากที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่เสียชีวิตอย่างกระทันหัน เรื่องราวจะวุ่นวายขนาดไหน ต้องไปติดตามดูค่ะ
ในแต่ละตอนจะมีการเชิญนักแสดงฝรั่งเศสมาเป็นแขกรับเชิญพิเศษอยู่เสมอ รับรองว่าเป็นโอกาสที่ดีในการฝึกสกิลการฟังอย่างแน่นอน และไม่แน่ว่าน้องๆ อาจจะเจอแรงบันดาลใจในการเรียนภาษาเพิ่มด้วยก็ได้นะ
ภาษาโปรตุเกส
จำนวนภาค: 1 ภาค (ยังไม่จบ)
เวลา: 30-60 นาที/ตอน
ซีรีส์ที่เล่าชีวิตของสาวชาวบราซิลคนหนึ่งที่ย้ายจากเซาเปาโล เพื่อมาอยู่กับสาขามีที่รีโอเดจาเนโร แต่แล้วกลับพบว่าเขาหลอกและหนีหายไปแล้ว! วิถีสาวสตรองอย่างเธอก็ไม่ยอมแพ้ ตัดสินใจเริ่มชีวิตใหม่ด้วยการเปิดคลับดนตรีสด ทำให้เธอได้พบเพื่อนเก่าและรู้จักคนใหม่ๆ อีกมากมาย
เรื่องนี้จะทำให้เราสนุกกับการติดตามชีวิตของเธอ พร้อมกับเห็นปัญหาในที่ทำงานและบทบาทของคนสมัยนั้น ที่สำคัญคือได้ฝึกสำเนียงคาริโอกา (Carioca) ซึ่งเป็นสำเนียงท้องถิ่นของรีโอเดจาเนโรด้วยนะคะ แปลกใหม่มากๆ > <
Tips สำหรับคนที่พอมีพื้นฐาน
แนะนำให้ดู 3 รอบ ตามลำดับดังนี้
รอบที่ 1: ดูด้วยเสียงพากย์ภาษาที่เราเรียนและซับเป็นภาษาเดียวกัน เช่น เสียงพากย์อังกฤษ/ซับอังกฤษ และพยายามจับใจความว่าเนื้อเรื่องหลักๆ เป็นอย่างไรก็พอ
รอบที่ 2: ดูด้วยเสียงพากย์ภาษาที่เราเรียน แต่ซับเป็นภาษาของเรา เช่น เสียงพากย์อังกฤษ/ซับไทย หลังจากดูจบ เราจะพอรู้ว่าครั้งแรกเข้าใจมากน้อยแค่ไหน และพลาดจุดใดไปบ้าง
รอบที่ 3: ดูด้วยดูด้วยเสียงพากย์ภาษาที่เราเรียนและซับเป็นภาษาเดียวกันอีกรอบ เช่น เสียงพากย์อังกฤษ/ซับอังกฤษ แต่ว่ารอบนี้ให้เราจดคำศัพท์หรือประโยคที่ไม่รู้จักหรือไม่เข้าใจไว้ด้วย เพื่อให้รู้เป้าหมายว่าควรไปพัฒนาตรงไหนต่อ
ขอแชร์ประสบการณ์บ้างดีกว่า ส่วนตัวพี่ก็เรียนภาษาสเปนจากการดู Netflix ผลคือมันช่วยฝึกสกิลฟังและพูดที่ดีมากๆ เพราะเราไม่ค่อยมีโอกาสใช้ภาษานี้ในชีวิตประจำวัน แต่ซีรีส์ช่วยให้เราได้ทบทวนตลอด พอคุ้นเคยแล้วถึงเวลาที่ต้องใช้จริง ก็สามารถใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ดังนั้นพี่เลยอยากหยิบทั้งเทคนิคและตัวอย่างหนัง/ซีรีส์มาแชร์สำหรับน้องๆ ที่อยากลองฝึกภาษาด้วยวิธีสนุกๆ แบบนี้ ใครเริ่มท้อแท้ ขออย่าเพิ่งหมดไฟนะคะ ถ้าภาษาดีจะช่วยสร้างโอกาสให้เราอีกเยอะเลย ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ Fighting!!
0 ความคิดเห็น