ฮาวทูเจ๋ง! ในแบบ "เต๋อ นวพล" แนวคิดจากเด็กอักษรสู่การเป็นผู้กำกับคนดัง



 
Spoil
  • เต๋อกับเป้าหมายเอนทรานซ์ที่ชัดเจนคือคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ
  • ไม่มีเคล็ดลับในการเรียน เพราะแค่จับจุดได้ก็ไม่ต้องพยายามแล้ว
  • หยิบจับของมาเล่นสนุกๆ ไม่คาดหวัง แต่มันไวรัลไปเอง
_________________

 
                    เรารู้จัก “เต๋อ นวพล” จากบทบาทการเป็นผู้กำกับคนดัง ที่ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นกับ “ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ” และล่าสุด “ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ” แต่กว่าจะเดินทางมาถึงจุดนี้ พี่เต๋อผ่านบทบาทการเป็นวัยรุ่นในแบบไหน ย้อนกลับไปดูตัวตนของพี่เต๋อผ่านบทสัมภาษณ์นี้กันครับ

 

 
เส้นทางชัดเจนที่คณะอักษร!
                    สำหรับผม ตอนที่เอนทรานซ์คิดไว้แค่นิเทศศาสตร์กับอักษรศาสตร์ มันชัดมั้งครับ อะไรก็ได้ชอบทั้งคู่ แต่ก็เอาอันดับ 1 เป็นอักษรไว้ก่อน เพราะว่าตอนนั้นเศรษฐกิจไม่ค่อยดี เรียนนิเทศจะตกงาน บ้านเราไม่ต้องการ ก็เลยเรียนอักษรไว้ก่อน เพราะว่าเราเรียนมันมีจุดที่เชื่อมโยงไปนิเทศได้ ทำสคริปต์ เขียนบท เพราะเราต้องเรียนเกี่ยวกับมนุษยศาสตร์ บทภาพยนตร์ก็เกี่ยวกับมนุษยศาสตร์เหมือนกัน ก็เลยไปทางนั้น ง่ายๆ คือเรียนที่นั่นแหละแต่จิตก็ข้ามไปข้ามมา ข้ามไปเรียนนิเทศบ้าง

 
รู้ใจตัวเองแล้วตรงไปตรงมา นั่นแหละที่เต๋อทำ
                    ตอนสอบผมไม่ค่อยมีทริคอะไรมาก ก็อ่านหนัก อ่านเยอะ เรียนพิเศษก็เยอะ ไปตรงๆ เลย แต่จริงๆ มันก็มีวิชาที่ผมไม่ถนัดอยู่ เราก็เลือกคณะที่มันไม่ต้องใช้วิชานี้เยอะไง อย่างผมเลขนี่คือกามั่วนะ แต่ก็ยอมลงสอบคณิต 2 เพราะว่าผมอยากสอบสถานที่สอบในเมือง คือรู้สึกที่นี่ไปง่าย จะสอบที่นี่ต้องลงเลขด้วย ซึ่งผมอะไม่ต้องสอบวิชานี้ก็ได้ แต่ก็เข้าไปมั่วๆ อยากรู้เหมือนกันว่าถ้ากา ก-ข-ค-ง-ก-ข วนไป จะเป็นยังไง สรุป ได้ 28 เต็ม 100

 
                    คือเรารู้ว่าเราต้องใช้วิชาอะไร แล้วเราก็ชอบในวิชาอะไร มันก็จะทำได้โอเค มันต้องชอบก่อนอะ พูดไม่ถูก คือคุณเรียนคุณต้องรู้ว่าจะสนใจอะไรวิชานี้ มันก็จะไม่ต้องพยายามอ่าน แต่ถ้ายุคนี้ มันมีเวย์มากมายเลยนะ มันไม่จำเป็นต้องได้เดินเป็นเส้นปกติขนาดนั้นก็ได้

 

 
ชีวิตที่ก้าวข้ามเรื่องเพศ เพราะทุกคนคือเพื่อนกัน
                    ผมเรียนศิลป์-ภาษา ผู้ชาย 7 ผู้หญิง 15 จนมาเรียนอักษรก็ผู้หญิงเยอะ มันเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว เราไม่ได้รู้สึกว่ามันคือเพศอะไร มันอยู่ที่ว่าคนเหล่านั้นโอเคหรือเปล่า ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเจอคนที่นิสัยดีก็เลยไม่รู้สึกว่าเราต้องปรับตัวอะไรมากมาย ระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงมันเชื่อมกันได้อย่างน่าประหลาด ผู้ชายที่ตัดสินใจมาเรียนศิลป์-ภาษาก็ไม่ได้โลดโผนมาก เตะบอลกันตอนกลางวัน แต่ว่าซอฟต์กันหมด พอมาถึงคณะอักษรก็จะมีทุก Gender ทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอยู่ดีเพราะว่าทุกคนเหมือนพอเข้าคณะนี้แล้วก้าวข้ามไปหมดเลย ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย

 
เริ่มทำหนังจากการเรียนรู้ด้วยตัวเอง
                    พอมาทำหนังผมก็เรียนรู้ด้วยตัวเอง เพราะมันไม่ได้มีโรงเรียนสอน หรือไม่มีอินเทอร์เน็ตให้ดู เราก็ซื้อของมาลองดูเลย ทำเองเลย สมมติอยากถ่ายฉากกลางคืน ก็ไปลองถ่ายเลย เฮ้ย มืด! เราก็รู้ว่า อ๋อ เขาจัดแสงมันถึงเห็นหน้าประมาณนั้น

 

 
ไวรัลคือของเล่นสนุกๆ ของเต๋อ
                    ไวรัลของหนังที่เกิดขึ้น จริงๆ ผมคิดว่ามันเหมือนมีของเล่นสนุกๆ มากกว่า มันไม่ได้เป็นแบบ เดี๋ยวปล่อยอันนี้แล้วจะต้องไวรัลชัวร์ๆ นะ เราแค่หวังว่าจะได้นะ แล้วส่วนใหญ่มันก็ได้ ก็ถือว่าเป็นความร่วมมือระหว่างเราและทีมงาน GDH ที่ช่วยกัน ส่วนตัวผมไม่ได้คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จอะไรนะ เราแค่ทำแบบที่ชอบ ทำมันให้เกิดขึ้นให้ได้ แล้วก็ทำมันให้ดี แค่นี้เอง แต่ว่าผลที่มันจะเกิดขึ้นเราไม่ได้ตั้งเป้าอะไรขนาดนั้น คือแค่ทำเสร็จก็รู้สึกว่ามัน Success แล้ว เพราะฉะนั้นประสบความสำเร็จสำหรับเราคือเราทำเสร็จแล้ว แต่ว่าผลมากน้อยอันนี้แล้วแต่

 
ความฝันที่นอกเหนือจากวงการหนัง
                    ถ้ามองตัวเองแล้วไม่ได้เป็นผู้กำกับ ก็คงจะเขียนหนังสือ เพราะเมื่อก่อนมันจะไม่มีเวย์ให้ทำ ต่อให้อยากทำแต่เราก็ไม่รู้เข้ายังไง ก็เลยเริ่มจากเขียนหนังสือก่อน เคยฝึกงานที่ a day จริงๆ ถ้าเกิดไม่ได้ทำหนังก็จะไปทำแมกกาซีน ไม่ก็ Online editor ทำเพจ นอกจากนี้ก็อยากครีเอทเสื้อผ้าในแบบของเราเอง แต่ก็คงทำเล่นๆ ก่อนแหละ

 

 
ชอบก็ทำ อย่ามัวแต่รอ!
                    ฝากถึงน้องๆ ก็คือไม่ต้องทำหนังแบบเราก็ได้นะ อย่างน้อยทำสิ่งที่ชอบ ทำสิ่งที่ถนัด รู้แล้วลงมือทำเลยอย่ามัวแต่โพสต์ เพราะไม่งั้นก็ไม่เกิดขึ้นอยู่ดี ในชีวิตจริงสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ มันเกิดในโลกออฟไลน์ เราก็ต้องทำโลกออฟไลน์ให้เกิดขึ้น ในโลกออนไลน์เราจะเขียนจะทำอะไรก็ได้อยู่แล้ว ส่วนจริงไม่จริง มันเกิดขึ้นตรงหน้า เกิดขึ้นในโลกออฟไลน์มากกว่า

 
                    เพราะความชัดเจนในตัวตน ชอบแล้วลงมือทำ ไม่มัวมานั่งรอ นี่แหละคือตัวตนที่ทำให้เต๋อ นวพล กลายเป็นผู้กำกับฝีมือดีที่ใครๆ ก็ชื่นชอบ น้องๆ ก็ลองเอาประสบการณ์ดีๆ จากพี่เต๋อไปปรับใช้ได้นะครับ ส่วนใครดู #ฮาวทูทิ้ง แล้วเป็นยังไงบ้าง มาเล่าให้พี่เบสฟังได้นะครับ

 

Clip

ถามไวตอบไว ไปกับเต๋อ นวพล

พี่เบส

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด