สวัสดีน้องๆ นักอ่านชาวเด็กดีทุกคนนะคะ ก่อนหน้านี้พี่นัทตี้เคยเขียนบทความเกี่ยวกับซีรีส์ชื่อดังทางเน็ตฟลิกซ์อย่าง The Haunting of Hill House กันไปแล้ว ซึ่งถ้าใครยังไม่เคยอ่านกันก็สามารถคลิกเข้าไปอ่านได้ที่ The Haunting of Hill House จากหนังสือนวนิยายแนวสยองขวัญสู่แรงบันดาลใจที่ทำให้เป็นซีรีส์เรื่องดังทาง Netflix  และสำหรับบทความในวันนี้เราก็ไม่ได้จะมาพูดถึงงานเขียนชิ้นนี้กัน แต่เราจะมาพูดถึงตัวนักเขียนอย่าง เชอร์ลี่ย์ แจ็กสัน กันบ้างจ้ะ มาดูกันดีกว่าว่าชีวิตนักเขียนนวนิยายสยองขวัญนั้นเป็นอย่างไร จะแตกต่างจากเรามากไหม ไปติดตามอ่านต่อกันเลยดีกว่า… 

 

ภาพจาก literaryfictions.com

 

         ตลอดระยะเวลาของการเป็นนักเขียนที่ผ่านมา เชอร์ลี่ย์ ได้ออกผลงานที่เป็นนวนิยายเรื่องยาวจำนวน 6 เล่ม อีกทั้งยังมีผลงานเป็นเรื่องสั้นจำนวนมากกว่า 200 เรื่องอีกต่างหาก แฟนหนังสือของเชอร์ลี่ย์ที่เป็นนักเขียนชื่อดังนั้นก็มีตั้งแต่ สตีเฟ่น คิง, นีล ไกแมน และ ซาร่า วอเทอร์กันเลย เอาล่ะ เกริ่นกันมาหอมปากหอมคอก็ได้เวลาที่เราจะไปทำความรู้จักกับเชอร์ลี่ย์กันแล้วล่ะจ๊ะ ถ้าอยากรู้กันแล้ว ไปอ่านต่อกัน!!!

 

        เชอร์ลี่ย์เข้ารับการศึกษาจากมหาวิทยาลัยร็อคเซสเตอร์ที่แคลิฟอร์เนียในระดับปริญญาตรี ก่อนจะถูกไล่ออกในปีที่สองของการเรียน เชอร์ลี่ย์เป็นเด็กที่ไม่ค่อยสนใจเรียนเท่าไหร่ โดยเธอมักจะใช้เวลาอยู่ในคาเฟ่กับเพื่อนสนิทมากกว่าการเข้าห้องเรียนซะอีก นอกจากนี้ยังมีข้อมูลระบุออกมาว่า ความจริงแล้วเธอนั้นตกอยู่ในภาวะซึมเศร้าอย่างรุนแรง ซึ่งนวนิยายที่ได้รับอิทธิพลจากสถานการณ์ของเธอในตอนนั้นได้แก่ นวนิยายที่มีชื่อว่า Hangsaman


 

         แม้ว่าเชอร์ลี่ย์นั้นจะเป็นนักเขียนนวนิยายแนวสยองขวัญ แต่เธอก็ไม่เคยสัมผัสประสบการณ์ชวนขนหัวลุกเลยสักครั้ง อย่าง  The Haunting of Hill House นวนิยายชื่อดังของเธอนั้น ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวของคฤหาสน์หลังหนึ่งในเยอรมัน จวบจนกระทั่งประวัติของบ้านร้างที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ บ้านของเธอ และเหตุการณ์ชวนสยองที่เราเห็นในนวนิยายนั้นก็ล้วนแล้วแต่จะได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังสือแนวผจญภัยในบ้านผีสิง เห็นไหมจ๊ะ ว่าเราไม่จำเป็นที่จะต้องเจอผี แต่เราก็สามารถเขียนเรื่องผีได้จากความสนใจของเรานั่นเอง

 

ภาพจาก nybooks

 

          เชอร์ลี่ย์ แจ็กสัน ประสบกับโรคกลัวที่ชุมชนในบั้นปลายสุดท้ายของชีวิต ในช่วงเวลานั้นเธอรู้สึกแย่กับตัวเองมากจนไม่กล้าออกไปนอกบ้าน โดยแจ็กสันได้เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายในเดือนสิงหาคม ปี 1965 ซึ่งในระหว่างประสบกับโรคกลัวที่ชุมชนจนกระทั่งเสียชีวิตนั้น แจ็กสันได้เขียนนวนิยายทิ้งไว้เป็นจำนวนทั้งหมด 2 เล่ม ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นนวนิยายแนวแฟนตาซีสำหรับเด็กที่มีชื่อว่า The Fair Land of Far


 

          ถึงแม้ว่าเชอร์ลี่ย์จะไม่เชื่อในสิ่งลี้ลับ แต่เธอกลับเป็นแฟนตัวยงของหนังสือแนวอาถรรพณ์และไสยศาสตร์ จึงไม่แปลกใจเลยที่หนังสือของเธอจะมีเยอะ จนสามารถสร้างเป็นห้องสมุดได้แบบนี้ เชอร์ลี่ย์เริ่มสนใจในคาถาตั้งแต่ช่วงปีแรกๆ ที่เธอเรียนอยู่ในวิทยาลัย และเธอศึกษามันอยู่ตลอดจวบจนกระทั่งวินาทีสุดท้ายของชีวิต ซึ่งหนังสือที่เชอร์ลี่ย์สนใจนั้นส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือประเภทตำรา คาถา พระคัมภีร์ และแม้แต่คู่มือแม่มดเธอก็ยังมีเลยคิดดู

 

ภาพจาก electricliterature

 

           บอกเลยว่าที่มาที่ไปของ The Lottery เล่มนี้นั้นเกิดขึ้นในระยะเวลาที่ (โคตร) สั้น เพราะมันได้ถูกเขียนขึ้นภายในวันเดียว แถมแรงบันดาลใจนั้นก็ได้มาจากการออกไปซื้อของที่ร้านขายของชำเพียงแค่นั้น พอเขียนเสร็จเธอก็ออกไปรับลูกๆ ที่โรงเรียนอนุบาล คือดูจะชิวซะเหลือเกิน ซึ่งใครจะไปรู้ว่านักเขียนสุดแสนจะชิลคนนั้น ได้มีผลงานโดดเด่นจนเป็นที่น่าจดจำอย่างทุกวันนี้

 

 

            น้องๆ จะเห็นได้ว่าชีวิตของคนๆ หนึ่งนั้นน่าสนใจไม่น้อยไปกว่าอะไรเลย เพียงแต่เราแทบจะไม่ได้รู้ชีวิตของพวกเขาเท่านั้นเองว่าเขาเป็นใคร มีนิสัยแบบไหน เพราะส่วนใหญ่เราคงจะรู้จักกันแค่ผลงานอย่างเดียว และชีวิตของเชอร์ลี่ย์คนนี้ก็น่าสนใจและไม่ทำให้เราผิดหวัง ใครจะไปรู้ว่าคนที่เขียนนิยายแนวสยองขวัญนั้นจะมีชีวิตที่ไม่สนใจและไม่เชื่อเรื่องวิญญาณแบบนี้ แล้วน้องๆ นักเขียนคนไหนมีชีวิตที่ส่วนทางกับงานเขียนของตัวเองกันบ้างไหม หรือใครที่ชอบเขียนเรื่องผี แต่ไม่เชื่อเรื่องผีแบบเชอร์ลี่ย์อยู่อีกบ้าง ไหนขอเสียงหน่อยซิ