สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D ตอนนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ช่วงเลือกตั้งครั้งสำคัญเลยล่ะ ใครที่ติดตามข่าวคงเห็นกันแล้วว่า แต่ละพรรคได้เปิดตัวผู้สมัครเข้าชิงตำแหน่งนายกเป็นที่เรียบร้อย งานนี้ใครจะได้นั่งตำแหน่งทำหน้าที่บริหารประเทศเป็นคนต่อไปเรายังต้องติดตามกันต่อเนอะ วันนี้พี่เลยขอรวบรวมรายชื่อผู้นำหญิงเก่งๆ จากทั่วโลกมาให้น้องๆ ได้รู้จักกันค่ะ จะมีใครบ้างไปดูกันเลย!
ปัจจุบันในหลายๆ ประเทศมีผู้นำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี ประธานาธิบดี
ผู้สำเร็จราชการแทน ฯลฯ เป็นผู้หญิงมากมายที่ยังคงดำรงตำแหน่งอยู่
แต่ถ้าจะให้ยกมาทั้งหมดอาจจะยาวไปหน่อย
พี่เลยคัดเลือกมาเฉพาะผู้นำที่อายุน้อยที่สุด คือตั้งแต่ช่วง 40-50 ปีค่ะ
Jacinda Ardern
นายกรัฐมนตรีของนิวซีแลนด์
เจซินดาเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนปัจจุบันของประเทศนิวซีแลนด์ที่เข้ารับตำแหน่งไปเมื่อปลายปี 2017 ที่ผ่านมานี้เองค่ะ และเธอมีอายุเพียง 37 ปี ซึ่งถือว่าเป็นผู้หญิงที่อายุน้อยที่สุดที่มาดำรงตำแหน่งในรัฐบาลด้วยค่ะ
นายกเจซินดาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย University of Waikato และเริ่มอาชีพทางการเมืองจากการเป็นนักวิจัยในสำนักงานของเฮเลน คลาร์ก (Helen Clark) นายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 37 ของนิวซีแลนด์ จากนั้นเจซินดาจึงไปทำงานเป็นที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรีโทนี แบลร์ (Tony Blair) ของสหราชอาณาจักร
ในปี 2008 เธอได้รับคัดเลือกให้เป็นประธานของ International Union of Socialist Youth และได้เข้าร่วมในสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (member of parliament) และเป็นหัวหน้าพรรคแรงงานของนิวซีแลนด์ (New Zealand Labour Party) เมื่อต้นปี 2017 จนปัจจุบันได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 40 ของนิวซีแลนด์
ล่าสุดนายกเจซินดาเพิ่งจะเป็นแม่คนไปหมาดๆ เพราะเพิ่งคลอดลูกสาวไปเมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา และถือว่าเธอเป็นหัวหน้ารัฐบาลหญิงคนที่ 2 ของโลกที่ให้กำเนิดบุตรขณะดำรงตำแหน่งค่ะ น่าภูมิใจมากๆ และเนื่องจากต้องเป็นแม่คน ตอนนี้นายกเจซินดาเลยได้สิทธิ์การลาคลอดและให้นาย Winston Peters ดำรงตำแหน่งแทนค่ะ
Katrín Jakobsdóttir
นายกรัฐมนตรีของไอซ์แลนด์
ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่มีเรื่องน่าสนใจมากมายเลยนะคะ เรื่องแรกก็คงจะเป็นธรรมชาติที่สวยงามของประเทศ และที่รองลงมาก็น่าจะเรื่องที่พวกเขามี 'นายกรัฐมนตรีหญิง' เป็นคนที่ 2 ของประเทศที่ชื่อว่า Katrín Jakobsdóttir นี่เองค่ะ
ก่อนหน้านี้พี่เคยเล่าเรื่องนายกคัทรินไปคร่าวๆ ในบทความ 10 เรื่องเจ๋งๆ ของไอซ์แลนด์แล้ว ว่าเธอเข้ามาดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี 2017 และเป็นนายกฯ คนที่ 28 ของประเทศไอซ์แลนด์ที่มีอายุเพียง 42 ปีเท่านั้น โดยนายกคัทรินออกตัวว่าเป็นนักการเมืองฝ่ายซ้ายในพรรคการเมือง Left-Green Movement ที่จะเน้นโฟกัสในเรื่องประชาธิปไตยแบบสังคมนิยม เฟมินิสต์ แนวคิดเชิงสิ่งแวดล้อมนิยม และต่อต้านทหารด้วยค่ะ
นอกจากนั้นนายกคัทรินยังมีเรื่องที่น่าสนใจอีกหลายอย่างเลยค่ะ เช่น ก่อนที่เธอจะเข้ามาทำงานในวงการการเมือง เธอจบจากมหาวิทยาลัย University of Iceland ด้วยภาควิชาภาษาไอซ์แลนด์ และวิชาโทภาษาฝรั่งเศส หลังจากนั้นจึงต่อ ป.โท ด้านวรรณกรรมไอซ์แลนด์และเขียนวิทยานพนธ์เกี่ยวกับนักเขียนนิยายอาชญากรรม หลังจากนั้นจึงเข้ามาทำงานในวงการด้านภาษา วงการข่าว และมีงานเขียนของเธอในสื่อมากมายหลายแห่งในไอซ์แลนด์ และยังเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยในไอซ์แลนด์อยู่ประมาณ 1 ปีด้วยค่ะ
ในปี 2016 ที่ผ่านมา สำนักงานการตลาดในไอซ์แลนด์ (MMR) ได้จัดให้นายกคัทรินเป็น 'นักการเมืองที่ประชาชนไว้ใจที่สุด' จากผลสำรวจของประชาชนไอซ์แลนด์ที่มากถึง 59.2 เปอร์เซนต์ ซึ่งมากกว่าประธานาธิบดีในตอนนั้นที่ได้คะแนนที่ 54.5 เปอร์เซนต์ค่ะ และอีกเรื่องที่น่ารักปนเท่ก็คือนายกคัทรินเคยได้แสดงใน Music video ของวงร็อคไอซ์แลนด์ที่ชื่อ Bang Gang ในเพลงที่ชื่อว่า "Listen Baby" ด้วยค่ะ
นายกเคยให้สัมภาษณ์ว่าในประเทศเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมอย่างไอซ์แลนด์เนี่ย เป็นเรื่องธรรมดามากที่ชาวไอซ์แลนด์จะสามารถทำอะไรหลายๆ อย่าง เป็นอะไรได้หลายๆ ตำแหน่งหรือาชีพในเวลาเดียวกันค่ะ เจ๋งสุดๆ ไปเลย
Ana Brnabić
นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของเซอร์เบีย
นายกอนา บีร์นาบิค (Ana Brnabić) เป็นนายกหญิงคนแรกของประเทศเซอร์เบีย แถมเห็นรูปครั้งแรกก็แอบชมไม่ได้ว่าเท่สุดๆ ไปเลยค่ะ นายกอนาได้รับตำแหน่งเมื่อกลางปี 2017 ด้วยอายุเพียง 42 ปีเท่านั้น และไม่ได้อยู่ในสังกัดพรรคการเมืองใดๆ ของประเทศเซอร์เบียด้วยค่ะ
สิ่งที่น่าสนใจและแปลกใหม่ของเซอร์เบียไม่ใช่แค่การมีนายกหญิงคนแรกเท่านั้น แต่นายกอนายังเปิดตัวออกสื่อว่าเธอเป็นชาวสีรุ้งที่รักเพศเดียวกัน เรียกง่ายๆ ก็คือเธอเป็นนายกชาวหญิงรักหญิงคนแรกของเซอร์เบียด้วยเช่นกัน แต่ขณะเดียวกันการออกตัวในเรื่องเพศสภาพในประเทศที่ยังมีความอนุรักษ์นิยมอยู่มากนั้นก็เป็นเรื่องยากพอสมควร เพราะนักการเมืองบางคนในเซอร์เบียถึงกับออกปากว่าไม่อยากสนับสนุนเธอเพียงเพราะเธอเป็นคนรักเพศเดียวกัน
ถึงแม้ว่าจะยังมีคนที่ไม่เห็นด้วยและไม่เชื่อว่าเธอจะเก่งเท่าๆ กับนายก (ชาย) เก่าๆ ที่ผ่านมา แต่นายกอนาก็ยังดำรงตำแหน่งได้อย่างมุ่งมั่น กล้าหาญ และอย่างน้อยการได้มาดำรงตำแหน่งนายกปัจจุบันของเซอร์เบียนั้นก็ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี และเป็นโอกาสที่คนทั้งประเทศจะได้เห็นถึงพลังของผู้หญิงที่มีไม่แพ้ผู้ชายเช่นกันค่ะ
ใครอยากอ่านเรื่องของนายกอนา บีร์นาบิคต่อสามารถตามไปที่บทความเก่าได้เลยค่ะ
Kersti Kaljulaid
ประธานาธิบดีคนที่ 5 ของเอสโตเนีย
เคิร์สตี (Kersti Kaljulaid) เข้าดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 5 ของประเทศเอสโตเนียเมื่อปี 2016 ด้วยอายุเพียง 46 ปี (ปัจจุบันอายุ 48 ปี) ซึ่งถือว่าเด็กที่สุดถ้าเทียบกับประธานาธิบดีคนก่อนๆ รวมถึงเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประเทศอีกด้วยค่ะ
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีเคิร์สตีจบปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจและเข้าทำงานในสายธุรกิจมาก่อน จนกระทั่งในปี 2001 เป็นต้นมา เธอจึงเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องการเมือง โดยส่วนตัวแล้วประธานาธิบดีเคิร์สตีบอกว่าเธอเป็นนักการเมืองฝ่าย 'เสรี-อนุรักษนิยม' (Liberal conservatism) และให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือสังคม รวมไปถึงสิทธิต่างๆ เช่นเรื่องของ LGBT (เพศทางเลือก) และกลุ่มคนอพยพด้วยค่ะ
อีกเรื่องที่น่าสนใจคือประธานาธิบดีเคิร์สตีผลักดันเรื่องการรักษาความปลอดภัยในโลกดิจิทัล และสนับสนุนให้เอสโตเนียเป็นประเทศที่มีการพัฒนาด้านรัฐบาลดิจิทัล ที่ทุกส่วนของภาครัฐมีการใช้งานแบบยุคสมัยใหม่ด้วยค่ะ
Kolinda Grabar-Kitarović
ประธานาธิบดีโครเอเชีย
ถึงแม้ว่าประเทศโครเอเชียจะไม่ได้แชมป์ฟุตบอลโลก FIFA World Cup ในปีนี้ แต่ประธานาธิบดีคนสวยของโครเอเชียก็ได้ใจจากหลายๆ คนทั่วโลกไปครอง ถ้าน้องๆ ได้ติดตามดูบอลหรือตามข่าวน่าจะได้เห็นภาพที่ประธานาธิบดีโคลินดา (Kolinda Grabar-Kitarović) ใส่เสื้อทีมโครเอเชียติดขอบสนาม และถึงแม้ว่าโครเอเชียจะไม่ได้แชมป์ไปครอง แต่เธอก็ยังภูมิใจและให้กำลังใจนักบอลทุกคนในสนามท่ามกลางสายฝน
โคลินดาเป็นประธานาธิบดีคนที่ 4 ของโครเอเชีย โดยเข้ารับตำแหน่งตั้งแต่ปี 2015 และมีประวัติการเรียนที่โดดเด่น เช่น เคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่สหรัฐอเมริกา จบปริญญาตรีด้านภาษาและวรรณกรรมอังกฤษและสเปน และต่อปริญญาโทในสาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในมหาวิทยาลัย University of Zagreb เมืองหลวงของโครเอเชีย แต่หลังจากนั้นก็ได้รับทุนฟุลไบรท์ไปเรียนต่อที่ George Washington University สหรัฐอเมริกา และล่าสุดคือในปี 2015 เธอก็ตัดสินใจเรียนต่อในระดับปริญญาเอกในสาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ University of Zagreb ด้วยค่ะ
แน่นอนว่านอกจากเรื่องการศึกษาแล้วเธอยังเป็นผู้หญิงในวงการการเมืองที่มีผลงานโดดเด่น เธอเคยถูกจัดอันดับให้เป็นหญิงที่ทรงพลังที่สุดในโลกอันดับที่ 39 โดยนิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) เมื่อปี 2017 ด้วย
ผู้นำหญิงแต่ละคนนี่ก็มีความเก่งไม่แพ้กันเลยนะคะ พอได้อ่านเรื่องราวแล้วก็รู้สึกว่าอยากเก่งแบบนี้บ้างจัง ^^
อ้างอิง
1 ความคิดเห็น
ขอบคุณ