วิกฤตการณ์ 'ขยะพลาสติก' ทำลายโลก ควรเริ่มจากการ 'ใช้พลาสติกให้น้อยลง' กันดีไหม?!

    สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ไม่กี่วันที่ผ่านมาน้องๆ น่าจะได้อ่านข่าวเรื่องวาฬนำร่องครีบสั้นที่จังหวัดสงขลา ที่เกยตื้นและมีอาการป่วยหนัก และภายหลังแพทย์พบว่าในท้องของเจ้าวาฬตัวนี้มีแต่ขยะพลาสติกจำนวนกว่า 80 ชิ้น น้ำหนักถึง 8 กิโลกรรม เป็นข่าวที่อ่านแล้วน่าสลดใจมากๆ เลยนะคะ เพราะทุกวันนี้เราใช้พลาสติกกันอย่างไม่ได้ตระหนักเท่าที่ควรว่าเมื่อเราทิ้งไปจะเกิดผลเสียต่อใครบนโลกนี้บ้าง 

    ไหนๆ วันสิ่งแวดล้อมก็จะมาถึงแล้ว (5 มิ.ย. นี้) วันนี้ พี่นิทาน เลยจะขอเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ลดการใช้พลาสติกในชีวิตประจำวัน และขอพูดถึงข้อเสียของขยะพลาสติก ผลกระทบต่อสิ่งต่างๆ ด้วยค่ะ อย่าเพิ่งคิดไปก่อนนะคะว่าหัวข้อวันนี้น่าเบื่อจังเลย แต่พี่คิดว่าเรื่องเหล่านี้ควรเป็นเรื่องที่เราทุกคน ทุกวัยต้องตระหนัก และใส่ใจค่ะ มาเปลี่ยนแปลงไปด้วยกันดีกว่าเนอะ ทีละน้อยก็ยังดี


ขยะพลาสติก = ทำลายชีวิตในทะเล 


Photo: Pixabay

    ถ้าจะพูดถึงขยะบนโลกนี้อาจจะมีมากมายหลายประเภทเกินกว่าจะยกมาเล่าลงในนี้ได้ เลยขอพูดถึงแต่ 'ขยะพลาสติก' ที่เป็นดาวเด่นในกลุ่มขยะที่ย่อยสลายไม่ได้ แถมยังทำลายธรรมชาติอีกค่ะ ขยะพลาสติกนี้มีหลายชนิด และที่พบมากที่สุดในทะเลและมหาสมุทรต่างๆ ก็คือ 

1. ขวดน้ำพลาสติก
2. ถุงพลาสติก
3. หลอดพลาสติก 

    สามสิ่งที่ว่ามานี้ แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่เราขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน เพราะทุกครั้งที่เราออกไปซื้อของในร้านค้าต่างๆ หรือร้านสะดวกซื้อ สิ่งของเหล่านั้นมักถูกบรรจุมาในวัสดุที่ทำจากพลาสติก และนอกจากนั้นก็ยังมีหลอดพลาสติกและถุงพลาสติกที่เรามักได้คู่กันมาทุกครั้งเวลาซื้อของค่ะ (ใครอ่านถึงตรงนี้แล้ว ถ้าทำได้ พี่แนะนำให้ปฏิเสธไปว่าไม่เอาถุงหรือไม่เอาหลอด ถ้ารู้ว่าเราจะไม่ใช้จริงๆ) 

    สาเหตุที่พลาสติกเข้ามามีบทบาทในเกือบทุกอย่างของชีวิตเราก็เพราะว่าพลาสติกเป็นวัสดุที่มีราคาถูก ใช้งานง่าย สะดวกสบายและทนทาน แต่ในขณะเดียวกันก็มีข้อเสียที่ตามมาเช่นกัน คืออายุของพลาสติกนั้นยืนยาวกว่าชีวิตมนุษย์และสัตว์โลกต่างๆ อีกค่ะ เพราะใช้เวลาในการย่อยสลายนานถึง 450 ปี ซึ่งเป็นเวลาที่เยอะมากๆ เห็นตัวเลขแล้วน่าตกใจ

 
Photo: www.livescience.com/

    เมื่อขยะพลาสติกใช้เวลาย่อยสลายนานมากจนฟังดูเหมือนไม่น่าจะย่อยสลายได้เลย สิ่งที่จะได้รับผลเสียมากที่สุดก็คือสิ่งมีชีวิตต่างๆ บนโลก โดยเฉพาะในทะเลและมหาสมุทรต่างๆ เพราะทุกๆ ปีจะมีขยะประมาณ 8 ล้านตันถูกทิ้งลงสู่ทะเล และมีการคาดการณ์ว่าในปี 2050 จำนวนปลาในทะเลจะลดลงและน้อยกว่าจำนวนขยะอีกค่ะ และพลาสติกบางชนิดมีสารพิษที่สามารถทำให้สิ่งมีชีวิตป่วยได้ แต่ไม่ว่าจะมีพิษหรือไม่มีพิษก็มีสัตว์น้ำจำนวนมากกลืนกินขยะพลาสติกไปโดยไม่รู้ว่ามันไม่ใช่ 'อาหาร' ของพวกมันเลย และส่งผลให้สัตว์ทะเลเหล่านั้นเจ็บป่วยหรือตายเป็นจำนวนมากเช่นกันค่ะ


สัตว์น้ำเข้าใจผิดว่าเป็นอาหาร


Photo: www.onegreenplanet.org/

    เป็นเรื่องน่าเศร้าที่จำนวนขยะพลาสติกในทะเลนั้นเยอะมากถึงขนาดสัตว์ทะเลหลายๆ ชนิดเข้าใจผิดว่าเป็นอาหาร ยกตัวอย่างจากเคสเต่าทะเลที่ชอบคิดว่าถุงพลาสติกใสๆ คือแมงกะพรุน ก็เลยกินเข้าไป แต่เมื่อกินเข้าไปแล้วก็เป็นภัยต่อร่างกายเพราะไม่สามารถย่อยได้ และที่น่าตกใจคือจำนวนเต่าทะเลกว่า 50% ในทะเลล้วนเคยกลืนกินขยะพลาสติกไปแล้วทั้งสิ้น 

 
Photo: YouTube

    น้องๆ หลายคนอาจจำข่าวเต่าทะเลตัวหนึ่งได้ ที่เป็นคลิปวิดีโอคนช่วยเจ้าเต่าโดยการดึง 'หลอดพลาสติก' ออกมาจากโพรงจมูกของมัน ซึ่งในคลิปนั้นทั้งน่ากลัว น่าหวาดเสียว และน่าสงสารเจ้าเต่า เพราะมันดูเจ็บมากๆๆ และน้องๆ เชื่อไหมคะว่าหลอดพลาสติกอันนี้มีความยาวถึง 12 เซนติเมตรเลยค่ะ ดูคลิปแล้วก็สงสารเต่ามากๆ และนอกจากเต่าแล้ว สัตว์ทะเลอื่นๆ อย่างเช่น แมวน้ำ นกทะเล ปลาต่างๆ เช่น วาฬ, ปลาโลมา และอื่นๆ เป็นต้น 

หมายเหตุ: นอกจากสัตว์น้ำแล้ว ขยะพลาสติกก็เป็นอันตรายต่อสัตว์บกเช่นกันค่ะ 


แล้วประเทศอื่นจัดการกันยังไง?


Photo: Claudio Bresciani/TT

    การรณรงค์ลดการใช้พลาสติกและเรื่องของการจัดการขยะต่างๆ ของแต่ละประเทศนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เราอาจเห็นตัวอย่างง่ายๆ จากที่เมืองไทยแล้วว่าการรณรงค์แยกขยะไปก็ไม่ได้ส่งผลอะไรมากนัก เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะใส่ใจและแยกขยะอย่างจริงจัง แถมบางคนก็ชอบพูดกันว่าต่อให้แยกขยะไป สุดท้ายคนเก็บขยะก็เอาไปรวมกันอยู่ดี อันนี้พี่ไม่รู้ข้อมูลที่แน่ชัด แต่พอลองหาในเน็ตก็มีบางที่บอกว่ารถขยะบางเขตก็แยกนะ เช่น มีถุงแยกแก้ว แยกขวดน้ำ อะไรก็ว่าไป แต่สุดท้ายแล้วถ้าประชาชนไม่ได้แยกกันเป็นนิสัยอยู่แล้วก็อาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

 
Photo: YouTube

    ในขณะเดียวกันที่ต่างประเทศ ในหลายๆ ประเทศมีนโยบายชักชวนให้ผู้คนหันมารีไซเคิลขยะด้วยวิธีเก๋ๆ กันด้วยค่ะ และก็ได้ผลดีพอสมควร อย่างเช่นที่ประเทศสวีเดนเขาค่อนข้างตระหนักเรื่องขยะพลาสติก (และขยะอื่นๆ) ที่ถ้าทิ้งๆ ขว้างๆ ก็อาจทำลายธรรมชาติและสัตว์ต่างๆ ได้ เขาก็เลยมีเครื่องอัตโนมัติที่รับทิ้งขยะพวกนี้ ไม่ว่าจะเป็นพลาสติก กระป๋อง เมื่อนำขยะเหล่านี้ใส่เข้าไปก็จะมีเงินตอบแทนออกมาให้ค่ะ เช่น 1 ขวดพลาสติก = 1 สวีดิชโครนา (4 บาท) หรือจะเลือกบริจาคเงินเหล่านี้ไปก็ได้ค่ะ และนอกจากประเทศสวีเดนที่ทำแบบนี้แล้วก็ยังมีเยอรมนี นอร์เวย์ เดนมาร์ก เป็นต้นด้วยค่ะ 

    นอกจากนั้นในปี 2017 มีสถิติประเทศที่รีไซเคิลขยะมากที่สุดในโลกก็คือประเทศเยอรมนี รองลงมาคือออสเตรีย เกาหลีใต้ เวลส์ และสวิตเซอร์แลนด์ค่ะ 


เราช่วยอะไรได้บ้าง?


Photo: Green Peace UK

    เวลาที่เราเห็นข่าวต่างๆ อย่างข่าววาฬที่สงขลาล่าสุด เราก็มักจะโทษเรื่องการทิ้งขยะลงทะเล แต่ถ้าจะมองในมุมที่กว้างกว่านั้น พี่คิดว่าการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุไปเลยน่าจะยั่งยืนกว่าค่ะ คือการใช้พลาสติกให้ลดลง หรือถ้าเป็นไปได้ก็งดใช้ไปเลยยิ่งดี ถึงแม้ว่าอาจจะยาก และอาจไม่เอื้อกับวิถีชีวิตในไทยเท่าไหร่นัก แต่ถ้าเราเริ่มต้นสักเล็กๆ น้อยๆ ก่อนก็น่าจะดีกว่าไม่ทำอะไรเลย 

    พี่เคยได้ยินเพื่อนต่างชาติเล่าว่เพื่อนหลายๆ คนของเขาใช้ชีวิตแบบเลี่ยงการใช้พลาสติก ซึ่งการทำแบบนั้นก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถของคนๆ หนึ่ง วิธีการของพวกเขามีดังนี้ น้องๆ ลองดูไว้เผื่อนำไปปรับใช้ได้นะคะ 

 
Photo: Pixabay

- เลี่ยงการซื้อผลิตภัณฑ์ที่บรรจุด้วยพลาสติก: วิธีนี้อาจเลี่ยงได้โดยการซื้อของเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือของใช้ในรูปแบบหรือภาชนะอื่นๆ เช่น แก้ว กล่องกระดาษ เป็นต้น 

- ใช้ถุงผ้าให้เป็นนิสัย: อย่าเพิ่งคิดว่าใช้ถุงผ้าแล้วดูไม่เก๋ ดูไม่ไฮนะคะ เพราะถุงผ้ามีตั้งหลายแบบให้เลือก และเราก็สามารถใช้ได้ตลอดเวลาไม่เหมือนกับถุงพลาสติกที่เราอาจนำมาใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง (หรืออย่างเก่งก็เอาไปใส่ขยะต่อ แล้วทิ้ง) แต่การที่เราพกถุงผ้าไปซื้อของต่างๆ เช่น เวลาไปซูเปอร์มาร์เกต ไปจ่ายตลาด ก็ทำให้เราสามารถบอกพ่อค้าแม่ค้าได้อย่างภูมิใจว่า 'ไม่เอาถุงพลาสติกค่ะ' 

- พยายามไม่ดื่มน้ำดื่มจากขวดพลาสติก: วิธีการนี้พี่แอบคิดว่าอาจจะยากถ้านำมาใช้ในประเทศไทย เพราะที่ต่างประเทศเขาสามารถใช้แก้วน้ำรองน้ำจากก๊อกน้ำแล้วดื่มได้เลย สะอาด ไม่มีพิษภัย ดังนั้นการดื่มน้ำโดยไม่ใช้ขวดพลาสติกอาจง่ายกว่าเรา แต่สำหรับบ้านเรา อาจเริ่มจากการอย่าซื้อน้ำขวดบ่อยนัก แต่ให้ใช้ขวดที่มีอยู่แล้วไปเติมเอาก็ดีนะคะ 

- Reuse ต่างๆ: การนำภาชนะหรือสิ่งของต่างๆ กลับมาใช้อีกรอบก็เป็นความคิดที่ดีนะคะ เช่น ขวดน้ำที่ใช้เสร็จแล้ว นำไปล้างและใช้ต่อได้ (ถึงจะเป็นขวดพลาสติกก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะอย่างน้อยก็ลดจำนวนขวดพลาสติกที่เราจะซื้อในอนาคต ค่อยๆ ทำไปดีกว่าเนอะ ^^)

- นำแก้วกาแฟ/กระติกน้ำติดตัว: เดี๋ยวนี้เวลาไปร้านกาแฟหรือร้านเครื่องดื่มต่างๆ พี่เห็นคนนำแก้วหรือกระติกน้ำมาเองไม่น้อยเลยนะคะ คือให้ที่ร้านใส่แทนแก้วพลาสติก ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีและลดปริมาณการใช้พลาสติกได้เยอะเลย อาจเสียเวลาล้างแก้วหน่อยแต่คิดไว้ว่าเพื่อธรรมชาตินะคะ 

- ถ้าจะไม่ใช้หลอดให้บอกพนักงาน: ร้านสะดวกซื้อบางแห่งยังถามเราบ้างว่า "ลูกค้ารับหลอด/ถุงมั้ยคะ?" แต่บางที่ก็ยังไม่ถามและให้มาดื้อๆ คนซื้อก็รีบ ไม่มีเวลาปฏิเสธหรือเอาออก ณ ตรงนั้น พี่อยากบอกว่าให้บอกพนักงานไปเลยค่ะว่า "ไม่เอาหลอดค่ะ" ลองคิดดูว่าถ้าเราไม่ใช้แล้วก็เอากลับบ้านมาวางไว้เฉยๆ ไม่ดีนะๆ 

- พยายามเลี่ยงภาชนะพลาสติก: เวลาไปสั่งข้างกลับบ้าน หรือสั่งอะไรกลับบ้าน พยายามเลี่ยงภาชนะพลาสติก พี่รู้ว่ามันยากและเราก็ไม่มีสิทธิ์ไปบอกร้านให้เปลี่ยนแปลงอะไรได้มากนัก แต่ถ้าเรารู้อยู่แล้วว่าร้านนี้จะต้องใช้ภาชนะแบบนี้ เราอาจใช้วิธีทานที่ร้าน หรือเลี่ยงไปซื้อร้านอื่นเอาค่ะ หรือถ้าเราไปร้านไหนแล้วทานเหลือก็อาจจะพกภาชนะส่วนตัวไปเองแทนการให้ทางร้านใส่กล่องพลาสติกกลับบ้านมาให้เราก็ดีค่ะ 

- รู้จักทิ้งขยะให้เป็นที่เป็นทาง: ข้อนี้สำคัญมากและทำไม่ยากเลยค่ะ คนไทยอาจชินกับการมีพนักงานคอยเก็บจานหรือขยะต่างๆ ที่เรารับประทานเสร็จแล้วและทิ้งไว้บนโต๊ะ แต่บางครั้งถ้าพอจะมีเวลา พี่ว่าก็ถือขยะไปทิ้งเองก็ได้ค่ะ (เช่น ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดบางแห่ง แต่บางที่ไม่ต้องยกจานไปเก็บหลังครัวให้เค้านะ 555) หรือเวลาไปนั่งร้านกาแฟ เป็นต้น 

    นอกจากนั้นเวลาที่เราไปเที่ยวหรือไปไหนก็ตาม พยายามอย่าทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทาง ถ้าแถวนั้นไม่มีถังขยะก็ช่วยเก็บไว้จนกว่าเราจะเจอถังขยะ ไม่ควรวางทิ้งไว้ค่ะ เพราะขยะของเรา เราก็ควรรับผิดชอบเอง ถ้าทุกคนทำได้พี่ว่าบ้านเมืองก็น่าอยู่ขึ้นเยอะ 

Photo: Pixabay 


**ปัจจุบันประเทศไทยติดอันดับ 6 ที่ทิ้งขยะลงทะเลมากที่สุดในโลก เพราะงั้นเรามาเริ่มจากการลดการใช้พลาสติก และทิ้งขยะให้ถูกที่ถูกทางกันเถอะ**


    เอาล่ะค่ะ พี่ว่าน่าจะได้เวลาในการเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่างบ้างแล้ว เล็กๆ น้อยๆ ก็ยังดี เราอาจเริ่มจากการงดรับถุงพลาสติกหรืองดรับหลอดจากร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าต่างๆ ก่อนก็ได้ อย่าลืมพกถุงผ้าเวลาไปไหนมาไหนด้วยนะ อย่าคิดว่าเราเป็นส่วนน้อยที่ทำแล้วหมดกำลังใจนะคะ เพราะการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ก็พาไปสู่สิ่งดีๆ ใหม่ๆ ได้เยอะเลยค่ะ 

อ้างอิง
http://youngmea.com/
https://www.independent.co.uk/
http://www.onegreenplanet.org/
https://www.standard.co.uk/
https://www.banthebottle.net/
https://www.ecowatch.com/
https://www.thelocal.se/
https://www.babble.com/
https://www.weforum.org/
พี่นิทาน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น