3 คู่รักที่จะทำให้เชื่อในโชคชะตาและ 'รักแท้' อีกครั้ง

     สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com  พี่พิซซ่า มีเรื่องราวความรักของคนธรรมดาทั่วไปที่น่ารักกว่านิยายเรื่องไหนๆ มาฝากกันค่ะ งานนี้เป็นข้อพิสูจน์เลยว่าความรักที่แท้จริงไม่สนใจเรื่องเชื้อชาติ ศาสนา หรือแม้แต่ฐานะ แต่อาจจะต้องอาศัยโชคชะตาสักนิดนึงในการเจอกัน


รักตั้งแต่ยังไม่เคยเจอตัวจริง


     ปกติการคบหาทางออนไลน์กับคนที่เราไม่เคยเจอตัวจริงมาก่อนมักจะเป็นเรื่องน่ากลัว เพราะส่วนมากมักไม่ได้เกิดความรักที่แท้จริงกันสักเท่าไหร่ แต่ในกรณีของวิคตอเรียและโจนาธาน ถือว่าโชคดีสุดๆ จริงๆ ค่ะ


Photo Credit: Twitter: @VictoriaOB_

     วิคตอเรียเป็นสาวนักอ่านที่ชื่นชอบการเล่นทวิตเตอร์ วันหนึ่งในปี 2012 เธอสังเกตว่าทวิตเตอร์ทางการของร้านหนังสือ Waterstones ประจำสาขาถนนอ๊อกซฟอร์ดเริ่มทวีตมุกตลกแบบเนิร์ดๆ พร้อมให้ข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับหนังสือต่างๆ เธอรู้สึกชื่นชอบแอดมินใหม่คนนี้มากจนต้องติดตามแอคเคานต์นี้แทบจะตลอดเวลา เรียกได้ว่าว่างเมื่อไหร่ก็ต้องเข้าทวิตเตอร์มาคอยเช็กว่ามีทวีตใหม่มาบ้างรึยัง

     ซึ่งแอดมินใหม่ประจำทวิตเตอร์ร้านหนังสือนี้เป็นชายหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกันที่ชื่อโจนาธานค่ะ เขาเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ที่เพิ่งเข้ามาใหม่ และได้รับหน้าที่ดูแลทวิตเตอร์นี้ การทำงานของโจนาธานถือว่าดีมากๆ เพราะมีผู้คนติดตามทวิตเตอร์นี้มากขึ้น ร้านหนังสือก็เป็นที่พูดถึง ถึงขนาดมีสาวมาหลงรักแน่ะ


Photo Credit: Twitter: @VictoriaOB_

     วันหนึ่งวิคตอเรียทวีตว่า "ฉันตกหลุมรักกับใครก็ตามที่เป็นคนดูแลทวิตเตอร์ของร้าน Waterstones ประจำสาขาถนนอ๊อกซฟอร์ด" ฝั่งโจนาธานก็มาตอบทวีตว่า "หนอนหนังสือไม่ได้เป็นหนุ่มชวนฝันขนาดนั้นหรอกนะ" วิคตอเรียก็ทวีตจีบกลับอีกที แต่คราวนี้ทางร้านหนังสือไม่ทวีตตอบ ซึ่งวิคตอเรียมารู้ตอนที่คบกับโจนาธานแล้วว่าตอนนั้นเธอไม่ใช่ผู้หญิงคนเดียวที่รุกจีบแอดมินหนุ่มคนนี้ มีคำขอแต่งงานถูกส่งมาหาเยอะมากจนโจนาธานต้องเลิกทวีตพูดคุยกับสาวๆ ไม่งั้นจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นได้ ถ้าใครตื๊อหนักเข้าเขาก็จะทวีตกลับว่า "ขอโทษนะครับผมแต่งงานกับหนังสือแล้ว"

     จนวันหนึ่งวิคตอเรียทวีตบลัฟเพื่อนว่าเธอได้ไปดริ๊งค์กับแอดมินร้านหนังสือมาแล้ว โจนาธานรู้สึกงง เลยใช้ทวิตเตอร์ส่วนตัวถามว่าเธอพูดเรื่องอะไร จากนั้นทั้งคู่ก็โต้ตอบกันผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวกันไปเรื่อยๆ จากเรื่องหนึ่งก็คุยกันต่ออีกเรื่องหนึ่ง ทั้งงานอดิเรก ของที่ชอบ รวมถึงหนังสือ วิคตอเรียก็ยิ่งตกหลุมรักเขาไปเรื่อยๆ

     วันนึงโจนาธานทวีตบ่นในทวิตเตอร์ส่วนตัวว่าอยากกินโดนัทมากๆ วิคตอเรียเลยรวบรวมความกล้า ซื้อโดนัทแล้วรีบไปที่ร้านหนังสือ เธอสังเกตอยู่พักนึงว่าคนไหนที่น่าจะเป็นโจนาธาน จากนั้นก็ต่อคิวรอที่เคาน์เตอร์ พอถึงคิวของเธอ โจนาธานก็พูดตามสเต็ปว่า "สวัสดีครับ มีอะไรให้ช่วยมั้ยครับ" วิคตอเรียยื่นโดนัทข้ามเคาน์เตอร์แล้วบอกว่า "นี่ค่ะโดนัท ตามที่คุณขอ" เสร็จแล้วก็อายม้วนต้วนรีบวิ่งหนีไปเลย


Photo Credit: Twitter: @VictoriaOB_

     สามวันหลังจากนั้น โจนาธานส่งข้อความส่วนตัวหาเธอในทวิตเตอร์เผื่อถามว่าเธออยู่แถวร้านหนังสือรึเปล่า เขากำลังจะออกไปพักเที่ยงเลยจะชวนเธอไปกินข้าวด้วยกัน สุดท้ายทั้งคู่ก็เดินคุยกันไปตามถนนโดยลืมซื้อข้าวไปเลย

     ผ่านไปสามปีกว่า ทั้งคู่แต่งงานกันในเดือนกรกฎาคมปี 2016 ค่ะ เท่าที่ตามดูในทวิตเตอร์ก็เห็นว่าเพิ่งจะมีลูกกันเองด้วย ส่วนตอนนี้โจนาธานไม่ได้เป็นแอดมินทวิตเตอร์ร้านหนังสือแล้ว แต่เป็นนักเขียนออนไลน์เต็มเวลาให้กับเอเจนซี่หนึ่งในอังกฤษค่ะ แล้วก็เขียนเรื่องดูดวงเล็กๆ น้อยๆ ด้วย ทวิตเตอร์ของทั้งคู่เป็นชื่อคล้องกัน กดติดตามทั้งคู่ได้นะคะ


รักโดยไม่สนใจฐานะ


     เคยคิดมั้ยคะว่าถ้าเจอคนไร้บ้านที่ไว้ผมยาวและหนวดเครารุงรังพร้อมเสื้อผ้าที่ไม่ได้ซักจะทำอย่างไร น้อยคนน่าจะตอบว่านั่งคุยด้วยนานๆ เนอะ แต่เอ็มมี่ สาวจากประเทศสวีเดนทำแบบนั้นค่ะ และนั่นคือการที่เธอได้เจอคู่ชีวิต

     ในปี 2006 เอ็มมี่ที่อายุ 30 ปีเดินทางไปท่องเที่ยวที่อัมสเตอร์ดัมค่ะ ขณะนั่งรอเพื่อนอยู่ที่ม้านั่งก็มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาทักค่ะ แค่มองแวบแรกเธอก็รู้เลยว่าเขานอนข้างถนนแน่ๆ เพราะเนื้อตัวเปรอะเปื้อน เสื้อผ้าสกปรก ผมและหนวดเคราก็ยาวรุงรังและมีเศษอะไรติดเยอะแยะ แต่เธอสังเกตเห็นว่าตาสีน้ำตาลของเขาดูสดใสและมีอะไรมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก


Photo Credit: www.youtube.com

     "ขอโทษนะครับคุณ ไม่ทราบว่าตอนนี้กี่โมงครับ" นี่คือประโยคแรกที่ชายคนนี้พูดกับเธอค่ะ เธอเงยหน้าขึ้นแล้วก็เห็นว่าทั้งคู่อยู่หน้าหอนาฬิกาขนาดใหญ่เลย เธอเลยระเบิดหัวเราะออกมากับมุกจีบสาวของเขา แล้วก็ยอมนั่งคุยกับเขาอีกพักนึงจนกว่าเพื่อนเธอจะมา

     เขาบอกกับเธอว่าเขาชื่อวิค เป็นชาวแคนาดาที่มาแบ็กแพ็คเที่ยวยุโรป แต่ไปๆ มาๆ เงินหมดจนไม่มีเงินกลับบ้านเลย เขารู้สึกว่าตัวเองยังไม่ได้เที่ยวครบอย่างที่ตั้งใจก็เลยกะว่าจะอยู่ต่อแบบไม่มีเงินนี่แหละ แต่สุดท้ายก็ได้แต่ขอทานไปวันๆ ได้เงินมาก็ซื้อเหล้ากิน อาหารก็ไปขโมยชาวบ้านมา ดึกๆ ก็นอนเขาใต้พุ่มไม้

     เมื่อเพื่อนของเอ็มมี่มาถึง เอ็มมี่เลยบอกเขาว่าเธอขอมาพบเขาอีกครั้งได้มั้ย และห้าวันต่อมาเธอก็มาเจอเขาอีกครั้งที่ม้านั่งตัวเดิม คราวนี้เธอเตรียมอาหารมาปิกนิกกับเขาด้วย ทั้งคู่คุยกันถูกคอ แต่สุดท้ายเธอต้องกลับบ้านที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย (ที่เธออยู่ในตอนนั้น) เธอก็เลยบอกลาเขาพร้อมให้เบอร์มือถือของเธอที่ออสเตรียไว้ให้ด้วย ตัวเธอเองคิดว่าคงไม่มีโอกาสได้ติดต่อหรือเจอเขาอีกแล้วแน่นอน


Photo Credit: www.youtube.com

     แต่หลังเอ็มมี่กลับไปแล้ว วิคก็ลุกมาปฏิวัติตัวเองใหม่ค่ะ เขาเลิกเหล้า เลิกขโมยของ เงินที่ขอทานได้ก็เก็บสะสมไว้จนได้อาบน้ำ ตัดผมตัดเครา ได้เสื้อผ้าสะอาดๆ และมีเงินเก็บพอซื้อตั๋วรถไฟไปเวียนนา สุดท้ายเขาก็ทำสำเร็จค่ะ เขาไปถึงเวียนนาแล้วก็หยอดตู้โทรหาเอ็มมี่ทันที เอ็มมี่ตกใจและดีใจมากๆ จากนั้นทั้งคู่ก็คบหากันจริงจังค่ะ

     เอ็มมี่สนับสนุนให้เขากลับไปเรียนต่อ โดยเขาเลือกเรียนวิศวกรรมเครื่องกล ทั้งคู่แต่งงานกันที่ปราสาทเล็กๆ แห่งหนึ่งในยุโรป โดยที่ปัจจุบันวิคได้งานเป็นวิศวกรแล้ว ส่วนเอ็มมี่ก็เขียนหนังสือเล่าเรื่องความรักที่เหมือนนิยายของตัวเอง ทั้งคู่มีลูกแฝดอายุ 6 ขวบด้วยกัน และตอนนี้ก็ยังรักกันมากเช่นเดิมค่ะ


คู่แท้ยังไงก็ไม่แคล้วกัน


     จะเป็นเรื่องดีแค่ไหนถ้าบังเอิญได้เจอรักแรกสมัยเด็กอีกครั้งตอนโต แถมคราวนี้ได้สานต่อกันจนอยู่เคียงข้างกันไปทั้งชีวิต

     ไมค์กับเคย์เจอกันตอนเข้าค้ายผู้นำเยาวชนของรัฐในปี 1961 ค่ะ ตอนนั้นทั้งคู่อายุ 13 ปี เจอกันในค่ายเยาวชนประจำรัฐ ที่เปิดรับนักเรียนเกรด 7-8 จากทั่วรัฐมาฝึกความเป็นผู้นำพร้อมทั้งได้ช่วยงานเอกสารในสภานิติบัญญัติประจำรัฐ ค่ายนี้กินเวลา 6 สัปดาห์ นักเรียนจะได้ค่าจ้างคนละ 42 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ (ถือว่าเยอะมากในยุคนั้น) และเพราะว่ามีเรื่องค่าจ้าง เด็กๆ เลยถูกเกณฑ์ไปทำบัตรประกันสังคมด้วยค่ะ ที่อเมริกาจะเกิดมาไม่มีเลขประจำตัวประชาชน แต่ต้องไปทำบัตร Social Security แล้วก็จะได้เลขบัตรนี้มาเป็นเลขประจำของแต่ละคน (ยุคนั้นคนส่วนมากจะไปทำบัตรก็ต่อเมื่อมีงาน แต่ยุคนี้พ่อแม่มักพาลูกไปทำตั้งแต่เล็กๆ เลย)


ภาพเพื่อประกอบบทความ ไม่ใช่ภาพของคู่นี้จริงๆ

     ทีนี้กิจกรรมวันนึงของค่ายคือการอนุญาตให้เด็กๆ ไปชมภาพยนตร์เรื่อง Gone With The Wind ได้ค่ะ ทุกคนจะได้ตั๋วหนังคนละใบ ไมค์รวบรวมความกล้าเดินไปชวนเคย์ สาวน้อยที่เขาแอบมองมานาน แต่เคย์ตอบปฏิเสธไปเพราะเธอนัดจะไปดูกับกลุ่มเพื่อนผู้หญิงในค่ายแล้ว เคย์จึงเป็นผู้หญิงคนแรกที่ไมค์ชวน และเป็นผู้หญิงคนแรกที่ปฏิเสธเขาเช่นกัน หลังจบค่ายต่างคนก็ต่างแยกย้ายกลับไปเรียนโรงเรียนตัวเอง ไม่ได้เจอกันอีก ตอนนั้นไม่มีเครื่องมือสื่อสารด้วย

     ตัดภาพมาที่ปลายปี 1965 ค่ะ ตอนนี้ทั้งคู่เป็นนักศึกษาปี 1 ในมหาวิทยาลัยนอร์ธแคโรไลน่าแล้ว ไมค์เรียนอยู่วิทยาเขต Chapel Hill ในขณะที่เคย์เรียนที่วิทยาเขต Greensboro ค่ะ ที่มหาวิทยาลัยมีบริการจับคู่ระหว่างนักศึกษาในมหาวิทยาลัยให้ เพียงกรอกข้อมูลส่วนตัว สิ่งที่ชอบ สิ่งที่ไม่ชอบ รวมถึงสเป็คคนที่ชอบ แล้วก็จ่ายเงินค่าบริการ 3.50 ดอลลาร์ ทั้งไมค์และเคย์ต่างก็ใช้บริการนี้

     ในที่สุดเคย์และรูมเมตของเธอต่างก็ได้รับชื่อไมค์มาในฐานะคนที่เหมาะสม ส่วนไมค์ก็ได้รับชื่อเคย์เช่นกัน ทันทีที่เขาเห็นชื่อเธอเขาก็จำได้เลยว่าเธอคือเด็กสาวเมื่อตอนนั้น เขารีบติดต่อหาเธอและแนะนำตัวพักนึงจนกว่าเธอจะนึกออกว่าเคยเจอเขามาก่อนในค่ายสมัยเด็ก


ภาพเพื่อประกอบบทความ ไม่ใช่ภาพของคู่นี้จริงๆ

     จากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มคุยกัน เขียนจดหมายหากัน แล้วก็แต่งงานกันในที่สุด ทั้งคู่แต่งงานกันมาสี่สิบกว่าปีแล้ว แต่ความรักก็ไม่จืดจางไปจากเมื่อสมัยหนุ่มสาวเลย

     แต่ก็มีเรื่องตลกอยู่เหมือนกันค่ะ เพราะพอทั้งคู่แต่งงานกันแล้วจะไปทำธุรกรรมอะไรร่วมกัน เจ้าหน้าที่ก็จะสงสัยว่าทั้งคู่ทำบัตรปลอม สวมรอยบุคคล เป็นผู้อพยพ หรือว่าเป็นสายลับค่ะ เพราะเลขประกันสังคมของทั้งคู่เป็นเลขต่อกันพอดี ทั้งคู่เลยต้องนั่งเล่าเรื่องราวที่เจอกันตั้งแต่ค่ายเยาวชนสมัยอายุ 13 เสมอ เจ้าหน้าที่ฟังแล้วก็มักจะตกใจที่ทั้งคู่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้งตอนโต

     ทั้งคู่มักจะบอกว่าที่ลงทุนกันคนละ 3.50 ดอลลาร์ตอนนั้นเป็นการลงทุนที่คุ้มที่สุดในชีวิต เพราะได้สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตที่ดียิ่งกว่ากำไรไหนๆ มา


     แต่ละเรื่องก็มีเสน่ห์ในแบบของตัวเองนะคะ ว่าแต่น้องๆ มีเรื่องราวความรักของคนใกล้ตัวมาแบ่งปันให้เพื่อนฟังกันมั้ยคะ มาแชร์กันได้ในคอมเมนต์ด้านล่างเลยนะ พี่และทุกคนรออ่านอยู่ค่ะ
พี่พิซซ่า
พี่พิซซ่า - Columnist คอลัมนิสต์ฝ่ายเรียนต่อนอก

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด

3 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด