สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ดูหนังสือภาษาอังกฤษเตรียมสอบไปแล้วคราวก่อน คราวนี้มาดูหนังสือภาษาอังกฤษสำหรับใช้พูดจริงในชีวิตประจำวัน ที่รับรองว่าใช้แล้วจะดูเป็นธรรมชาติและคล้ายเจ้าของภาษามากขึ้นด้วยค่ะ

Global Review คือหมวดรีวิวสินค้า-บริการของต่างประเทศ หรือสถานที่ท่องเที่ยวในต่างประเทศ 
โดยผู้เขียนมีประสบการณ์การทดลองใช้หรือเดินทางไปด้วยตนเอง
 

ชื่อหนังสือ: I SPEAK ENGLISH พูดอังกฤษเป๊ะปัง! ฝรั่งกด LIKE
ผู้เขียน: ครูเอมมี่ (อ.ฐิศิรักน์ วิชัยศร)
สำนักพิมพ์: ซีเอ็ดยูเคชั่น
ปีที่พิมพ์: 2560
ราคา: 178 บาท
ลักษณะกระดาษ: กระดาษถนอมสายตา พิมพ์โทนสีเหลืองส้มทั้งเล่ม

     ในเล่มนี้ประกอบไปด้วยสำนวนและวลีที่ใช้ในชีวิตประจำวันจำนวน 101 สำนวนค่ะ บอกเลยว่าทุกสำนวนใช้แล้วดูเป็นธรรมชาติราวกับเจ้าของภาษาจริงๆ แบบที่หาในหนังสือเรียนทั่วไปไม่ได้ แถมไม่ได้มีแค่สำนวนกับคำแปลเท่านั้นนะคะ แต่ยังมีเกร็ดความรู้ให้กับทุกสำนวนเลยด้วย ใครชอบเรียนภาษาอังกฤษแบบเจอบ่อยๆ ค่อยๆ ชิน แล้วก็ไม่ชอบการท่องจำเยอะๆ ยาวๆ ต้องชอบเล่มนี้มากแน่นอน

     เปิดมาส่วนแรกที่จะเจอเลยก็คือประวัติของผู้เขียน และ 10 คำถามกับครูเอมมี่ผู้เขียนค่ะ ซึ่งหลายๆ เล่มที่เคยเจอส่วนนี้จะค่อนข้างเป็นน้ำไม่ค่อยมีเนื้อ หรือไม่ก็จะไม่รู้สึกว่ามีประโยชน์อะไรกับผู้อ่าน แต่เล่มนี้ทำได้ค่อนข้างดีมากเลยค่ะ หลายๆ คำตอบของผู้เขียนช่วยสร้างกำลังใจให้คนที่อยากเก่งภาษาอังกฤษได้ดี แถมยังแชร์ประสบการณ์ให้เห็นภาพชัดขึ้นด้วย โอเคเลย

     จากนั้นก็เข้าสู่ 101 สำนวนภาษาอังกฤษค่ะ แต่ละสำนวนจะได้ไป 1 หน้าคู่เต็มๆ ด้านซ้ายบนจะเป็นคำแปลก่อนค่ะ ทั้งคำแปลของตัวสำนวนนั้น แล้วก็คำแปลของแต่ละคำเมื่อจับมันถอดแยกออกมา ส่วนบริเวณซ้ายล่างก็จะเป็นที่มาหรือสถานการณ์ที่เหมาะนำไปใช้ค่ะ ซึ่งตรงนี้สำคัญและมีประโยชน์มากๆ เลย ที่มาจะช่วยให้จำความหมายได้ง่ายขึ้นโดยที่ไม่ต้องท่องจำ และการอธิบายสถานการณ์ที่เหมาะจะใช้ก็ช่วยให้เข้าใจน้ำเสียงหรือโทนของสำนวนนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี

     ส่วนหน้าทางด้านขวาบนจะเป็นตัวอย่างการนำไปใช้ในประโยคค่ะ แถมมีมาหลายประโยคเลยด้วย ทำให้เห็นภาพการนำไปพูดจริงได้ชัดเจนมากขึ้น ส่วนด้านขวาล่างจะเป็นเกร็ดความรู้เกี่ยวกับตัวสำนวนหรือศัพท์ในสำนวนนั้นค่ะ เช่นการนำศัพท์บางตัวไปใช้ หลักแกรมมาร์ที่ได้จากสำนวนนี้ หรือแม้แต่ศัพท์ที่มีความหมายใกล้เคียงกัน

     น้ำเสียงที่ผู้เขียนใช้อธิบายก็เป็นภาษากึ่งทางการค่ะ อ่านแล้วรู้สึกเหมือนผู้เขียนมาพูดให้ฟังจริงๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นภาษาพูดที่พูดตีสนิทมากเกินไป เรียกได้ว่ากำลังดีเลยแหละ

     ขออนุญาตยกตัวอย่างการอธิบายสถานการณ์ใช้สำนวนนึงที่ชอบมากเป็นพิเศษให้ดูนะคะ นั่นคือสำนวน Get a life. ค่ะ สำนวนนี้สอนโดยการพูดหรือเปิดให้ฟังเอาจากภาพยนตร์จะเข้าใจได้ง่ายมากเลย แต่ถ้าต้องเขียนให้อ่าน จะต้องมีทักษะในการเขียนอธิบายที่ดี เพราะสำนวนนี้ใช้ได้หลายน้ำเสียง แล้วความหมายก็ออกมาต่างกันสุดๆ เลยด้วย ซึ่งเล่มนี้ทำได้ดีมากในการยกตัวอย่างสถานการณ์มาให้เห็นภาพค่ะ

     ส่วนเกร็ดความรู้ในหน้าขวามือ พี่ชอบหลายอันมากเลยค่ะ แต่ขอยกตัวอย่างมาให้เห็นชัดๆ สำนวนนึงละกัน นั่นคือ let someone down ค่ะ หลังจากแปลความหมาย บอกสถานการณ์การใช้ และยกตัวอย่างประโยคไปเยอะแล้ว ส่วนของเกร็ดความรู้ที่หน้าขวาด้านล่างมีการอธิบายเพิ่มไปถึง let's ด้วยค่ะ เพราะหลายคนยังไม่ทราบความต่างของ let กับ let's และใช้สลับไปมาอยู่ เมื่อเอามาเทียบกันให้เห็นชัดๆ แบบนี้ก็ทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น แถมเป็นเกร็ดความรู้เสริมที่ดีมากๆ ด้วยค่ะ

     เล่มนี้ระบุเอาไว้ว่าเหมาะกับวัยมัธยมจนถึงผู้ใหญ่ ซึ่งก็คือบุคคลทั่วไปนั่นเอง ก็ถือว่าเนื้อหาเหมาะสมกับผู้อ่านพอดีเลย มีบางสำนวนที่ใช้ในการด่าและเกือบจะหยาบคาย ฉะนั้นก็ไม่เหมาะกับวัยต่ำกว่ามัธยมนะคะ

     สำหรับขนาดและรูปเล่ม ถือว่าโอเคเลยค่ะ เล่มขนาดพ็อกเก็ตบุ๊กทั่วไป จำนวน 224 หน้า ไม่หนักและไม่หนา พกพาติดตัวไปอ่านเวลานั่งรถหรือตามร้านกาแฟได้ง่ายค่ะ กราฟิกภายในเล่มก็แบ่งโซนเนื้อหาได้เป็นระเบียบและอ่านง่าย แต่ยังคงความน่ารักน่าอ่านไว้ด้วยค่ะ

     สำหรับส่วนที่ต้องหักคะแนน น่าจะเป็นเรื่องของปกนอกค่ะ สารภาพเลยว่าตอนแรกที่เห็นปก พี่คิดว่าเป็นหนังสือสอนเรื่องการออกเสียงภาษาอังกฤษให้สำเนียงเป๊ะค่ะ 55555 เพราะไม่มีตรงไหนสื่อเลยว่าเป็นหนังสือสอนสำนวน ปกหลังที่มีสำนวนมาให้ 2 สำนวนก็คิดว่าเป็นตัวอย่างประโยคที่จะสอนออกเสียงเฉยๆ พอเปิดอ่านแล้วก็เงิบเบาๆ ว่านี่หยิบถูกเล่มมารึเปล่า แต่อ่านแล้วก็ไม่ผิดหวังนะคะ แค่ไม่เหมือนที่เดาจากปกเฉยๆ

     ทีนี้มาดูคะแนนกันค่ะ

     สรุปก็คือเล่มนี้เป็นหนังสือสอนการใช้ภาษาอังกฤษที่เขียนโดยคนไทย ที่พี่อ่านแล้วรู้สึกประทับใจมาก อยากแนะนำต่อมากๆๆๆ เลยค่ะ (ไม่รู้สึกเสียดายเงินเลยจริงๆ 5555) ถ้าใครอ่านแล้วชอบการเขียนของครูเอมมี่ สามารถติดตามผลงานเพิ่มเติมได้ที่แฟนเพจ I Speak English เลยนะคะ