สวัสดีค่ะ น้องๆ ชาวเด็กดีทุกคน ถ้าใครเล่นทวิตเตอร์ช่วงนี้อาจจะได้เห็นแท็กยอดฮิตของต่างประเทศที่เกี่ยวกับซีรี่ส์เรื่องหนึ่งชื่อ "13 Reasons Why" ซึ่งเป็นซีรี่ส์ที่มีเซเลน่า โกเมซ เป็นหนึ่งในโปรดิวเซอร์ และฉายอยู่ใน Netflix ค่ะ
ซีรี่ส์นี้ดัดแปลงมาจากนวนิยายแนว Young Adult ของ เจย์ แอเชอร์ ซึ่งสำนักพิมพ์ Classact เอามาแปลแล้ว ใช้ชื่อ "สิบสามบันทึกลับหัวใจสลาย"
ซีรี่ส์นี้ดัดแปลงมาจากนวนิยายแนว Young Adult ของ เจย์ แอเชอร์ ซึ่งสำนักพิมพ์ Classact เอามาแปลแล้ว ใช้ชื่อ "สิบสามบันทึกลับหัวใจสลาย"
เนื้อเรื่องจะเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายของวัยรุ่นคนหนึ่ง โดยสิ่งที่เธอทิ้งไว้คือเทปที่เฉลยเหตุผล 13 ข้ออันนำไปสู่การตัดสินใจจบชีวิตของเธอ
แต่พี่น้องมีเหตุผลเดียวว่าทำไมทุกคนถึงต้องดู (หรืออ่าน) เรื่องนี้ค่ะ
(บทความนี้จะไม่สปอยล์เนื้อหาที่อาจทำให้เสียอรรถรสสำหรับคนที่ยังไม่ได้ดูหรือยังดูไม่จบ)
(บทความนี้จะไม่สปอยล์เนื้อหาที่อาจทำให้เสียอรรถรสสำหรับคนที่ยังไม่ได้ดูหรือยังดูไม่จบ)
เรื่องมันเริ่มที่การฆ่าตัวตายของวัยรุ่นคนหนึ่ง
แฮนนา เบเกอร์ เป็นนักเรียนมัธยมที่เพิ่งย้ายโรงเรียนมา ทำให้เธอยังไม่มีเพื่อนสนิท และกว่าที่ทุกคนจะรู้ตัว เธอก็ตัดสินใจฆ่าตัวตายในบ้านเสียแล้ว สิ่งที่เธอทิ้งไว้ไม่ใช่จดหมายลาตาย แต่เป็นกล่องใส่เทป 7 ตลับ โดยเทปแต่ละด้านมีบันทึกเสียงของเธอ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เธอย้ายมาโรงเรียนนี้จนถึงวินาทีที่เธอตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง
ทั้งหมด 13 เหตุผล เกี่ยวข้องกับคน 13 คนในโรงเรียนของเธอ
เรื่องโฟกัสที่พระเอก เคลย์ เจนเซ่น ซึ่งเป็นคนที่ได้รับเทปชุดนี้หลังการฆ่าตัวตายของแฮนนา ในเทปนั้น แฮนนาบอกว่ากฎมีแค่ 2 ข้อ คือ ฟังให้จบ และส่งต่อให้คนถัดไป
เมื่อมี 13 เหตุผล ซีรี่ส์นี้ก็เลยแบ่งเป็น 13 ตอน โดยแต่ละตอน เราและพระเอกจะได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากมุมมองของแฮนนา เบเกอร์
เรื่องโฟกัสที่พระเอก เคลย์ เจนเซ่น ซึ่งเป็นคนที่ได้รับเทปชุดนี้หลังการฆ่าตัวตายของแฮนนา ในเทปนั้น แฮนนาบอกว่ากฎมีแค่ 2 ข้อ คือ ฟังให้จบ และส่งต่อให้คนถัดไป
เมื่อมี 13 เหตุผล ซีรี่ส์นี้ก็เลยแบ่งเป็น 13 ตอน โดยแต่ละตอน เราและพระเอกจะได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากมุมมองของแฮนนา เบเกอร์
ทำไมเธอถึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย?
ใครกันแน่ที่เป็นต้นเหตุให้เกิดเรื่องทั้งหมดนี้?
อาจจะเป็นทุกคนที่อยู่ในเทปนั้น หรืออาจจะเป็นแค่คนใดคนหนึ่ง?
หรืออาจจะเป็นตัวพระเอกเอง?
ใครกันแน่ที่เป็นต้นเหตุให้เกิดเรื่องทั้งหมดนี้?
อาจจะเป็นทุกคนที่อยู่ในเทปนั้น หรืออาจจะเป็นแค่คนใดคนหนึ่ง?
หรืออาจจะเป็นตัวพระเอกเอง?
สะท้อนภาพสังคมวัยรุ่นอเมริกันยุคปัจจุบัน
แน่นอนว่าซีรี่ส์ชุดนี้ (หรือนิยายเรื่องนี้) กำลังแสดงภาพสังคมวัยรุ่นอเมริกันในแบบที่หนังหรือนิยายเรื่องไหนก็ทำเหมือนกัน คือ
- โรงเรียนมีการแบ่งชนชั้น เด็กป๊อบไม่ใช่เด็กที่เรียนเก่ง แต่เป็นนักกีฬาของโรงเรียน
- สำหรับเด็กป๊อบฝั่งผู้หญิงก็คือ เชียร์ลีดเดอร์ ซึ่งสุดท้ายก็ต้องคบกับนักกีฬาของโรงเรียน
- ส่วนพวกที่ไม่ป๊อบก็คือเด็กเนิร์ด หรือพวกที่เรียนเก่งมาก เก็บตัวอยู่คนเดียว ไม่ชอบเข้าสังคม
- แน่นอนว่าด้วยความที่เด็กป๊อบพวกมาก ก็อาจจะทำให้ฮึกเหิม จนลามไปสู่การล้อเลียน หรือกลั่นแกล้งเด็กกลุ่มอื่นที่ไม่ได้เป็นที่รู้จัก บ้านไม่ได้รวย อะไรแบบนี้
สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปในซีรี่ส์นี้อาจจะเป็นเรื่องสีผิว เชื้อชาติ ที่ไม่ได้จำกัดว่าเด็กป๊อบของโรงเรียนต้องเป็นเด็กผิวขาว ผมบลอนด์อย่างเดียวแล้ว ใน 13 Reasons Why เราจะพบว่ามีนักเรียนป๊อบที่เป็นลูกครึ่งเอเชียผสม หรือคนลาตินอเมริการวมอยู่ด้วย
แต่เอ...ถ้ามันสะท้อนภาพสังคมวัยรุ่นที่มีการแบ่งชนชั้น มีการกลั่นแกล้งกันเหมือนอย่างที่หนังเรื่องไหนๆ ก็ทำกัน แล้วเราจะดูเรื่องนี้ไปเพื่ออะไร?
ความดีงามของมันอยู่ที่หัวข้อต่อไปค่ะ
ความดีงามของมันอยู่ที่หัวข้อต่อไปค่ะ
เสนอปัญหาวัยรุ่นแบบครบวงจร
ถ้าจะให้เปรียบเทียบ 13 Reasons Why เป็นสินค้า ก็คงต้องบอกว่าเป็นสินค้าแบบ All-In-One ดูให้ครบจะเห็นปัญหาเรื่องการกลั่นแกล้งนี้แบบครบทุกด้านเลยทีเดียว
เพราะการแกล้งกันมันไม่ได้เป็นแค่เรื่องระหว่างคนแกล้งกับคนถูกแกล้ง แต่มีหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ตั้งแต่คนถูกแกล้ง คนแกล้ง ครูอาจารย์ที่เพิกเฉยต่อปัญหา ผู้ปกครองของเด็กทั้งสองฝ่ายที่สร้างปมบางอย่างให้ลูกตัวเองโดยไม่รู้ตัว
หรือแม้แต่คนที่ยืนดูอยู่ห่างๆ และไม่เข้าไปช่วย
ทุกอย่างเกี่ยวพันกันหมด
เพราะการแกล้งกันมันไม่ได้เป็นแค่เรื่องระหว่างคนแกล้งกับคนถูกแกล้ง แต่มีหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ตั้งแต่คนถูกแกล้ง คนแกล้ง ครูอาจารย์ที่เพิกเฉยต่อปัญหา ผู้ปกครองของเด็กทั้งสองฝ่ายที่สร้างปมบางอย่างให้ลูกตัวเองโดยไม่รู้ตัว
หรือแม้แต่คนที่ยืนดูอยู่ห่างๆ และไม่เข้าไปช่วย
ทุกอย่างเกี่ยวพันกันหมด
ที่ทุกคนควรดูเรื่องนี้เพราะ ครั้งหนึ่งในชีวิตเราอาจเกี่ยวข้องกับวงจรอุบาทว์นี้โดยไม่รู้ตัว เราอาจเป็นคนที่เคยแกล้งคนอื่น เราอาจเคยเป็นคนที่ถูกแกล้ง หรือแม้แต่เป็นแค่คนที่ยืนมองห่างๆ แล้วเลือกที่จะไม่ทำอะไร
วันหนึ่งเมื่อเราโตขึ้นเราอาจจะกลายเป็นพ่อแม่ที่เพิกเฉยต่อความรู้สึกของลูก ทึกทักไปเองว่าลูกเราเป็นเด็กดีต่อเพื่อนๆ หรือมโนไปเองว่าลูกเราเข้ากับเพื่อนได้ดี ไม่เคยโดนแกล้ง ไม่เคยจับเข่าคุยกันตรงๆ
วันหนึ่งเมื่อเราโตขึ้นเราอาจจะกลายเป็นพ่อแม่ที่เพิกเฉยต่อความรู้สึกของลูก ทึกทักไปเองว่าลูกเราเป็นเด็กดีต่อเพื่อนๆ หรือมโนไปเองว่าลูกเราเข้ากับเพื่อนได้ดี ไม่เคยโดนแกล้ง ไม่เคยจับเข่าคุยกันตรงๆ
หรือเราอาจกลายเป็นคุณครูที่ต้องมาเห็นปัญหานี้แต่กลับไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างเด็ดขาด เพราะเด็กที่เป็นหัวโจกในการกลั่นแกล้งอาจจะเป็นลูกของผู้มีอิทธิพล หรือแม้แต่เป็นคุณครูที่ไม่เคยสังเกตความผิดปกติในห้องเรียนจนรู้ตัวอีกทีก็มีนักเรียนในความดูแลฆ่าตัวตายไปแล้ว
ด้วยความซับซ้อนทำให้แฮนนา เบเกอร์ต้องชี้แจงเป็นเหตุผลถึง 13 ข้อนั่นเอง
ด้วยความซับซ้อนทำให้แฮนนา เบเกอร์ต้องชี้แจงเป็นเหตุผลถึง 13 ข้อนั่นเอง
คำเตือน: อย่าตัดสินใครจนกว่าจะรู้เรื่องทั้งหมดในชีวิตคนๆ นั้น
ในขณะที่ดูซีรี่ส์นี้ พี่น้องเชื่อว่าทุกคนเป็นเหมือนกัน นั่นคือจะเริ่มตัดสินตัวละครโดยดูจากภาพที่เห็น และจากความเชื่อที่เราเคยรับรู้มา
ผู้ชายคนนี้เลวจริงๆ
ผู้หญิงคนนี้ทำไมสตรอเบอร์แหลได้ขนาดนั้น
อาจารย์ทำไมไม่แคร์เด็กเลยอ่ะ
นางเอกจะดราม่าไปไหน ลำไยอะไรเบอร์นี้
การตัดสินคนอื่นโดยใช้ข้อมูลที่เรารับรู้เพียงบางส่วนเป็นเรื่องที่เราทำกันจนเป็นปกติ
แต่เรื่องนี้กำลังสอนเรากลับว่า อย่าตัดสินตัวละครในเรื่อง เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าเขาทำแบบนี้เพราะอะไร เหมือนที่หลายคนชอบตัดสินคนฆ่าตัวตายว่าอ่อนแอ ไม่รักพ่อแม่ ฯลฯ บางทีถ้าเราได้ฟังเรื่องราวของเขาทั้งหมด เราอาจจะคิดว่ามันก็ควรจะเป็นแบบนั้นก็ได้
เพราะงั้น ขณะดู 13 Reasons Why อย่าเพิ่งตัดสินใจจนกว่าจะได้ฟังเทปท้ายๆ แล้วกัน
ผู้ชายคนนี้เลวจริงๆ
ผู้หญิงคนนี้ทำไมสตรอเบอร์แหลได้ขนาดนั้น
อาจารย์ทำไมไม่แคร์เด็กเลยอ่ะ
นางเอกจะดราม่าไปไหน ลำไยอะไรเบอร์นี้
การตัดสินคนอื่นโดยใช้ข้อมูลที่เรารับรู้เพียงบางส่วนเป็นเรื่องที่เราทำกันจนเป็นปกติ
แต่เรื่องนี้กำลังสอนเรากลับว่า อย่าตัดสินตัวละครในเรื่อง เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าเขาทำแบบนี้เพราะอะไร เหมือนที่หลายคนชอบตัดสินคนฆ่าตัวตายว่าอ่อนแอ ไม่รักพ่อแม่ ฯลฯ บางทีถ้าเราได้ฟังเรื่องราวของเขาทั้งหมด เราอาจจะคิดว่ามันก็ควรจะเป็นแบบนั้นก็ได้
เพราะงั้น ขณะดู 13 Reasons Why อย่าเพิ่งตัดสินใจจนกว่าจะได้ฟังเทปท้ายๆ แล้วกัน
ถ้าใครที่กำลังกังวลว่าดูแล้วจะเครียด ดูแล้วหดหู่ ไม่ชอบดูอะไรสะท้อนสังคม เพราะรู้สึกว่าที่เราเจอทุกวันนี้ก็แย่อยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ไม่หดหู่อย่างที่คิดค่ะ (ไม่เท่า Game of Thrones แน่นอน) เพราะสิ่งที่แย่ที่สุดที่จะเกิดขึ้นได้ในเรื่องนี้มันเกิดไปแล้ว แต่เรากำลังจะมาดูว่า "เพราะอะไรมันถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น?" และ "คนที่อยู่ในเทปนั้นจะเจออะไรต่อไป?"
ขอให้กังวลว่าดูแล้วจะติดดีกว่าเนอะ (นี่ดูจบ 13 ตอนใน 2 คืน)
ขอให้กังวลว่าดูแล้วจะติดดีกว่าเนอะ (นี่ดูจบ 13 ตอนใน 2 คืน)
สุดท้ายนี้ ที่พี่ดันซีรี่ส์ 13 Reasons Why สุดตัวเพราะว่าปัจจุบันประเทศเรามีสถิติการฆ๋าตัวตายสูงไม่แพ้ประเทศญี่ปุ่นหรือเกาหลีเลยนะ (เราอาจจะตายด้วยอุบัติเหตุกันมากกว่า ก็เลยไม่ซิเรียสเท่าไร) และพี่ก็เชื่อว่าหลายคนในนี้เคยประสบปัญหาแบบตัวละครในเรื่อง หรือแม้แต่กำลังประสบปัญหาอยู่
น้องอาจจะเคยพยายามฆ่าตัวตาย หรือมีเพื่อนที่ฆ่าตัวตายไปแล้วด้วยซ้ำ
ถ้าเราได้ดูซีรี่ส์นี้เราจะเข้าใจปัญหาการกลั่นแกล้งมากขึ้น ไม่ว่าเราจะเป็นคนที่กระทำเองหรือเป็นคนที่ถูกกระทำ พี่อยากให้ทุกคนรับมือกับสถานการณ์นี้ได้ และมองเหตุการณ์นี้ในหลายๆ มุมมากขึ้น
น้องอาจจะเคยพยายามฆ่าตัวตาย หรือมีเพื่อนที่ฆ่าตัวตายไปแล้วด้วยซ้ำ
ถ้าเราได้ดูซีรี่ส์นี้เราจะเข้าใจปัญหาการกลั่นแกล้งมากขึ้น ไม่ว่าเราจะเป็นคนที่กระทำเองหรือเป็นคนที่ถูกกระทำ พี่อยากให้ทุกคนรับมือกับสถานการณ์นี้ได้ และมองเหตุการณ์นี้ในหลายๆ มุมมากขึ้น
หากใครกำลังประสบปัญหานี้อยู่ ก็ขอให้เล่าออกมาเถอะค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าคนอื่นจะมองเรายังไง ถ้าไม่กล้าคุยกับคนใกล้ตัว มาตั้งกระทู้ในบอร์ดเด็กดีก็ได้ ที่นี่เราจะได้เจอเพื่อนๆ คอยเป็นกำลังใจให้ มีคนแบ่งปันประสบการณ์เดียวกัน และมีคนช่วยหาทางออกให้
หรือถ้ายังไม่อยากเล่า ก็ดูซีรี่ส์แก้เครียดไปพลางๆ และถ้าจะให้ดีก็เผื่อแผ่ซีรี่ส์นี้ให้คนที่สร้างปัญหาแก่เราได้ดูด้วย
โอเคนะ :)
ปล. สำหรับคนที่กำลังลังเลว่าจะอ่านนิยายหรือดูซีรี่ส์ดี แนะนำให้อ่านนิยายก่อน แล้วค่อยดูซีรี่ส์ นาจา = v=
หรือถ้ายังไม่อยากเล่า ก็ดูซีรี่ส์แก้เครียดไปพลางๆ และถ้าจะให้ดีก็เผื่อแผ่ซีรี่ส์นี้ให้คนที่สร้างปัญหาแก่เราได้ดูด้วย
โอเคนะ :)
ปล. สำหรับคนที่กำลังลังเลว่าจะอ่านนิยายหรือดูซีรี่ส์ดี แนะนำให้อ่านนิยายก่อน แล้วค่อยดูซีรี่ส์ นาจา = v=
ภาพประกอบจาก
Netflix
Penguin Books
Classact Publishing
Netflix
Penguin Books
Classact Publishing
งดสปอยล์เนื้อหาในคอมเมนต์ข้างล่าง
เพื่อให้เพื่อนๆ ที่ยังไม่ได้ดูได้ "ตะลึง" ด้วยตัวเอง
ถ้าจะสปอยล์ให้คลุมดำแทนนะคะ
เพื่อให้เพื่อนๆ ที่ยังไม่ได้ดูได้ "ตะลึง" ด้วยตัวเอง
ถ้าจะสปอยล์ให้คลุมดำแทนนะคะ
12 ความคิดเห็น
อยากให้ทุกคนดูแล้วได้สะท้อนตัวเอง ได้สะเก็ดความคิดอะไรสักอย่างกลับไปด้วยค่ะ
อย่าสักแต่ดูสนุก ดูเอามันนะคะ เราอยากดูให้จบแต่ด้วยสภาพจิตใจดูได้ถึงแค่ ep.5 เอง วันละตอนยังไม่ถึงเลย
ป.ล. เชื่อว่ามันไม่ได้สะท้อนแค่สังคมอเมริกา สังคมไทยเราก็เป็นแบบนั้น แต่ดันมองว่าเหยื่ออ่อนแอ (คือไรว้าาา??)
ลองดูหน่อยก็แล้วกัน
ใครชอบเรื่องนี้มาเมาท์มอย และติดต่ามข่าวอัพเดทเกี่ยวกับซีรี่ย์เรื่องนี้ ได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจ https://www.facebook.com/13ReasonsWhyTH/ นะคะ
ดูทางไหนได้บ้างเอ่ย
ดูทาง NETFLIX ครับ ตอนนี้สมัครสมาชิกครั้งแรก ดูฟรี 1 เดือน
ดูทาง NETFLIX ครับ ตอนนี้สมัครสมาชิกครั้งแรก ดูฟรี 1 เดือนเลย
แนะนำมากครับพึ่งดูจบมาหมาดๆ เป็นซีรี่ย์ที่ดีมากๆ
เราว่าคนไทยเรายังไม่มีความตระหนักในเรื่องสุขภาพจิตมากพอนะ แต่ต้องยอมรับว่าเรื่องสุขภาพทางกายภาพยังดูแลได้ไม่ค่อยทั่วถึงเลย แต่ไม่เป็นไร ค่อยๆไป เดี๋ยวก็คงดี
เดี๋ยวมาดู ^^
น่าดูจังเลยคะ มีลิงค์เรื่องนี้แบบซับไทยมั้ยคะ
เดี๋ยวจะลองดู คืออ่านแต่นิยาย
น่าสนนนนะ
ดูจบในสองคืนเหมือนกันค่ะ ดูแล้วก็เข้าใจแล้วมันอัดอั้นยังไงไม่รู้ อยากร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ออก