ศพในเสื่อ "เคนดริก จอห์นสัน" คดีที่ยืดเยื้อเพราะอคติในใจ

        เราทุกคนพอจะเดาออกใช่มั้ยคะว่าเวลาไขคดีอะไรสักอย่าง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ "หลักฐาน" ทั้งจากคนที่อยู่ในเหตุการณ์ คนที่เกี่ยวข้องกับคดี และสภาพแวดล้อมในที่เกิดเหตุ
        คดีที่
พี่น้องจะพูดถึงนี้เป็นคดีที่เกิดขึ้นปี 2013 ในรัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา และเป็นที่กล่าวขวัญถึงกันมาก โดยเฉพาะในเว็บบอร์ดชื่อดังของต่างประเทศอย่าง Reddit เป็นการเสียชีวิตของเด็กนักเรียนคนหนึ่งในสภาพประหลาด ฝั่งครอบครัวก็เชื่อว่าเขาถูกฆาตกรรม แต่เจ้าหน้าที่สอบสวนบอกว่าเป็นอุบัติเหตุ
        เอ๊ะ แล้วอะไรคือความจริงกันแน่

 

เสื่อออกกำลังกายในโรงยิมเก่า

        คดีนี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนมัธยมเลาซ์ (Lowndes High Schhol หรือ LHS) ซึ่งมีโรงยิม 2 แห่ง เป็นโรงยิมเก่า และโรงยิมใหม่ ที่โรงยิมเก่านี่แหละค่ะที่เขาใช้เก็บอุปกรณ์กีฬาต่างๆ รวมถึงเสื่อผืนหนาสำหรับปูรองเวลาออกกำลังกายด้วย
        เสื่อพวกนี้จะถูกม้วนและยกตั้งขึ้น วางชิดกันตรงมุมโรงยิม ซึ่งนักเรียนจะชอบใช้เสื่อสีน้ำเงินเป็นที่เก็บของแทนที่จะเช่าล็อกเกอร์ของโรงเรียน รวมถึงเคนดริก จอห์นสัน นักเรียนวัย 17 ปีที่เป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอลของโรงเรียนด้วย เขามักจะเอารองเท้ากีฬามาใส่ไว้ในเสื่อ เพื่อสับเปลี่ยนใช้งานกับเพื่อนอีกคน
        วันพฤหัสที่ 10 มกราคม เวลาบ่ายโมงครึ่ง เคนดริกเข้ามาในโรงยิมเพื่อเปลี่ยนรองเท้าตามปกติ แต่หลังจากนั้นที่มีคลาสเรียนยกน้ำหนัก เขาก็ไม่ได้มาเข้าเรียน และไม่ได้กลับบ้าน จนเที่ยงคืน แม่ของเขา แจ็กกี้ จอห์นสัน จึงตัดสินใจโทรแจ้งตำรวจ
 

ตามหาคนหาย

        เช้าวันต่อมา แจ็กกี้ คุณแม่ของเคนดริก ก็มาโรงเรียนเพื่อแจ้งว่าลูกชายของเธอไม่ได้กลับบ้าน ทางโรงเรียนจึงเร่งทำใบประกาศคนหายแปะทั่วโรงเรียน
        เวลาสิบโมงครึ่งของวันเดียวกัน นักเรียนหญิงที่กำลังนั่งอยู่ตรงม้านั่งยาวของโรงยิมเก่า สังเกตเห็นเสื่อม้วนหนึ่งตรงมุมห้องว่ามีถุงเท้ายื่นออกมา พวกเธอจึงปีนม้านั่งเพื่อดูจากมุมสูงแล้วพบว่ามีคนติดอยู่ในนั้นจริงๆ
        พวกเด็กๆ รีบแจ้งตำรวจและครูให้มาช่วยกันรื้อเสื่อที่บังเสื่อม้วนนั้นออก จับเสื่อนอนกับพื้นแล้วช่วยกันดึงคนที่ติดอยู่ในนั้นออกมา แต่สภาพศพนั้นทำให้พวกเด็กๆ แน่ใจว่าเขาไม่รอดเสียแล้ว
        หลังจากที่เรียกแจ็กกี้ จอห์นสันเข้ามายืนยัน จึงทำให้รู้ว่าศพนี้เป็นศพของเคนดริก จอห์นสัน ลูกชายของเธอนั่นเอง
        คำถามคือเขาเข้าไปอยู่ในนั้นได้อย่างไร? อุบัติเหตุ หรือฆาตกรรม?
 

หลักฐานแวดล้อมและผลชันสูตรศพ

        สำนักงานสอบสวนประจำรัฐจอร์เจียเป็นผู้รับผิดชอบในการชันสูตรศพเคนดริก จอห์นสันเพื่อหาสาเหตุการตาย และสรุปว่าเขาเสียชีวิตจากการห้อยกลับหัวอยู่ในเสื่อเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 21 ชั่วโมง ทำให้เลือดคั่งที่ศีรษะ
        จากที่สอบถามผู้อยู่ในเหตุการณ์ตอนดึงศพออกมา ทุกคนพูดตรงกันว่าในเสื่อนั้นมีรองเท้า 2 คู่ คู่หนึ่งตกอยู่ตรงช่วงขาของเคนดริกขณะอยู่ในเสื่อ ส่วนอีกคู่นั้นตกอยู่ใกล้ตัวเขาตอนที่ดึงเขาออกมา คู่แรกน่าจะเป็นรองเท้าที่เคนดริกใส่ ส่วนอีกคู่ที่อยู่ใกล้ตัวน่าจะเป็นคู่ที่เขาตั้งใจจะมาเปลี่ยน
        นอกจากนี้ยังมีการสำรวจพื้นที่เกิดเหตุรอบๆ ไม่พบคราบเลือดนอกเสื่อ นอกจากคราบเลือดเก่าบริเวณเสาโรงยิม กับทิชชู่เปื้อนเลือดในห้องน้ำหญิง ซึ่งมีนักเรียนหญิงคนหนึ่งให้การว่าเธอถูกดาบไม้กระแทกใบหน้าระหว่างเรียนฟันดาบ จึงเลือดกำเดาไหลและใช้ทิชชู่นั้นเช็ด
        และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในโรงเรียนพบว่า ตอนที่เคนดริกเข้าไปในโรงยิมนั้นไม่ได้มีใครอยู่ในนั้นเลยนอกจากเขา และ 3 นาทีให้หลังจึงมีนักเรียนชายกลุ่มหนึ่งเข้าไปเล่นกีฬาตามปกติ
        เจ้าหน้าที่จึงสรุปว่าเคนดริกเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุขณะปีนเข้าไปหยิบรองเท้าของเขาที่ซ่อนไว้ในเสื่อ
        แต่ครอบครัวจอห์นสันไม่เชื่อเช่นนั้นค่ะ
 

เพื่อนร่วมห้องคือผู้ต้องสงสัย

        ครอบครัวจอห์นสันเชื่อว่าคดีนี้มีบางอย่างผิดปกติ หลังจากวันพบศพ ครอบครัวจอห์นสันจึงติดต่อสาธุคุณฟลอยด์ โรส ประจำเมืองวาลดอสต้า (เมืองที่เกิดคดี) ให้มาช่วยดำเนินการสืบสวนคดีนี้ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่สืบสวนจากองค์กรนานาชาติเพื่อสวัสดิภาพของชาวผิวสี เล ทุชตัน มาลงมือสืบสวนเรื่องนี้อย่างจริงจังด้วย
        ครอบครัวจอห์นสันเชื่อว่าลูกชายของพวกเขาถูกฆาตกรรมโดยเพื่อนร่วมห้องที่ชื่อไบรอัน เบลกับพี่ชายของเขา แบรนเดน (ซึ่งมีพ่อเป็นเจ้าหน้าที่ FBI) โดยไปหาหลักฐานสนับสนุนมาดังนี้
  • ก่อนเกิดเหตุไม่กี่วัน ไบรอันกับเคนดริกมีเรื่องกันมาก่อนบนรถบัสของโรงเรียน เด็กสองคนนี้ทะเลาะกันจริง แต่จากการให้ปากคำของเพื่อนร่วมชั้น สองคนนี้สนิทกันและเป็นเพื่อนกันมาเป็นปี แม้ว่าจะผิวคนละสี แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร และที่ทะเลาะกันก็นานมากแล้ว ทั้งคู่ดีกันหลังจากนั้นแค่วันเดียวด้วยซ้ำ
  • แบรนเดน เบลมีหลักฐานแก้ต่างว่าวันเกิดเหตุเขากำลังเดินทางไปกับทีมนักมวยปล้ำของโรงเรียนที่เมืองมาคอนตั้งแต่เวลาเที่ยงครึ่ง (เคนดริกเข้าโรงยิมตอนบ่าย) แต่ทนายความที่ครอบครัวจอห์นสันจ้างมาค้นพบว่าใบขออนุญาตออกนอกสถานที่นั้นเขียนว่าทั้งทีมจะออกจากโรงเรียนตอนบ่ายสี่โมง ไม่ใช่เที่ยง ใบขออนุญาตนั้นลงเวลา "เริ่มงาน" ไม่ใช่เวลานั่งรถ เพราะตอนขออนุญาต ครูฝึกรู้แค่ว่างานเริ่มกี่โมง แต่ยังไม่ได้นัดกับคนขับรถว่าจะเดินทางกี่โมง แต่ทั้งทีมไปที่งานจริง และคนน้อง ไบรอันก็ไม่อยู่ที่โรงเรียนแต่ไปกับทีมอเมริกันฟุตบอลของโรงเรียนด้วย
  • เคนเนธ จอห์นสัน พ่อของเด็กผู้ตายซึ่งเดินทางมายืนยันศพที่โรงเรียนหลังพบศพ อ้างว่าอุณหภูมิห้องตอนนั้นดูร้อนผิดปกติ เหมือนมีคนพยายามทำให้เวลาการตายเพี้ยนไป เล ทุชตัน เจ้าหน้าที่ขององค์กรนานาชาติเพื่อสวัสดิภาพของชาวผิวสี ได้ยืนยันเองว่าเธอตรวจสอบสภาพสถานที่ชันสูตรศพ และแจ้งว่าสถานที่นั้นต้องรักษาอุณหภูมิให้ไม่สูงเกินไปตามมาตรฐานอยู่แล้ว เธอไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติ
  • ครอบครัวจอห์นสันอ้างว่า ลูกชายของนายอำเภอเมืองนี้ก็มีส่วนรู้เห็นในคดีนี้เช่นกัน นายอำเภอไม่มีลูกชาย หรือหลานชายตามที่ครอบครัวนี้กล่าวอ้าง
  • ครอบครัวจอห์นสันขอร้องให้มีการชันสูตรศพเป็นครั้งที่ 2 โดยนักพยาธิวิทยาวิลเลี่ยม แอนเดอร์สัน หลังพบศพเป็นเวลาเกือบ 6 เดือน แต่เมื่อผ่าชันสูตรศพจึงพบว่าร่างกายของเคนดริกถูกดึงอวัยวะภายในออกแล้วยัดหนังสือพิมพ์ไว้ แน่นอนว่าต้องเป็นอย่างนั้น เพราะตามหลักการทำศพของที่นั่น อวัยวะจะถูกดอง หรือนำออกจากศพก่อนใส่โลง และจะแทนที่ด้วยผ้าหรือหนังสือพิมพ์ แต่ครอบครัวจอห์นสันยืนยันว่าจะฟ้องร้องโบสถ์ที่จัดงานศพให้ เพราะเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ต้องเอาอวัยวะของเคนดริกไปขายแน่นวลลลลล (โอ้ย!)
  • วิลเลี่ยม แอนเดอร์สัน ผู้ชันสูตรศพครั้งที่ 2 ให้การว่านอกเหนือจากผลชันสูตรที่รัฐเคยทำ เขาพบรอยถลอกขนาดไม่เกิน 1 หนึ่งนิ้วบริเวณลำคอของผู้ตาย ครอบครัวจอห์นสันแจ้งกับสื่อว่ามันเป็นรอยถูกกระแทกด้วยของแข็งจนเสียชีวิต นายแพทย์ท่านนี้คือซวยสุดๆ เพราะแจ้งผลไปตามสภาพที่เป็นจริง แต่โดนขยายผลเสียใหญ่โต จนคนเชื่อว่านายแพทย์แอนเดอร์สันเป็นคนยืนยันเรื่องการถูกของแข็งตีจริงๆ
  • ครอบครัวจอห์นสันยังทำแคมเปญเรียกร้องความยุติธรรมให้เคนดริก ทั้งจัดวิ่งการกุศลเพื่อหาเงินมาเป็นค่าดำเนินการ ซึ่งได้เงินไปกว่า 5,000 เหรียญ แต่ไม่ได้เอาไปใช้ดำเนินการในคดีนี้จริงๆ และไปยืนประท้วงหน้าศาลจนโดนจับ สาธุคุณโรสที่มาช่วยสืบคดี ต้องเอาบ้านตัวเองวางค้ำประกันตัวแม่ของเคนดริกออกมา
  • ยังไม่หมด ครอบครัวนี้ยังกล่าวหาทางโรงเรียนเลาซ์ด้วยว่ามีส่วนรู้เห็นในการปิดบังคดีนี้ โดยกล่าวว่าคลิปจากกล้องวงจรปิดนั้นถูกตัดต่อให้ไม่เห็นว่ามีคนตามเข้าไปทำร้ายเคนดริกในโรงยิม และไม่ยอมเปิดเผยคลิปดังกล่าว จริงๆ แล้วตามกฎหมายที่นั่น คลิปนี้เป็นหลักฐานทางคดีจึงเปิดเผยต่อสาธารณชนไม่ได้จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะยื่นขอให้ศาลอนุญาต ซึ่งฝั่งทางโรงเรียน สาธุคุณโรส และเจ้าหน้าที่เล ทุชตันก็เรียกให้ครอบครัวจอห์นสันมาดูคลิปด้วยตาตัวเอง แต่ครอบครัวนี้ก็ไม่มา จนทนายของโรงเรียนยื่นเรื่องขออนุญาตเองซะเลย เมื่อคลิปเผยแพร่ออกมากลายเป็นว่าทนายของครอบครัวจอห์นสันแอบอ้างกับสื่อว่าเป็นคนขอให้ศาลเผยแพร่คลิปเอง (เอ๊า!!!)
  • ปิดท้ายกันที่เพจเฟซบุ๊กที่ครอบครัวนี้สร้างขึ้นเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับลูกชายตัวเอง ก็เอารูปคนที่พวกเขาเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตาย ทั้งแบรนเดน และไบรอัน เบล พีคสุดคือเอารูปคุณย่าวัย 92 ปีของเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งของเคนดริก ซึ่งสองคนนี้ไม่ได้สนิทกันเลย มาลงในเฟซพร้อมข้อความว่า Justice will be served. (ตัวแทนแห่งจันทราจะลงทัณฑ์แกเอง //ผิดๆ)
  • แถมให้อีกนิด ครอบครัวจอห์นสันยังไปถ่ายภาพศพลูกชายตัวเองในงานศพ ซึ่งสภาพศพนั้นจะดูบวมผิดปกติกว่าภาพที่ถ่ายตอนพบศพทีแรก เนื่องจากการเน่าและมีการผ่าใบหน้าเพื่อหารอยช้ำใต้ผิวหนัง และเอามาโพสต์ในเฟซ ให้คนช็อกและเชื่อว่านี่คือใบหน้าที่เกิดจากการทุบตีจนตายจริงๆ

        พอดีกว่า ยิ่งเขียนยิ่งรู้สึกไปกันใหญ่ จริงๆ คดีนี้จบตั้งแต่หัวข้อที่ 2 แล้วค่ะ แต่เรื่องมันไปกันใหญ่เพราะครอบครัวจอห์นสันปักใจเชื่อว่าลูกชายตัวเองไม่ได้ตายด้วยอุบัติเหตุ ซึ่งเรื่องนี้ก็มีผลมาจากหลายสาเหตุ นั่นคือ ความช็อกจากการสูญเสียลูกในสภาพที่ผิดธรรมชาติ และยิ่งมารู้ว่าลูกเป็นเพื่อนกับคนผิวขาวที่มีพ่อเป็นเจ้าหน้าที่ FBI อคติภายในใจก็อาจทำให้ฝังใจว่ามันมีบางอย่างซ่อนอยู่ในคดีนี้
        แต่จริงๆ แล้วมันไม่มีอะไรเลยค่ะ เป็นเรื่องของการตีโพยตีพายล้วนๆ
 

และหวยไปออกที่...

        ความโวยวายไปกันใหญ่ของครอบครัวจอห์นสัน ก็นำมาสู่ความฉิบหายวายป่วงของชีวิตคนหลายคน เช่น วิลเลี่ยม แอนเดอร์สัน ที่จริงๆ แล้วประจำตำแหน่งนักพยาธิวิทยาของรัฐฟลอริด้า พอเจอครอบครัวนี้ขยายผลชันสูตรของตัวเอง แล้วสื่อเอาไปตีข่าวโครมๆ คนก็ปักใจเชื่อว่าแอนเดอร์สันแจ้งผลชันสูตรแบบนี้จริงๆ (มันแค่รอยถลอกอ่ะเธอ ไม่ใช่รอยทุบ) เป็นผลให้ถูกรัฐเลิกจ้าง และต้องกลายมาเป็นนักพยาธิวิทยาอิสระซะงั้น
        คนที่หนักสุดเห็นจะหนีไม่พ้นไบรอัน เบล เพราะนอกจากเพื่อนตัวเองจะเสียชีวิตแล้ว ตัวเองยังโดนตราหน้าว่าฆ่าเพื่อนอีก และด้วยความที่เขาเป็นนักกีฬาฟุตบอลอเมริกันของโรงเรียน ตามสไตล์เด็กแบบนี้ก็จะใช้ความสามารถในการเล่นกีฬาขอทุนมหาวิทยาลัยต่างๆ แต่พอเจอข่าวแบบนี้เข้าไป ทางมหาวิทยาลัยก็กลัวว่าจะมีปัญหากับเพื่อนๆ ทำให้เขาพลาดทุนดีๆ ไปเลย พอเดินไปทางไหนก็มีแต่คนซุบซิบนินทา คิดว่าเขาอาจจะเป็นฆาตกรจริงๆ อีก
        เฮ้อ...ปวดหัว
        แม้แต่เจ้าหน้าที่เล ทุชตันยังขอลาออกจากองค์กรเพราะเพลียกับการทำงานตามคำสั่ง ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าครอบครัวจอห์นสันจินตนาการเก่งยิ่งกว่าคนเขียนบทดิสนีย์แค่ไหน แหม...คดีนี้เปลี่ยนชีวิตคนหลายคนเลยนะ
 
        และนั่นแหละค่ะ เป็นคดีที่เหมือนจะซับซ้อน มีคนอยู่เบื้องหลังเยอะแยะ แต่จริงๆ แล้วเป็นแค่อุบัติเหตุ
        สรุปได้สั้นๆ ว่า
เคนดริก จอห์นสันไปเอารองเท้าที่โรงยิม จริงๆ เขาแค่ผลักเสื่อออกแล้วหยิบรองเท้าเลยก็ได้ แต่คงเพราะตอนนั้นมีเสื่อใหม่มาบังด้วย เขาเลยใช้วิธีปีนขึ้นไปหยิบเอาจากด้านบนเสื่อ แล้วดันพลัดตกลงไป จะดิ้นให้เสื่อล้มก็ไม่ได้เพราะเสื่อใหม่มาบัง จึงเสียชีวิตไปในที่สุด
        เพียงเท่านี้ ซึ่งต้องพิสูจน์ค่ะ

 
ข้อมูลจาก
news.com
myajc.com
reddit.com
ภาพประกอบจาก
คลิปวิดีโอในที่เกิดเหตุ
Atlanta Black Star
Keywords King
พี่น้อง
พี่น้อง - Columnist คอลัมนิสต์

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
nettyja 4 พ.ค. 60 15:01 น. 4-1

เสื่อมันตั้งเป็นม้วนๆ หลายๆ ม้วนอ่า แล้วม้วนที่เก็บรองเท้าไว้คงจะอยู่ตรงกลางๆ แบบมีม้วนอื่นตั้งอยู่รอบๆทพอตกลงไปแล้วจะทำให้เสื่อล้มเพื่อออกมาก็ไม่ได้ เพราะเสื่ออื่นมันตั้งล้อมไว้อยู่

0
กำลังโหลด

5 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
nettyja 4 พ.ค. 60 15:01 น. 4-1

เสื่อมันตั้งเป็นม้วนๆ หลายๆ ม้วนอ่า แล้วม้วนที่เก็บรองเท้าไว้คงจะอยู่ตรงกลางๆ แบบมีม้วนอื่นตั้งอยู่รอบๆทพอตกลงไปแล้วจะทำให้เสื่อล้มเพื่อออกมาก็ไม่ได้ เพราะเสื่ออื่นมันตั้งล้อมไว้อยู่

0
กำลังโหลด
Mrs.Narin 8 ก.ย. 63 05:15 น. 5

ขอโทษน๊าาา รบกวน ศึกษาข่าวใหม่เด้อออ รอบวงเสื่อ14 รอบไหล่19 ทำไงก็เข้าไปไม่ได้น๊าาา อีกอีกอย่างสะอึกตรงที่ ภาพกล้องวงจร ถูกเปลี่ยนไฟล์นะคะ อ๊อ! อีกอย่างนึงคือ สรุปผลสภาพศพภายใน21 ชม. เป็นไปได้หรือ!! สภาพศพแรกเจอเลือดคลั่งที่หน้า ออกมาทางรู จมูก ตา หู แต่ไม่มีร่องรอยเปื้อนเลือกสักนิด (รองเท้าเพิ่งนำมาวาง)

สภาพศพดูก็รู้ว่าถูกเคลื่อนย้าย

โอกาสถูกฆาตกรรม99% นะคะ

ปล.เราศึกษาสภาพศพและเหตุการณ์ ดูก็รู้คะ ฆาตกรรมอำพราง แต่ขอไม่ออกความคิดเห็นทางด้านครอบครัว



0
กำลังโหลด
กำลังโหลด