14 ประโยคภาษาอังกฤษ ที่ 'คนญี่ปุ่น' มักพูดผิดจนติดปาก

7 ที่สุดการประดับไฟคริสต์มาสที่โตเกียว ใครจะไปญี่ปุ่นห้ามพลาด! (สวยมาก)

       สวัสดีครับน้องๆ ชาว Dek-D.com เจอกับ พี่โช และคอลัมน์ JaPON JaPAN (เจปงเจแปน) วันนี้มาแนววิชาการนิดๆ แต่ก็ไม่มากมายนัก เพราะจะเป็นเรื่องภาษาอังกฤษแบบญี่ปุ่นครับ ว่าแต่จะเป็นอย่างไรหรือเหมือนกับคนไทยเวลาพูดผิดขนาดนั้นไหนนั้นต้องลองไปดูกันครับ บอกเลยบางอันคนไทยไม่มีทางพูดผิดแน่ๆ และหลายอันก็เคยได้ยินคนไทยใช้ผิดบ่อยๆ เช่นเดียวกัน บทความนี้ต้องขอขอบคุณเว็บ goo.ne.jp ด้วยครับที่รวบรวมประโยคน่าสนใจเหล่านี้เอาไว้เป็นจำนวนมาก พี่โชเห็นว่าน่าสนใจเลยเอาเลือกมาแปลให้อ่านกันครับ 

 
1. อาหารเหล่านี้รสแกงกะหรี่
 
คนญี่ปุ่นพูดว่า They are curry taste.
ฝรั่งพูดว่า  They taste of curry.

ไม่แน่ใจว่าคนไทยเวลาพูดประโยคนี้เป็นภาษาอังกฤษจะพูดกันว่าอะไร แต่จากที่ไปลองถามคนรอบๆ ตัว คนไทยหลายคนจะพูดว่า “They have curry taste (มีรสกะหรี่)” ในขณะที่คนญี่ปุ่นหลายคนที่พูดภาษาอังกฤษไม่แข็งจะพูดแบบตรงๆ ว่า “They are curry taste” คือใช้ verb to be (is am are) ตรงๆ ไปเลย เหมือนกับแปลมาจากภาษาญี่ปุ่นตรงตัว ประมาณว่า “มันคือรสกะหรี่” ในหนังสือสอนภาษาอังฤษที่ญี่ปุ่นบอกว่าการพูดแบบนี้ไม่โอเค ถ้าจะให้เป๊ะและเหมือนฝรั่งกว่า แนะนำให้พูดว่า “They taste of curry.” แทน ไหนใครมีวิธีพูดอย่างอื่นมาแชร์กันครับ

 
2. เธอเลี้ยงหมา/เธอมีหมา


 
คนญี่ปุ่นพูดว่า  She is having a dog.
ฝรั่งพูดว่า  She has a dog.

คิดว่าคนไทยไม่น่าพูดประโยคนี้ผิดจนฝรั่งงง แต่ที่ญี่ปุ่น หลายคนแทนที่จะพูดตรงๆ ว่า "She has a dog" กลับมักจะพูดกันด้วย present continuos tense คือมี ing ว่า “She is having a dog” ที่เป็นแบบนี้เพราะในภาษาญี่ปุ่น เวลาจะพูดว่าใครเลี้ยงหมาหรือมีหมานั้นจะพูดกันในลักษณะนั้น ถ้าใครรู้ภาษาญี่ปุ่นก็จะเข้าใจดีว่าคนญี่ปุ่นแปลมาจากภาษาญี่ปุ่นทั้งอย่างนั้นเลย (彼女は犬を飼っている) ซึ่งแน่นอนว่าฝรั่งจะเข้าใจผิด เพราะ   “She is having a dog” มันสื่อไปได้ว่า เธอกำลังตั้งท้องเป็นหมา นั่นเอง แรงอะ

 
3. ช่วยบอกที่อยู่ของคุณได้ไหม

คนญี่ปุ่นพูดว่า  Teach me your address.
ฝรั่งพูดว่า  Tell me your address.

ถ้าเป็นภาษาอังกฤษทั่วไปก็ควรพูดว่า “Tell me your address” คิดว่าคนไทยหลายคนอาจงงว่า ง่ายขนาดนี้มีอะไรให้พูดผิด ซึ่งในแง่ไวยากรณ์ คนญี่ปุ่นก็พูดไม่ผิดเหมือนกันครับ แต่จะมาตกม้าตายที่คำว่า tell เพราะคำว่า “บอก” ในกรณีนี้ คนญี่ปุ่นจะไม่ใช้คำว่า tell แต่จะพูดว่า teach (教える) กลายเป็น “Teach me your address” ซึ่งก็จะฟังดูยิ่งใหญ่อลังการมาก เพราะจะแปลว่า “ช่วยสอนที่อยู่ให้ฉันหน่อยได้ไหม” จะว่าไปก็แอบเก๋อยู่นะ

 
4. ฉันกำลังจะแต่งงาน


 
คนญี่ปุ่นพูดว่า  I am going to marriage. 
ฝรั่งพูดว่า  I am going to get married..
 
คิดว่าคนไทยหลายคนถ้าจะพูดเป็นภาษาอังฤษคงจะพูดว่า "I am going to marry." ซึ่งถ้าจะพูดให้ถูกต้องจริงๆ ต้องพูดว่า "I am going to get married." แต่คนญี่ปุ่นที่ไม่ค่อยเชี่ยวภาษาอังกฤษอาจจะพูดต่างออกไป เพราะจะพูดว่า  "I am going to marriage" ซึ่งแน่นอนว่าฝรั่งงง เพราะจะให้แปลว่า "ฉันกำลังจะไปงานแต่งงาน" หรือจะ "การแต่งงาน" กันแน่ ไม่เข้าใจ ที่งงกว่านั้นคือ คนที่กำลังจะแต่งงานคือยู หรือยูกำลังจะไปงานแต่งงาน งานแต่งงานใครกันแน่เนี่ย  

 
5. ฉันถึงเกียวโตแล้ว


 
คนญี่ปุ่นพูดว่า  I arrived to Kyoto..
ฝรั่งพูดว่า  I arrived in Kyoto.

คำกริยานี้แปลว่า 'มาถึง' คนไทยรู้จักคำว่า arrive กันดีและไม่น่าจะใช้ผิด ที่ผิดก็จะเป็นคำบุพบทหลังคำว่ามาถึง ว่าจะ  "arrive at" หรือ "arrive in" กันแน่ ข้อสอบก็ชอบออกหลอกบ่อยๆ ง่ายนิดเดียว แค่จำไว้ว่า "arrive at" ใช้กับสถานที่เจาะจง เช่น สนามบิน ที่ทำงาน สถานีรถไฟ หรือ โรงเรียน ส่วน "arrive in" ใช้กับสถานที่ที่กว้างขึ้น เช่น ถึงเมืองไทย ถึงโตเกียว ถึงประเทศจีน ในขณะที่คนญี่ปุ่นนอกจากจะงง at และ in แล้ว ยังมีคำว่า "arrive to" เข้ามาเพิ่มให้เหนื่อยชีวิตอีกด้วย หลายคนจึงพูดว่า  "We arrived to Kyoto." ซึ่งไม่ถูกต้อง เพราะต้องพูดว่า "We arrived in Kyoto." เพราะมาถึง “เมืองเกียวโต” นั่นเอง


6. ฉันได้รับมันจากสามี

คนญี่ปุ่นพูดว่า  I was given it from my husband.
ฝรั่งพูดว่า  I got it from my husband.

คนญี่ปุ่นมักจะพูดประโยคนี้เป็นประโยคถูกกระทำอย่างอลังการงานสร้างว่า  “I was given it from my husband.” คือเอาจริงๆ ก็ไม่ผิดแกรมมาร์ แต่ก็ฟังดูยุ่งเหยิง ถ้าคิดดีๆ เหมือนมีคนไทยพูดว่า “ฉันได้รับการถูกให้มาจากสามีของฉัน” แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว จึงแนะนำให้พูดง่ายๆ และถูกต้องว่า “I got it from my husband.” ก็พอ
 

7. ฉันผิดเอง/เป็นความผิดฉันเอง



คนญี่ปุ่นพูดว่า  I was bad.
ฝรั่งพูดว่า  It was my fault.

คนญี่ปุ่นแทนที่จะพูดว่า “It's my fault.”  มักจะพูดกันว่า “I was bad.” ซึ่งจะกลายเป็นว่า “ฉันเป็นคนเลวระยำต่ำช้ามารยาที่สุด” ฝรั่งก็จะงงว่าจะโทษตัวเองอะไรขนาดนั้น จริงๆ แล้วก็เพราะการพูดว่าฉันผิด ในภาษาญี่ปุ่น เขาพูดกันว่า “ฉันเลว” จริงๆ (私が悪かった)


 
8. ใช้เวลานานเท่าไหร่

คนญี่ปุ่นพูดว่า  How long time?
ฝรั่งพูดว่า  How long will it take?
 
อย่างที่เห็น คนญี่ปุ่นพูดว่า “How long time?” ซึ่งถ้าให้ถูกต้องแบบฝรั่งพูดจริงๆ วิธีหนึ่งที่สามารถพูดได้คือ “How long will it take?” คิดว่าน้องๆ คนไทยก็น่าจะไม่พลาดนะครับ


9. ปวดหัว


 
คนญี่ปุ่นพูดว่า  Head pain
ฝรั่งพูดว่า  Headache

อันนี้ไม่แน่ใจเพราะไม่เคยเจอคนญี่ปุ่นพูดแบบนี้กับตัวเอง แต่ในแหล่งข้อมูลจากญี่ปุ่นบอกว่าคนญี่ปุ่นแทนที่จะพูดว่า “headache” บางคนจะพูดว่า “head pain” แทน เพราะก็ตามตัว นางคงปวดที่หัวจริงๆ เพราะ pain แปลว่า ปวด และ head แปลว่า หัว แปลตรงตัวขนาดนี้ ชีวิตดูง่ายไปมั้ย

 
10. ฉันเคยไปแคนาดา


 
คนญี่ปุ่นพูดว่า  I have ever been to Canada.
ฝรั่งพูดว่า  I have been to Canada.

เวลาจะพูดว่าเคยไปไหน ภาษาอังกฤษก็จะพูดว่า  "I have been to..." แล้วตามด้วยชื่อสถานที่ที่เราเคยไป ซึ่งคนญี่ปุ่นบางคน (เชื่อว่าอาจมีชาวต่างชาติรวมถึงชาวไทย) อาจไม่พูดตามนี้ เพราะจะไปพูดว่า  “ I have ever been to...” แทน ถ้าถามว่าทำไมถึงผิด คำอธิบายง่ายๆ ก็เป็นเพราะ คนถาม เวลาถามว่าคุณเคยไปไหนมาบ้าง เขาจะถามกันว่า  "Have you ever  been to…?" คนตอบเลยติดลม ลากคำว่า  ever เข้ามาในประโยคคำตอบด้วย ซึ่งไม่ถูกต้อง ดังนั้น เวลาจะพูดว่าเคยไปไหน แค่พูดว่า "I have been to…" ก็พอแล้วครับ


11. ฉันรู้สึกเบื่อๆ  

คนญี่ปุ่นพูดว่า  I am boring
ฝรั่งพูดว่า  I feel bored.

อันนี้คิดว่าไม่ใช่แค่คนญี่ปุ่นที่ผิด เพราะหลายคนใช้คำว่า boring กับ bored สลับกัน ให้จำไปเลยว่า boring แปลว่า  “น่าเบื่อ” ดังนั้น จะไม่เอามาพูดว่า I am boring แน่นอน เพราะจะกลายเป็นว่า  “ฉันน่าเบื่อ” ถ้าจะพูดให้ถูกต้องพูดว่า I feel bored จึงจะหมายความว่า “ฉันรู้สึกเบื่อ” จริงๆ ครับ หลักการนี้ ใช้กับคำว่า excited (รู้สึกตื่นเต้น) และคำอื่นๆ ที่คล้ายๆ กันอีกด้วยครับ อย่าผิดอีกนะครับ
 

12. พวกเขาเป็นคนใจดี


 

คนญี่ปุ่นพูดว่า  They were so kind people.
ฝรั่งพูดว่า   They were so kind.

บางทีคนญี่ปุ่นก็พูดอะไรตรงมากๆ แปลทุกอย่างจากภาษาตัวเองไปเป็นภาษาอังกฤษ เช่นเวลาจะพูดว่าใครเป็นคนใจดี ในกรณีนี้ คนญี่ปุ่นแทนที่จะพูดแบบฝรั่งว่า  “They were so kind.” แต่กลับพูดว่า “They were so kind people.” เพราะในภาษาญี่ปุ่นก็เหมือนภาษาไทย พอจะพูดว่าเป็นคนใจดี ก็ต้องมีทั้งคำว่า “คน” และมีทั้งคำว่า “ใจดี” จึงเป็นที่มาว่าทำไมต้อง เป็น kind people ดังนั้น เพื่อไม่ให้เยิ่นเย้อ แค่พูดว่า They were so kind. ก็พอแล้วครับ

 
13. ฉันเคยไปยุโรป

คนญี่ปุ่นพูดว่า  I have gone to Europe.
ฝรั่งพูดว่า  I have been to Europe.

สำหรับข้อนี้เป็นเรื่องของการใช้คำ โดยเฉพาะคำว่า “ไป” ในประโยค “ฉันเคยไปยุโรป” เพราะในภาษาอังกฤษ จะไม่ใช้ go แต่ไปใช้คำว่า be แทน ฝรั่งจึงพูดว่า I have been to Europe. ในขณะที่คนญี่ปุ่นใช้คำว่า go ทั้งอย่างนั้น จึงกลายเป็น I have gone to Europe. ซึ่งพอฝรั่งได้ยินแล้วฟังดูเหมือนไปแล้วไปลับไม่มีชีวิตรอดกลับมาอย่างไรอย่างนั้น ก็ต้องระวังไว้ด้วยครัย
 

14. ฉันจะไปประเทศไทย


 
คนญี่ปุ่นพูดว่า  I will go to Thai.
ฝรั่งพูดว่า  I will go to Thailand.

เนื่องจากคนญี่ปุ่นเรียกประเทศไทยว่า  “ไทย” ไม่ใช่ Thailand แบบในภาษาอังกฤษ เวลาคนญี่ปุ่นพูดภาษาอังกฤษเกี่ยวกับบ้านเรา จึงเรียกประเทศเราว่า Thai   เวลาพูดว่าจะไปประเทศไทย จึงพูดกันว่า I will go to Thai จึงฟังดูห้วนๆ และได้ยินบ่อยมากถึงมากที่สุด ในลักษณะเดียวกัน คนญี่ปุ่นเวลาพูดภาษาอังกฤษว่าไปเยอรมนี ก็จะเรียกกันว่า Deutsch ติดมาจากแบบฉบับที่คนเยอรมันเรียกตัวเองซึ่งคนญี่ปุ่นก็ใช้คำนี้ในภาษาญี่ปุ่นด้วย หลายครั้ง เราจะได้ยินคนญี่ปุ่นพูดว่า “I don't speak Deutsch” แทนที่จะพูดว่า “I don't speak German” ก็เก๋ดี



     ประโยคข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของประโยคที่ผู้รวบรวมชาวญี่ปุ่นเห็นว่าคนญี่ปุ่นพูดผิดจากภาษาอังกฤษกันมาก คิดว่าหลายข้อก็เป็นการพูดเฉพาะแบบที่คนญี่ปุนเท่านั้นที่จะพูดได้ และมีหลายข้ออีกเช่นเดียวกันที่เป็นลักษณะร่วมกับชาวต่างชาติอื่นๆ ที่ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ น้องถ้ามีตัวอย่างหรือประสบการณ์อะไรเกี่ยวกับภาษาทำนองนี้ไม่ว่าจะประเทศอะไรก็ลองโพสต์กันมาดูนะครับ วันนี้เอาแค่นี้ก่อน แล้วอย่าลืมติดตามบทความจากพี่โชเกี่ยวกับญี่ปุ่นอีกนะครับ
 
บทความอ้างอิง : http://dictionary.goo.ne.jp/mistake_english/
พี่โช
พี่โช - Columnist คอลัมนิสต์ฝ่ายเรียนต่อนอก

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

2 ความคิดเห็น

Mashimorororo 22 ส.ค. 59 13:29 น. 1
ใช่เลยค่ะ เคยเจอแบบข้อ3 เอาซะเรางงไปเลย เพื่อนคนญี่ปุ่นเขาขอที่อยู่ เขาก็บอกเราว่า teach me to your address, please เราก็ งงๆ อะไรให้เราสอนที่อยู่ทำไม555 ถึงกับนั่งเปิดดิกเพื่อหาว่ามันมีอีกความหมายรึป่าว แต่ก็ไม่มี555 ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะรักเลย
0
กำลังโหลด
LaPomme 25 ส.ค. 59 14:20 น. 2
ภาษาอังกฤษญี่ปุ่นทำปวดหัวหลายตลบละค่ะตั้งแต่คำศัพท์ยันแกรมม่า ทำงานทีแทบจะกราบขอให้พูดญี่ปุ่นแทนเถอะ 555
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด